อดีต ส.ส.ปชป.คนเดียวของระนอง ประกาศไม่อยู่รับ "บิ๊กตู่" แจงติดคดีช่วยชาวบ้าน ฝากนายกฯ อย่ามองข้ามเป็นเพียงจังหวัดเล็กๆ ขอช่วยเพิ่มศักยภาพท่าเรือน้ำลึก และแก้ไขปัญหาแพปลาใหม่
วันที่ 18 ส.ค. นายวิรัช ร่มเย็น อดีตส.ส.ระนอง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช.พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะลงพื้นที่จังหวัดระนอง ชุมพร ในวันที่ 20-21 ส.ค.นี้ว่า ต้องขออภัยที่ตนไม่ได้อยู่ต้อนรับคณะของท่านนายกฯ และครม.สัญจรที่ให้เกียรติมาจัด ครม.สัญจร ที่ระนอง เพราะแม้จะตกงานการเมือง แต่ตนก็ยังทำหน้าที่เป็นทนายความอาสารับว่าความช่วยเหลือคดีให้กับประชาชน ซึ่งในวันดังกล่าวตนติดนัดหมายเรื่องคดีความช่วยชาวบ้าน จึงไม่ได้อยู่ในพื้นที่ต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ และอยากฝากข้อคิดถึงนายกฯ และรัฐบาลว่า อย่าคิดเหมือนบางรัฐบาลก่อนหน้านี้ ที่เห็นว่า ระนองเป็นจังหวัดเล็กๆ แล้วจัดงบประมาณมาเพื่อพัฒนาจังหวัดให้เพียงเล็กน้อย แต่ขอให้นายกฯ คิดถึงความจำเป็นและยึดหลักหากคิดว่า จะทำให้จังหวัดระนองมีความเจริญรุดหน้าเป็นหัวเมืองหลักด้านอันดามันอีกแห่ง เพราะมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว คือ มีทั้งทรัพยากรธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพ ดยเฉพาะมีแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติ ที่รัฐบาลสามารถต่อยอดเสริมศักยภาพด้านการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมาถูกมองข้ามไป
นายวิรัช กล่าวต่อว่า อีกเรื่องที่อยากให้นายกฯ พิจารณา คือ ระนองมีท่าเรือน้ำลึกเป็นท่าเรืออเนกประสงค์ ที่สร้างเสร็จสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย เปิดใช้จนถึงปัจจุบัน ซึ่งสามารถรองรับเรือเดินสมุทรขนส่งสินค้าทางทะเล หรือเรือท่องเที่ยวระดับโลกได้ อยากให้รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญส่งเสริมและใช้ท่าเรืออเนกประสงค์แห่งนี้ ในการเพิ่มศักยภาพทั้งด้านการขนส่งทางทะเล และด้านการท่องเที่ยวให้บูมมากกว่านี้ เพราะเมื่อสองปีที่แล้ว นายกฯ เคยพูดเองว่า จะสร้างทางรถไฟสายระนอง-ชุมพร เพื่อเปิดการท่องเที่ยวเชื่อมต่อระหว่างอ่าวไทย-อันดามัน หากรัฐบาลทำจริงจะสามารถเชื่อมต่อกับการขนส่งทางเรือให้สะดวกยิ่งขึ้น และยังเป็นการเพิ่มตลาดการท่องเที่ยวโดยเปิดเมืองระนองสู่สายตาชาวโลกได้มากกว่าปัจจุบัน และขอฝากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยแก้ไขปัญหากรณีชุมชนแพใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ทำแพปลาที่ชาวบ้านเข้าไปทำมาหากินและมีปัญหา ขอให้ช่วยชาวระนองในเรื่องเหล่านี้ด้วย และขอขอบคุณที่มาเยือน จ.ระนอง
...