ไทยรัฐฉบับพิมพ์
คาดคู่ชิง-คือสิงโต ‘ปิศาจแดง’ แรงที่ 3 ส่วนโครเอเชียบ๊วย
ปากพาซวย “ตาหมากรุก” โครเอเชีย ลุ้น “โดมากอย วิดา” ปราการหลังตัวเก่งอาจจะชวดลงสนามพบทีมชาติอังกฤษ ในรอบรองชนะเลิศ หลังอาจโดน “ฟีฟ่า” ลงดาบแบน 2 นัดหลังจากตะโกนคำยั่วยุทางการเมือง
หลังจากจบเกมชนะจุดโทษรัสเซีย 4-3 ไปได้ ขณะที่ “ซลัตโก ดาลิช” กุนซือโครเอเชียมั่นใจว่าจะไม่หยุดแค่ตัดเชือกแน่ ส่วน “ลูกา โมดริช” มั่นใจลูกทีมฟิตทันดวล “สิงโตคำราม” ลั่นจะทำให้ดีกว่าชุดอันดับ3 ฟุตบอลโลกปี 1998 ส่วนแข้งรัสเซียยิ้มแก้มปริหลัง “วลาดิเมียร์ ปูติน” ชมว่าเล่นได้ดีมากพร้อมเชิญเข้าพบส่วนตัวหลังจากจบบอลโลก ส่วน “วิลเลียมส์ ฮิลล์” ออกมายกให้ “ฝรั่งเศส-อังกฤษ” เป็นคู่ชิงชนะเลิศที่มีโอกาสมากสุด พร้อมยกแข้งตราไก่ตัวเต็งซิวแชมป์โลก 2018
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย เมื่อดึกวันที่ 7 ก.ค. ตรงกับเวลา 01.00 น.วันที่ 8 ก.ค.ตามเวลาไทย “ตาหมากรุก” โครเอเชีย ต้องเล่น 120 นาทีเต็ม ก่อนดวลจุดโทษเอาชนะ “หมีขาว” รัสเซีย ไป 4-3 หลังจากเสมอในเวลา 120 นาที 2-2 ผ่านเข้าไปพบกับ “สิงโตคำราม” อังกฤษ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในเวลา 01.00 น.วันที่ 12 ก.ค.
อย่างไรก็ตาม โครเอเชียอาจจะต้องพบกับข่าวร้ายเมื่อโดมากอย วิดา ปราการหลังตัวสำคัญที่ยิงประตูขึ้นนำ 2-1 อาจจะโดนสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า สั่งลงดาบแบนเป็นเวลา 2 นัด หากทำผิดจริงหลังจากได้อัดคลิปพร้อมตะโกนว่า “ชัยชนะแด่ยูเครน” หลังจากเอาชนะรัสเซียได้ในการดวลจุดโทษ
โดยวิดาได้อัดคลิปพร้อมกับอ็อกเยน วูโคเยวิช ผู้ช่วยโค้ชแล้วตะโกนคำว่า “ชัยชนะเพื่อยูเครน” ซึ่งคำดังกล่าวเป็นคำพูดของทหารยูเครนในการต่อสู้เพื่อรักษาดินแดนกับทางรัสเซีย โดยทางฟีฟ่ามองว่าการกระทำของปราการหลังเบซิคตัสเป็นการยั่วยุทางการเมือง
หลังจากคลิปดังกล่าว วิดาได้ออกมายืนยันว่าเป็นการแค่อัดคลิปขำๆไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น แต่ล่าสุดฟีฟ่าได้สืบเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งถ้าพบว่าผิดจริงปราการหลังโครเอเชียจะโดนโทษแบน 2 นัดและปรับเงินอีก 5,000 ฟรังส์สวิส (ประมาณ 170,000 บาท) ซึ่งหมายความว่าปราการหลังวัย 29 ปี จะอดเล่นอีก 2 นัดที่เหลือในรอบรองชนะเลิศที่จะพบอังกฤษ และรอบชิงที่ 3 หรือรอบชิงชนะเลิศอีก 1 นัด
