สิงโตล้างอาถรรพณ์

เป็นอันว่าเรียบร้อยโรงเรียนรัสเซีย เตะรอบ 16 ทีมครบ 8คู่ไปแล้วนะครับเมื่อเช้าตรู่วันพุธที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

ที่ต้องใช้คำว่า “เช้าตรู่” ก็เพราะเช้าจริงๆ ครับ เพราะปกติฟุตบอลโลกคู่ 2 มักจะเลิกประมาณตี 3 ยังถือว่าไม่เช้ามากนัก

แต่สำหรับคู่สุดท้ายของรอบ 16 ทีม ระหว่าง อังกฤษ กับ โคลอมเบีย สู้กันถึงขั้น “ฎีกา” ต้องยิงลูกโทษตัดสิน จึงไปจบเอาตอนตี 4 เป๊ะ

ได้เวลาเช้าตรู่และสำหรับพี่น้องชาวต่างจังหวัดคงจะได้ยินเสียงไก่ขันเซ็งแซ่ ว่างั้นเถอะ

ชัยชนะอันบีบหัวใจ จากการยิงลูกโทษเป็นของทีม สิงโตคำราม ที่สามารถเชือดเฉือนทีม โคลอมเบีย ไปได้อย่างหวุดหวิด 4 ประตูต่อ 3

ล้างอาถรรพณ์การยิงลูกโทษของ อังกฤษ ในการแข่งขันฟุตบอลทัวร์ใหญ่ของโลก อันได้แก่ฟุตบอลโลกและฟุตบอลยูโรลงได้อย่างชนิดแฟนๆที่เอาใจช่วย ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่

เพราะนับตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา อังกฤษ ยิงลูกโทษตัดสินโชคชะตาในทั้ง 2 ทัวร์นาเมนต์ ที่ว่านี้ 7 ครั้ง ปรากฏว่าชนะได้ครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อปี 1996 ในศึกฟุตบอลยูโร

นอกนั้นแพ้ตลอดจนใครๆก็ปรามาสว่าหากอังกฤษต้องมาตัดสินโชคชะตาด้วยการยิงลูกโทษในฟุตบอลโลกคราวนี้อีกละก็ ประวัติศาสตร์อาจจะซ้ำรอย

แต่ในที่สุดอังกฤษก็เอาชนะประวัติศาสตร์ได้จากการยิงเข้า 2 คนแรก โดย แฮร์รี เคน กับมาร์คัส แรชฟอร์ด แต่มาพลาดคนที่ 3 ได้แก่ จอร์แดนเฮนเดอร์สัน นึกว่าจะเจออาถรรพณ์ซะแล้ว

เผอิญโคลอมเบียกลับมาพลาดมากกว่าใน 2 คนสุดท้าย ในขณะที่อังกฤษซัดเรียบโดย คีแรน ทริปเปียร์ และ อีริค ไดเออร์ ทำให้ชนะไป 4-3ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมไปด้วยประการฉะนี้

ความจริง สิงโตคำราม ไม่ควรจะต้องต่อเวลา และต้องมายิงลูกโทษกับ โคลอมเบีย เลย เพราะในการแข่งขัน 90 นาทีแรก นำอยู่ 1-0 จากการซัลโวจุดโทษของ แฮร์รี เคน ในนาทีที่ 57

จากนั้นเกมก็ไม่เป็นรองเลย เป็นต่อหน่อยๆ ด้วยซ้ำ แต่ยิงประตูเพิ่มไม่ได้

จนกระทั่งถึงนาที 90+2 ทดเจ็บไป 2 นาทีใกล้จะหมดเวลาอยู่รอมร่อผ่าไปเสียคอร์เนอร์ แล้วก็โดน เยอร์รี มินา โหม่งตีเสมอให้โคลอมเบีย 1-1 ได้อย่างเหลือเชื่อ

คงจะต้องจดจำตัวเลข น.92+33 วินาที ที่โดนโขกเสมอ และเป็นผลให้ต้องเหนื่อยอีก 30 นาทีพร้อมกับมาลุ้นตัวโก่งยิงลูกโทษชนะได้อย่างหวุดหวิด...ไปอีกนานแสนนานสำหรับสิงโตคำราม

