"ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ใครจะเป็นรัฐบาล ตำรวจก็ต้องทำงานเหมือนเดิม ต้องบังคับใช้กฎหมายตามหน้าที่ ต้องจับกุมผู้กระทำความผิดโดยไม่เลือกปฎิบัติ ที่ผ่านมาหากใครติดตามชุดทำงานของผม จะเห็นว่าทีมงานเราจับทุกคดีไม่มีละเว้นจริงๆ"

หลายคนยังสับสน กับการทำงานของ "ตำรวจท่องเที่ยว" ว่ามีหน้าที่ดูแลช่วยเหลือนักท่องเที่ยว จับกุมคดีที่เกิดกับนักท่องเที่ยว หรืองานบริการต่างๆ แต่ด้วยอำนาจขอบเขตโดยชอบธรรมแล้ว ตำรวจท่องเที่ยว สามารถจับได้หมดทุกคดี โดยเฉพาะ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์  นอกจากจะจับกุมโดยชอบธรรมแล้ว  ยังมีการ "ตั้งชุดเฉพาะกิจ รวมตำรวจทุกหน่วยงานระดมกวาดล้าง ผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ  ทำลายประเทศชาติ"

ภายหลัง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ออกมามีบทบาทในการนำทีมกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบในประเทศไทย ยาวไปจนบินลัดฟ้า จับข้ามประเทศ เพื่อทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการนำทัพตำรวจแก้ไขปัญหา กวาดล้างคนผิวสีทำผิดกฎหมาย, แก๊งสกิมเมอร์, ทัวร์ศูนย์เหรียญ, ค้ามนุษย์, เครือข่ายยาเสพติด ฯลฯ ยาวไปจนถึงกวาดล้างแก๊งเด็กแว้นซิ่งป่วนเมือง 

...

ล่าสุด นำทีมตำรวจผนึกกำลังหลายหน่วยงาน กวาดล้างเว็บบิดเบือนป้อนข้อมูลผิดๆ เข้าระบบโซเชียล สร้างความสับสนให้คนในประเทศ ...เหตุนี้เอง กลายเป็นข้อวิจารณ์กันอย่างหนาหูอีกครั้ง "ตำรวจท่องเที่ยว" อย่าง บิ๊กโจ๊ก มีสิทธิ์อะไรในการลงพื้นที่กวาดจับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ วันนี้ "ไทยรัฐออนไลน์" สัมภาษณ์พิเศษ "พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล" รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ถึงประเด็นดังกล่าว  

"การกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมาย หรือจับบุคคลที่กระทำความผิดคดีต่างๆ นั่นคือหน้าที่ที่ตำรวจต้องทำ โดยเฉพาะล่าสุด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ผู้ที่นำข้อมูลบิดเบือนเข้าสู่ระบบ นอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับผู้คนที่ถูกพาดพิงโดยตรงแล้ว ยังทำให้ผู้เสพข่าวเข้าใจข้อมูลผิดๆ เพราะมีการนำมาแชร์ต่อกันไปเป็นหมื่นเป็นแสน สังคมจะเกิดความสับสน ประเทศชาติถูกผลกระทบโดยตรง"

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล บอกกับเราว่า ที่ผ่านมาไม่ว่าบ้านเมืองจะอยู่ในรัฐบาลไหน ใครมีอำนาจในประเทศ ตำรวจก็ยังเป็นตำรวจ "ที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย" เป็นตำรวจที่ทำงานรับใช้ประชาชน และจับกุมผู้กระทำความผิดทุกคดีอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกข้าง  ไม่เลือกปฏิบัติ ที่ผ่านมา หากได้ติดตามข่าวการจับกุมของตนเองจริงๆ จะเห็นว่า มีผลการจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายทุกฝั่งทุกฝ่าย 

"การจะโจมตีใครสักคน หากเป็นการโจมตีโดยข้อมูลที่ถูกต้อง นั่นเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ แต่หากนำข้อมูลมาบิดเบือน แต่งเสริมเติมเรื่องเข้าไปเอง ทำให้บุคคลที่ถูกกล่าวถึง (ผมหมายความถึงทุกๆ คน) เสื่อมเสียชื่อเสียง ยิ่งถ้าข้อมูลดังกล่าวกระทบเสียหายไประดับประเทศด้วยแล้ว อันนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ .. " 

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล บอกด้วยว่า ณ วันนี้ ทีมงานตำรวจไม่ใช่มีเฉพาะตำรวจท่องเที่ยวที่อยู่ในชุดทำงาน เรามีทั้ง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง, ตำรวจ 191, ตำรวจนครบาล, ตำรวจภูธรภาคต่างๆ, ตำรวจ ปอท. ฯลฯ ทั้งหมดรวมกันอยู่ในชุดทำงาน นอกจากนี้ ยังผนึกกำลังประสานไปยังตำรวจสากลประเทศต่างๆ จับกุมผู้ต้องหาที่กระทำความผิดในขอบเขตคดีที่ตนเองรับผิดชอบอีกด้วย 

"ทีมงานเราเข้มแข็งพอที่จะกวาดล้างลากตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ฉะนั้นใครที่ยังมีพฤติกรรม หรือการกระทำผิดเกี่ยวกับคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อยู่ ก็จะต้องถูกสาวไปถึงตัวอย่างแน่นอน ...และสำหรับในคดีอื่นๆ ทีมงานยังจับจ้องเฝ้าระวังการก่อเหตุอาชญากรรมทุกรูปแบบอยู่ตลอดเวลา และตามไล่ล่าจับกุมจนถึงที่สุด"

...

"บิ๊กโจ๊ก" ทิ้งท้ายไว้ว่า ขณะนี้ทางทีมงานมีข้อมูลผู้กระทำผิด พรบ.คอมพิวเตอร์ หลายหลาย และหลายคดี ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งทีมงาน อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารออกหมายจับเพิ่มเติมเร็วๆนี้