ยันอยู่กับเพื่อไทยทั้งทีม ระบุพวกที่ไปสีเทาทั้งนั้น เย้ยไพศาล-แค่ฝันหวาน! ดัน “บิ๊กตู่” สู่ตำแหน่งนายกฯอีกรอบ เผย “บิ๊กตู่” เตรียมเปิดด่านผ่านแดนสระแก้ว 18 พ.ค. ก่อนบุกถิ่นเพื่อไทย เชียงใหม่ปลายเดือน ด้าน “ลูกป๋าเหนาะ” ประกาศกร้าวตระกูลเทียนทองอยู่โยงเพื่อไทย อย่าเสียเวลาดูด เหมือนดูดลอดช่องยังไงก็ไม่ขึ้น ลั่นไม่หนุนสืบทอดอำนาจรูปแบบนี้ พท.หวงไข่ ยก “ป๋าเหนาะ” ปูชนียบุคคล ทั้งรักทั้งนับถือ “ตือ” เหน็บ “บิ๊กตู่” ยินดีล่วงหน้าได้ประติมากรชั้นเซียน พท.ฉุนขาดคาใจคำสั่ง กทม.ห้ามฉีดยุง-ให้ยาหมา ทำมาเป็น 10 ปีมีแต่ประโยชน์ให้ชาวบ้าน ซัดพวกจิตใจคับแคบ จ้องแต่จะเล่นการเมือง แนะ คสช.ดูมาเลย์เป็นบทเรียน เย้ยดูดแต่ของเน่า สิ่งปฏิกูล “มาร์ค” ยังหวัง “เสี่ยหนู” หนักแน่น ไม่หวั่นไหวพลังดูด
หลังจากนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาปูดข้อมูลว่านักการเมืองกลุ่ม จ.สระแก้ว ที่นำโดยนายเสนาะ เทียนทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย เป็นสถานีต่อไปที่รัฐบาล คสช.จะปฏิบัติการทาบทามไปร่วมงานด้วยนั้น
...
อ้าง “เสนาะ” จัดคน 5 หมื่นรับ “บิ๊กตู่”
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol แสดงความเห็นทางการเมืองกรณีข่าวการลงพื้นที่สระแก้วของคณะรัฐมนตรี (ครม.) จับตาการสนับสนุนทางการเมืองของนายเสนาะ เทียนทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า ป๋าเหนาะบอกสื่อว่า พร้อมจะไปต้อนรับลุงตู่ลงพื้นที่สระแก้ว ในไม่กี่วันข้างหน้านี้ จะได้ทราบว่าทำไมตลาดโรงเกลือซึ่งมีการค้าขายชายแดนแต่ละวัน มีผู้คนไปค้าขายกว่าแสนคน แต่ตอนนี้เงียบเป็นป่าช้าเพื่อจะได้ช่วยเหลือประชาชน ได้ตรงตามความต้องการ พร้อมกับระบุว่าถ้าลุงตู่อยากพบประชาชนก็จะเชิญชวนประชาชนมาต้อนรับจะเอาสัก 50,000 คนก็ได้ ป๋าเหนาะพูดอีกว่า “ป้อมกับประยุทธ์นั้นไม่ใช่คนไกล เขาโตมาจากที่นั่น” หมายถึงเคยดำรงตำแหน่งสำคัญทางทหารจากพื้นที่ปราจีนบุรี สระแก้ว มาตั้งแต่หนุ่มๆ
ฝันเห็นฝีมือนักปั้นมือทองอีกครั้ง
นายไพศาลระบุว่า น่าสังเกตว่าแนวคิดเรื่องรัฐบาลแห่งชาติที่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันสามัคคีปรองดองกันกำลังได้รับการขานรับมากขึ้น น่าสังเกตว่า ปี 1 ป๋าเหนาะชูมือพลเอกชาติชาย ว่าจะเป็นนายกคนต่อไป พลเอกชาติชายก็เป็นนายก ปี 1 ชูมือ ท่านบรรหารสนับสนุนเป็นนายก ก็เป็นนายก ปี 1 ในวันที่ 1 เมษายนเป็นวันเกิดป๋าเหนาะชูมือทักษิณว่าจะเป็นนายกต่อไปก็เป็นจริงๆ ปี 1 ก็มาชูมือพี่จิ๋วเป็นนายกก็เป็นจริงๆ จึงน่าจับตาว่าในวันที่ลุงตู่ลงพื้นที่สระแก้วป๋าเหนาะจะจับมือลุงตู่ชูเป็นนายกต่อหรือไม่? แผ่นดินแห้งแล้งมานาน สักวันสายฝนจะฟื้นคืนความเขียวชอุ่มชุ่มชื่น
นายกฯไปสระแก้วเปิดด่าน 18 พ.ค.