ส่วนซลัตโก ดาลิช กุนซือทีมชาติโครเอเชีย ได้ออกมายืนยันว่าตอนนี้ลูกทีมพร้อมที่จะเจออังกฤษในรอบชิงชนะเลิศแล้ว “มันยอดเยี่ยมมากสำหรับเกมนี้ พวกเราทำงานหนักมากเพื่อฝ่าฟันมันมาได้ มันไม่ใช่เกมที่สวยงาม เพราะมันมีการต่อสู้กันตลอดเวลาเพื่อที่จะเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ พวกเขา (รัสเซีย) เล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยมมาก เราโชคดีที่ผ่านมาได้ ต้องขอบคุณพระเจ้า พวกเราพร้อมแล้วที่จะเจอกับ อังกฤษ เราไม่ต้องการที่จะหยุดอยู่แค่ตรงนี้เราจะพยายามรักษาฟอร์มการเล่นของเราให้เหมือนกับ 2 เกมที่ผ่านมา เราต้องการชัยชนะอีกเพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น”
ขณะที่ลูกา โมดริช เพลย์เมกเกอร์กัปตันทีมโครเอเชีย เผยว่า ลูกทีมจะฟิตทันดวลกับทีมชาติอังกฤษอย่างแน่นอน พร้อมลั่นว่าจะไปให้ไกลกว่าในปี 1998 “เราผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ซึ่งกว่าจะกลับมาถึงจุดนี้อีกครั้งมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราหวังว่าจะไปได้ไกลกว่าในปี 1998 มันจะเป็นแมตช์หนักและยากมาก แต่เราจะสนุกไปกับมัน เราจะมีเวลาเตรียมตัวน้อยกว่า แต่มันจะไม่ใช่ปัญหากับการฟื้นฟูร่างกาย เราน่าจะพร้อมในการเจอกับพวกเขาในเกมรอบรองชนะเลิศ”
ด้านวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้กล่าวชื่นชมนักเตะรัสเซียทุกท่านที่ต่อสู้อย่างสุดความสามารถจนสามารถผ่านเข้ามาสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายล่าสุดพวกเขาก็ได้รับเชิญให้ไปเข้าพบกับท่านผู้นำของประเทศ “ปูตินโทร.หาเชอร์เชซอฟ เมื่อวันเสาร์ก่อนแมตช์และอวยพรให้โชคดีในเกมนี้ และหลังจากจบการแข่งขัน ปูตินโทร.หาเขาอีกครั้งและชื่นชมฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของนักเตะรัสเซีย รวมถึงเกมที่สวยงามและเข้มข้นในแมตช์ประวัติศาสตร์กับโครเอเชีย ท่านประธานาธิบดีเชิญเฮดโค้ชและนักเตะทีมชาติมาร่วมงานเลี้ยงที่จัดขึ้น เพื่อสรุปผลงานในการแข่งขันฟุตบอลโลกที่รัสเซีย” ดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียกล่าว
ส่วนทาง “วิลเลียมส์ ฮิลล์” บริษัทพนันถูกกฎหมายของประเทศอังกฤษได้ออกมายกให้ “ตราไก่” ฝรั่งเศส เป็นเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์โลก 2018 มาครองโดยมีอัตราต่อรองอยู่ที่ 15/8 ส่วน “สิงโตคำราม” อังกฤษ เป็นเต็ง 2 มีอัตราต่อรองอยู่ที่ 5/2 ส่วน เบลเยียม เป็นเต็ง 3 มีอัตราต่อรองอยู่ที่ 11/4 ส่วนโครเอเชียเป็นเต็ง 4 มีอัตราต่อรองอยู่ที่ 4/1
ขณะที่คู่ชิงชนะเลิศนั้น “วิลเลียมส์ ฮิลล์” เชื่อว่า ฝรั่งเศสกับอังกฤษ จะเป็นคู่ชิงชนะเลิศมากที่สุดมีอัตราต่อรองอยู่ที่ 9/5 ขณะที่ เบลเยียม พบ อังกฤษ มีโอกาสเป็นไปได้รองลงมามีอัตราต่อรองอยู่ที่ 23/10 ส่วนฝรั่งเศสพบโครเอเชีย มีอัตราต่อรองอยู่ที่ 14/5 ส่วนโครเอเชียพบเบลเยียม มีโอกาสเป็นไปได้อันดับสุดท้ายมีอัตราต่อรองอยู่ที่ 7/2
สำหรับการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ คู่แรก คิกออฟเวลา 01.00 น. วันที่ 11 ก.ค. ตามเวลาประเทศไทย ที่สนามเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สเตเดียม เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นการวัดฝีแข้งกันระหว่าง “ตราไก่” ทีมชาติฝรั่งเศส อดีตแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1998 ลงสนามพบกับ “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” ทีมชาติเบลเยียม เกมนี้ถ่ายทอดสดทางฟรีทีวีช่อง ททบ.5 (ช่อง 1), ทรูโฟร์ยู (ช่อง 24), อมรินทร์ทีวี (ช่อง 34) ขณะที่ทรูวิชั่นส์เคเบิลทีวี ถ่ายทอดสดทาง ทรู สปอร์ต เอชดี 3 (668) และทรู 4 เค แชนแนล (400)
สำหรับผลงานของทั้งคู่ในรอบที่ผ่านมา แข้งตราไก่ รอบแรกเอาชนะออสเตรเลีย 2-1, ชนะ เปรู 1-0, เสมอ เดนมาร์ก 0-0 เข้ารอบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มซี, รอบ 16 ทีม ชนะ อาร์เจนตินา 4-3 และรอบ 8 ทีม ชนะ อุรุกวัย 2-0 ขณะที่ “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” รอบแรก ชนะ ปานามา 3-0, ชนะตูนิเซีย 5-2, ชนะ อังกฤษ 1-0 เข้ารอบมาเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มจี, รอบ 16 ทีม ชนะ ญี่ปุ่น 3-2 และ รอบ 8 ทีม ชนะ บราซิล 2-1
สถิติของทั้งสองทีมพบกันมา 28 ครั้ง ฝรั่งเศส ชนะ 9 ครั้ง เสมอ 9 ครั้ง เบลเยียม ชนะ 10 ครั้ง โดยพบกันครั้งล่าสุดในปี 2015 ฝรั่งเศส แพ้ เบลเยียม 3-4 ขณะที่ผลงานในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เจอกันมา 2 ครั้ง ครั้งแรกที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพในปี 1938 ฝรั่งเศส เอาชนะเบลเยียม 3-1 และในปี 1986 ที่ประเทศเม็กซิโก นัดชิงที่ 3 ฝรั่งเศส เอาชนะ เบลเยียม ไปได้ 4-2 หลังจากเสมอในเวลา 120 นาที 2-2 ผลงานที่ดีที่สุดของทั้งสองทีมนั้น ฝรั่งเศสคว้าแชมป์โลกในปี 1998 ที่ฝรั่งเศสเป็นประเทศเจ้าภาพจัดการแข่งขันด้วย
ด้านดิดิเยร์ เดสชองส์ กุนซือทีมชาติฝรั่งเศส ระบุว่า นัดสำคัญนัดนี้ ไม่มีปัญหาในการจัดทัพ ซามูเอล อุมตีตี ปราการหลังที่มีอาการบาดเจ็บจากเกมล่าสุดแต่ก็ฟิตพร้อมลงสนาม ขณะเดียวกัน แบลส์ มาตุยดี พ้นโทษแบนกลับมาคุมแดนกลางอีกครั้ง โดยเกมนี้จะลงเล่นในระบบ 4-3-2-1 ผู้รักษาประตูวาง ฮูโก โยริส นายทวารกัปตันทีมลงเฝ้าเสา เบนจามิน ปาวาร์ รับหน้าที่แบ็กขวา ซามูเอล อุมตีตี, ราฟาแอล วาราน ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ลูคัส แอร์นองเดซ ดูแลฝั่งซ้าย ปอล ป็อกบา กองกลางตัวเก่งคุมจังหวะเกมร่วมกับเอ็นโกโล ก็องเต, แบลส์ มาตุยดี โดยมี อองตวน กรีซมันน์, คีเลียน เอ็มบัปเป รับบทหน้าต่ำปั้นเกมรุก โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้า
