แจงปรับเกณฑ์เบิกจ่ายยามะเร็ง

“บัญชีกลาง”ยันข้าราชการยังเบิกตรงได้

กรมบัญชีกลาง แจงเหตุปรับเกณฑ์เบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคมะเร็งและโลหิตวิทยา หวังผู้ป่วยใช้ยาให้เหมาะสม เหตุยาบางตัวอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต และให้เข้าถึงยามากขึ้น พร้อมยันผู้ป่วยนอกที่ใช้ยาและเบิกจ่ายตรงก่อน 14 ก.พ.61 ยังเบิกจ่ายตรงเหมือนเดิม เว้นผู้ป่วยใหม่ ให้ทดลองจ่ายไปก่อน แล้วนำใบเสร็จมาเบิกกับต้นสังกัด

นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงกรณีที่กรมได้กำหนดหลักเกณฑ์ และแนวทางปฏิบัติในการเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาล สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งและโลหิตวิทยา (ระบบ OCPA) ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาที่มีค่าใช้จ่ายสูงว่า การกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าว เพื่อให้เกิดการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล คุ้มค่า เกิดประโยชน์และปลอดภัยกับผู้ป่วย เนื่องจากยากลุ่มดังกล่าว เหมาะสมสำหรับการรักษาเฉพาะบางโรค บางกรณีเท่านั้น และเป็นยาอันตราย อาจทำให้ผู้ป่วยอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต

สำหรับการปรับปรุงหรือกำหนดรายการยา และเงื่อนไขข้อบ่งชี้สำหรับการเบิกจ่ายค่ายามะเร็ง ที่มีค่าใช้จ่ายสูงในครั้งนี้ ได้ดำเนินการโดยมีคณะทำงาน ประกอบด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เช่น มะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย สมาคมโลหิตวิทยาแห่งประเทศไทย เป็นต้น โดยคณะทำงาน เห็นควรให้ห้ามเบิกจ่ายยาที่มีราคาสูงบางรายการที่ใช้ยาอื่น หรือการรักษาอื่นทดแทนได้ และมีผลการรักษาที่ใกล้เคียงกัน โดยผู้ป่วยสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ยังคงได้รับการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ ตามความเหมาะสม และจำเป็น แต่เพื่อลดผลกระทบจากการกำหนดมาตรการ จึงกำหนดเป็นรายการยาที่ยังคงให้เบิกจ่ายได้ แต่ในกรณีรักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอก ผู้มีสิทธิต้องทดรองจ่ายเงินไปก่อน แล้วนำใบเสร็จรับเงินไปเบิกกับต้นสังกัด โดยใช้บังคับเฉพาะผู้ป่วยรายใหม่ สำหรับผู้ป่วยที่ใช้ยาและเบิกจ่ายตรงก่อนวันที่ 14 ก.พ.61 ยังคงเบิกจ่ายตรงได้เช่นเดิม.

นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าวว่า การปรับปรุงครั้งนี้ ได้เพิ่มรายการยาในระบบ จากเดิมมียา 6 รายการ เป็น 9 รายการ และเพิ่มเงื่อนไขและข้อบ่งชี้ในการใช้ยาจากเดิม 7 โรค เพิ่มเป็น 17 โรค ซึ่งจากการปรับเพิ่มรายการแล้ว ทำให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น 1.5 เท่า สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด และเพิ่มขึ้น 2 เท่า ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม เช่น ยารักษามะเร็งเต้านม (Trastuzumab) เดิมให้เบิกได้เฉพาะระยะแพร่กระจาย ก็จะขยายให้เบิกได้ทั้งระยะแพร่กระจายและระยะเริ่มต้น หรือยารักษามะเร็งปอด (Gefitinib) เดิมให้เบิกได้เฉพาะการรักษาเป็นขนานที่ 3 ก็จะปรับให้เบิกได้ตั้งแต่การรักษาเป็นขนานแรก เป็นต้น ทั้งนี้ จะขยายสิทธิให้ครอบคลุมยาที่จำเป็นเพิ่มเติมต่อไปเป็นระยะๆ เพื่อให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงยาเพื่อการรักษาได้มากขึ้น

นอกจากนี้ การกำหนดรายการยาในระบบ OCPA จำนวน 6 รายการ เป็นยาที่กำหนดไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติ บัญชี จ (2) ด้วยเพียงแต่ข้อบ่งชี้ในการเบิกจ่ายในระบบ OCPA กำหนดไว้มากกว่า ซึ่งทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้มากยิ่งขึ้น “กรมได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ครั้งนี้ คำนึงถึงความสมเหตุสมผลในการใช้ยา สอดคล้องกับวิวัฒนาการทางการแพทย์ มีความปลอดภัยกับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา โดยผู้ป่วยสิทธิสวัสดิการ ยังคงเข้าถึงยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติได้ หากมีความจำเป็นทางการแพทย์ ตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด”.