“อาคม” เบรกแรง ห้ามปรับค่าโดยสารทุกประเภท

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เบรกผู้ประกอบการรถร่วม บขส. และ ขสมก. ปรับขึ้นค่าโดยสาร เหตุมีแผนปรับโครงสร้างราคาทั้งระบบแล้ว ด้าน ขสมก.เดินหน้าเจรจาปัญหาหนี้

วันที่ 31 พ.ค. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า จากที่ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ประกอบการรถร่วมโดยสาร ขสมก. รถร่วมโดยสาร บขส. ยื่นขอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสาร เนื่องจากผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงก่อนหน้านี้ พบว่าราคาน้ำมันได้มีการปรับลดลงแล้ว นอกจากนี้ประกอบกับทางกรมการขนส่งทางบกได้ศึกษาปรับโครงสร้างราคาค่าโดยสารใหม่ทั้งระบบ ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ ดังนั้นทางกระทรวงคมนาคมจึงมีนโยบายที่จะยังไม่ให้ผู้ประกอบการรถโดยสารทุกประเภทปรับค่าโดยสารเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ข้อเรียกร้องอื่นๆ ขอให้ บขส. และ ขสมก. ยกเว้นเงินค่าขา เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการนั้น เป็นเรื่องที่คณะกรรมการหรือบอร์ดของ  ขสมก.และ บขส.ต้องพิจารณาต่อไป

ส่วนประเด็นการจัดหารถใหม่ตามแผนฟื้นฟูกิจการ คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) อนุมัติแผนฟื้นฟูแล้ว ซึ่ง คนร.มีข้อเสนอให้การจัดหารถใหม่มีการผสมผสานรถเมล์ลอตที่ดำเนินการจัดหา 3,000 คัน ซึ่งใช้พลังงานหลากหลาย ทั้งรถเมล์เอ็นจีวี 489 คันที่จัดหาไปแล้ว รวมถึงรถที่เป็นพลังงานไฮบริด หรือดีเซลกับไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นทางเลือกที่ ขสมก.จะนำมาทดสอบ

ด้านนายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานบอร์ด ขสมก. กล่าวว่า แผนฟื้นฟูอื่นๆ เช่น ภาระหนี้ และการขาดทนุสะสมกว่า 100,000 ล้านบาท  ขสมก.ยังต้องเดินหน้าเจรจากับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ขณะที่การปรับลดพนักงานต้องพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดหารถเมล์ใหม่ ขสมก. 3,000 คัน ต้องเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีแก้ไขมติ  ครม.เดิมที่อนุมัติจัดซื้อ 3,183 คัน โดยจำนวนจัดหาใหม่ 3,000 คัน จัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีไปแล้ว 2,511 คัน จะมีสัดส่วนรถเมล์ไฟฟ้า หรืออีวี 35 คัน ที่เหลือคือรถเมล์พลังงานไฮบริด

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรถไฮบริดอาจมีราคาสูงกว่ารถเมล์ในแผนจัดซื้อเดิม ดังนั้นบอร์ด ขสมก.จะต้องศึกษารายละเอียดราคารถเมล์ไฮบริดอีกครั้ง เพื่อกำหนดวงเงินรวมของการจัดซื้อรถลอตใหม่.