ก็แล้วไปเถอะ...ยังไงก็ล้างอาถรรพณ์การยิงลูกโทษเอาชนะได้เรียบร้อย และก็เป็นอย่างที่ กาเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือสิงโตคำราม ให้สัมภาษณ์ไว้

“เราไม่ควรค้อมหัวให้กับแรงกดดันของสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต...เราจะต้องเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของเราเอง...นี่คือสิ่งที่ผมบอกแก่นักเตะของผมอยู่เสมอระหว่างที่ฝึกซ้อม”

“สิ่งที่เกิดขึ้นคืนนี้ วิเศษมาก ผมขอมอบให้แก่แฟนๆทุกๆคน ที่ตามมาให้กำลังใจอย่างล้นหลามที่นี่ รวมทั้งที่ดูอยู่ที่บ้านของเราด้วย”

“จ่าแฉ่ง” ขอแสดงความยินดีกับ เซาธ์เกต และทีมสิงโตคำรามไว้ ณ ที่นี้ ที่ได้ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีม และจะต้องไปเจอกับนักเตะไวกิ้ง สวีเดน ที่เอาชนะนักเตะนาฬิกา สวิตเซอร์แลนด์ มาได้ 1-0 ในการแข่งขันคู่ 21.00 น. ก่อนหน้านี้

ขออนุญาตที่จะไม่บันทึกผลการแข่งขันและเบื้องหน้าเบื้องหลังของคู่แรกยาวนักเพราะยกเนื้อที่ให้คู่อังกฤษ-โคลอมเบียไปซะหมดแล้ว

ขอแสดงความยินดีสั้นๆกับ ยานเน อันเดอร์สัน กุนซือสวีเดน ที่นำทีมผ่านเข้ารอบ 8 ทีมได้สำเร็จก็แล้วกัน

ก็เป็นอันว่าได้ 8 ทีมครบถ้วนแล้วและประกบคู่ล่วงหน้ากันไปแล้วอย่างที่เราทราบ...อันได้แก่ ฝรั่งเศส เจอ อุรุกวัย, บราซิล เจอ เบลเยียม, รัสเซีย เจอ โครเอเชีย และ อังกฤษ เจอ สวีเดน

จากนี้ไปฟุตบอลโลก 2018 จะหยุดแข่งขัน 2 วัน เพื่อให้นักเตะที่กรำศึกมาอย่างโชกโชนได้พักซะบ้าง ก่อนจะเตะรอบหน้าที่จะเริ่ม 2 คู่แรก วันศุกร์ที่ 6 ก.ค.นี้

ระหว่างหยุดพักคืนวันพุธกับคืนวันพฤหัสบดีก็ขอเชิญมิตรรักแฟนบอลชาวไทย พักผ่อนหลับนอนกันให้สบายใจนะครับ

“จ่าแฉ่ง” ฝากกันลืมเอาไว้ข้อเดียวเท่านั้นว่าอย่าลืมหาเวลาแวะไปที่ทำการไปรษณีย์ใกล้บ้านด้วยล่ะ เพื่อหาซื้อไปรษณียบัตรมาตุนไว้บ้าง

ไม่ใช่อะไรหรอกครับ...เมื่อวานนี้เอง ไทยรัฐของเราแถลงออกมาอีกแล้วว่า จะมีรางวัลเพิ่มเป็นรถเก๋ง ฮอนด้า แจ๊ซ บีอาร์วี อีก 2 คัน ด้วย อภินันทนาการจาก บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย

ฉะนั้นระหว่างฟุตบอลหยุดพักแข้ง 2 วันนี้ รีบไปหาซื้อไปรษณียบัตรเตรียมส่งมาร่วมสนุกกับไทยรัฐกันเลยครับ

พลาดจากรางวัลที่ 1 เงิน 10 ล้านบาท ก็ยังมีรางวัลปลอบใจให้อีกมากมายก่ายกอง รวมทั้งรถเก๋งฮอนด้า แจ๊ซ อีก 2 คันที่ว่า...หาที่ไหนได้ล่ะเนี่ย.

“จ่าแฉ่ง”