ทรูวิชั่นส์เผยสำรองจ่ายค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกให้ฟีฟ่าแล้ว 1,141 ล้านบาท จากวงเงินสปอนเซอร์ลงขัน 1,400 ล้านบาท ที่เหลือใช้ลงทุนด้านการถ่ายทอดสด ออกอากาศ และได้ค่าจ้างบริหารจัดการ 20 ล้าน เผยพร้อมสมบูรณ์เกือบ 100%
นายพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านคอนเทนต์และมีเดีย บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้การเตรียมพร้อมเพื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 เสร็จสิ้นเกือบ 100% แล้ว โดยทรูวิชั่นส์ในฐานะผู้ได้รับสิทธิ์การถ่ายทอดสด (Official Broadcaster) ได้ชำระเงินค่าใบอนุญาต (License) ไปแล้วในราคา 1,141 ล้านบาท ไม่รวมการลงทุนด้านอื่นๆ ได้แก่ การสร้างสตูดิโอตามมาตรฐาน, การเตรียมคอนเทนต์ก่อน-ระหว่าง-หลังการแข่งขัน เพื่อรองรับสปอนเซอร์, การลงทุนระบบการแพร่ภาพ, การป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) กำหนด
ทั้งนี้ การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 ครั้งนี้ เป็นความพยายามของรัฐบาล เพื่อที่จะให้คนไทยได้รับชมการถ่ายทอดสด หลังจากที่ไม่มีเอกชนไทยรายใดสามารถสู้ราคาประมูลที่ฟีฟ่าตั้งไว้ได้ ทำให้รัฐบาลต้องขอความร่วมมือจากเอกชน 9 ราย ได้แก่ ซีพี ไทยเบฟ บีทีเอส คิง เพาเวอร์ กัลฟ์ กสิกรไทย ลงขันรายละ 200 ล้านบาท พีทีทีจีซี 100 ล้านบาท และบางจากกับคาราบาวแดง รายละ 50 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 1,400 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อลิขสิทธิ์และบริหารจัดการการถ่ายทอดสด โดยทรูวิชั่นส์ซึ่งเป็นบริษัทในเครือซีพี หนึ่งในสปอนเซอร์ ถูกเรียกให้เข้าไปเจรจากับฟีฟ่า เพื่อรับสิทธิ์การถ่ายทอดสดเมื่อ 3 เดือนก่อน
“จริงๆแล้วซีพีอยู่ในฐานะสปอนเซอร์อย่างเดียว จน 3 เดือนก่อน เราถูกขอร้องให้เข้าไปเจรจากับฟีฟ่า เพราะฟีฟ่าจะให้สิทธิ์กับช่องทีวี (Broad-caster) เท่านั้น ส่วนที่ฟีฟ่าเลือกเรา คงเป็นเพราะเรามีช่องทางออกอากาศหลากหลาย ทั้งฟรีทีวี เพย์ทีวี และออนไลน์ รวมทั้งมีประสบการณ์ในการดูแลลิขสิทธิ์กีฬาระดับโลกมากมาย แต่การเป็นผู้บริหารจัดการลิขสิทธิ์ เป็นเงื่อนไขที่มาพร้อมความรับผิดชอบมากมาย แต่ละปีกฎระเบียบจะไม่เหมือนกันและมีมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกอย่างต้องทำตามมาตรฐานของฟีฟ่า เรายังต้องรับผิดชอบเรื่องการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย ซึ่งเป็นปัญหาที่ฟีฟ่าให้ความสำคัญมากสำหรับการบริหารสิทธิ์ในประเทศไทย นี่เป็นสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบให้เขา”
นายพีรธน กล่าวว่า ในจำนวนเงินที่ 9 สปอนเซอร์ร่วมลงขัน 1,400 ล้านบาทนั้น แบ่งเป็นค่าใบอนุญาต 1,141 ล้านบาท ส่วนที่เหลือประกอบด้วย การลงทุนด้านโปรดักชัน การสร้างสตูดิโอตามมาตรฐาน, ค่าผลิตงานโฆษณา ซื้อสื่อ ซึ่งไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด แต่คณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยสปอนเซอร์ทั้ง 9 ราย รับทราบทุกอย่าง โดยทรูวิชั่นส์ได้ค่าบริหารจัดการ 20 ล้านบาท “ขณะนี้ทรูวิชั่นส์ต้องออกค่าใช้จ่ายไปก่อน เพราะสัญญากับสปอนเซอร์ยังไม่เสร็จสิ้นครบทุกราย ที่จ่ายไปแล้วคือค่าใบอนุญาตจำนวน 1,141 ล้านบาท รวมทั้งค่าลงทุนอื่นๆ”
นายพีรธน กล่าวว่า การแข่งขันจะถูกถ่ายทอดสดผ่านฟรีทีวี 3 ช่อง ได้แก่ ช่อง 5, อมรินทร์ทีวี 34 และทรูโฟร์ยู 24 ในระบบ HD หมุนเวียนกันไป แต่นัดเปิดและปิดจะถ่ายครบทุกช่อง, ทรูวิชั่นส์ ซึ่งได้สิทธิ์ถ่ายทอดสดบนทีวีแบบบอกรับสมาชิก (เพย์ทีวี) จะถ่ายทอดสดในระบบ 4K ครั้งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแอปพลิเคชันทรูไอดี (TrueID) ถ่ายทอดสดผ่านมือถือ โดยลูกค้าทุกค่ายมือถือสามารถดาวน์โหลดเพื่อชมฟรีได้.