ส่วนโรเบร์โต มาร์ติเนซ กุนซือชาวกระทิงดุของทีมชาติเบลเยียม ที่มีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลกครั้งแรก เกมนี้จะไม่มีโทมัส มูเนียร์ วิงแบ็กฝั่งขวาที่ติดโทษแบนหลังจากสะสมใบเหลืองครบโควตา ส่วนตำแหน่งอื่นๆ อยู่กันครบไม่มีปัญหาให้กวนใจ โดยจะลงเล่นในระบบ 3-4-2-1 ผู้รักษาประตูวาง ติโบต์ กูร์ตัวส์ จอมหนึบที่เซฟเป็นพัลวันในเกมชนะบราซิล ลงเฝ้าเสา แนวรับวาง โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์, แว็งซ็องต์ กอมปานี และแยน แฟร์ตองเกน ยืนเป็น 3 เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ยานนิก คาร์รัสโซ ที่โดนดร็อปไปในเกมที่แล้วกลับมาออกสตาร์ตตัวจริงในตำแหน่งวิงแบ็กฝั่งขวา แทน มูเนียร์ ที่ติดโทษแบน นาเซอร์ ชาดลี ดูแลทางฝั่งซ้าย แดนกลาง มารูยาน เฟลไลนี, อักเซล วิตเซล คุมจังหวะเกม เควิน เดอ บรอยน์ ผนึกกำลังเอเดน อาซาร์ ปั้นเกมรุก แดนหน้าวางโรเมลู ลูกากู กองหน้าร่างยักษ์ที่ซัดไปแล้ว 4 ประตู ลงยืนหน้าเป้า
ขณะที่แนวโน้มจากการวิเคราะห์ของบริษัทพนันถูกกฎหมายจากประเทศอังกฤษฟันธงด้วยความเชื่อมั่นว่า ฝรั่งเศสเหนือกว่าเพียงแค่เล็กน้อยที่จะเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ ขณะที่เบลเยียมก็มีโอกาสชนะเช่นเดียวกัน ส่วนโอกาสเสมอค่อนข้างน้อยมาก
ขณะเดียวกันในส่วนของการเสี่ยงทาย ที่มักนำสัตว์นานาชนิดมาทำนายผลการแข่งขัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงสายวันที่ 8 ก.ค. ภายในสวนสัตว์ลพบุรี อ.เมืองลพบุรี พ.อ.คมเดช กาญจนโหติทัศ ผอ.สวนสัตว์ลพบุรี หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ อ.เมือง จ.ลพบุรี ได้จัดให้มีทายผลการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบ 4 ทีมสุดท้าย หลังจากที่จับคู่เป็นที่เรียบร้อย ต่อหน้าผู้ที่สนใจมาร่วมชม โดยการให้นาตาลี ซึ่งเป็นหลานของเจ้าไมค์ และซูซู ลิงอุรังอุตัง ที่เคยสร้างตำนานรัก และการแต่งงานลิงในสวนสัตว์ลพบุรีที่เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกและกลายเป็นตำนาน ในปัจจุบันในการเสี่ยงทายผลการแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้ โดยนำเอาแตงโมผ่าซีก และนำธงชาติของทีมฟุตบอลแต่ละคู่มาวางให้นาตาลีหยิบโดยคู่แรกเป็นทีมฝรั่งเศสกับเบลเยียม ปรากฏว่านาตาลีเดินมาหยิบแตงโมที่ปักธงฝรั่งเศสมากิน และคู่ที่ 2 เป็นทีมโครเอเชียกับ ทีมอังกฤษ ปรากฏว่านาตาลีก็คว้าเอาแตงโมที่ปักธงชาติอังกฤษมากิน ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้ทีมที่จะเข้าชิงฟุตบอลโลกในปีนี้ น่าจะเป็นทีมชาติฝรั่งเศสกับทีมชาติอังกฤษ อย่างไรก็ตาม การทายผลการแข่งขัน เป็นเพียงการเสี่ยงทายเท่านั้น ต้องติดตามการแข่งขันกันจริงๆอีกครั้ง