วันเดียวกัน ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าว ถึงกระแสข่าว ครม.จะลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อไปชักชวนกลุ่มการเมืองของนายเสนาะ เทียนทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย มาร่วมงาน โดยอุทานสั้นๆ หลังได้ยินคำถามผู้สื่อข่าวว่า “โอ้” ก่อนเดินจากไปทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า สำหรับกำหนดการลงพื้นที่ของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ล่าสุดมีกำหนดลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ในวันที่ 18 พ.ค. เพื่อเป็นประธานเปิดด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด ร่วมกับจังหวัดพระตะบอง ราชอาณาจักรกัมพูชา เบื้องต้นทางจังหวัดสระแก้วได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังมีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการใน จ.เชียงใหม่ เป็นลำดับถัดไป คาดว่าจะเป็นช่วงปลายเดือน พ.ค.นี้
ผวจ.สระแก้วหวังบิ๊กรัฐบาลมาร่วม
ขณะที่นายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าฯ สระแก้ว ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ว่า ตนจะประชุมร่วมกับผู้ว่าฯ จ.พระตะบอง ราชอาณาจักรกัมพูชา เรื่องการเปิดด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ในวันที่ 18 พ.ค. ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี จึงเห็นควรเชิญผู้บริหารระดับสูงจากส่วนกลางมาเป็นประธานเปิดอย่างเป็นทางการ แต่ไม่ได้ระบุเชิญนายกฯ เพราะอาจติดขัดภารกิจ จึงเป็นไปได้ที่รองนายกรัฐมนตรี รวมถึงแม่ทัพภาคจะมาร่วมแทน โดยขณะนี้ตนยังรอคำสั่งจากปลัดกระทรวงมหาดไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้งว่าจะมีผู้บริหารจากส่วนกลางท่านใดมาบ้าง หรือถ้าติดขัดอาจเลื่อนเปิดด่านออกไปก่อน
“ลูกป๋าเหนาะ” ลั่นอยู่ พท.ไม่ต้องดูด
ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง อดีต รมช.สาธารณสุข บุตรชายนายเสนาะ เทียนทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวดูดนักการเมืองตระกูลเทียนทองว่า ไม่มี พวกเรายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยหมดทุกคนแล้ว บิดาตนก็ยืนยันแล้ว เข้าใจว่าที่เป็นประเด็นขึ้นมาเพราะนายไพศาล พืชมงคล ทีมงาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ มารดน้ำดำหัวคุณพ่อ ซึ่งคุณพ่อพูดภาพรวมให้ฟังว่าประเทศเป็นแบบนี้ เลือกตั้งไปแม้จะมีรัฐบาลก็ทำงานลำบากเพราะกฎระเบียบและรัฐธรรมนูญที่วางเอาไว้ทำให้ทำงานไม่ได้ เราผ่านมาแล้วทั้งแผ่นเสียง เทปคาสเซต เครื่องเล่นเอ็มพี 3 ในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี ดังนั้นทุกวันนี้เราต้องมองกันเป็นวินาที ไม่ใช่มองทีละ 20 ปี อย่างยุทธศาสตร์ชาติ และเรื่องดูดไม่ใช่ประเด็น ถึงดูดไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะพวกตนจะทำงานลำบาก อย่าคิดว่าเป็นเทียนทองแล้วจะลงพรรคไหนในสระแก้วก็ได้หมด ต้องฟังประชาชนด้วย เหมือนสมัยพรรคประชาราช ตอนนั้นก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด เพราะฉะนั้นตอนนี้อย่าคิดเลย ถ้ามาดูดก็เหมือนดูดลอดช่อง ดูดไม่ขึ้น พวกตนชัดเจนว่าไม่เอานายกฯคนนอก และไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจแบบนี้อีก
พท.กันท่าชู “ป๋าเหนาะ” ปูชนียบุคคล
นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายเสนาะ เทียนทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ยืนยันความเป็นสมาชิกตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่พรรคเพื่อไทยเปิดให้อดีต ส.ส.ของพรรคมารดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ในพรรค นายเสนาะเป็นผู้ใหญ่ที่พรรคเพื่อไทยให้ความเคารพรัก เป็นผู้อาวุโสทางการเมืองที่คอยให้คำแนะนำต่างๆ และสร้างให้พรรคเติบโตมาจนถึงปัจจุบันนี้ ตนอยากให้รัฐบาลทำงานให้เป็นที่ประจักษ์ชัดแก่ประชาชน แก้ปัญหาให้ประชาชนให้ได้ อย่ามัวแต่ใส่ใจคิดจะไปดึงคนนู้น ดูดคนนี้ มันไม่มีประโยชน์
“ตือ” โพสต์เหน็บยินดีล่วงหน้า “บิ๊กตู่”
วันเดียวกัน นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร แกนนำพรรคชาติไทย-พัฒนา โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ท่านเสนาะ เทียนทอง ปฏิมากร ผู้ปั้นนายกรัฐมนตรี” เอ่ยชื่อท่านเสนาะ เทียนทองขึ้นมา เชื่อว่าคอการเมืองคงนึกภาพออกเป็นนักการเมืองอาวุโสที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพรรคประชาธิปัตย์ ยืนซดกับพรรคประชาธิปัตย์อย่างถึง พริกถึงขิงมาตลอด ปั้นคนที่มาเป็นนายกฯแข่งกับประชาธิปัตย์คนแล้วคนเล่า ไล่มาตั้งแต่น้าชาติ ชาติชาย ชุณหะวัณ ท่านบรรหาร ศิลปอาชา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายทักษิณ ชินวัตร ทั้งหมดล้วนแต่เกิดจากฝีมือท่านเสนาะตามที่ท่านได้กล่าวอยู่เสมอ ข่าวภาพที่ปรากฏในเช้าวันนี้ ฤา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมาเป็นนายกฯในระบอบประชาธิปไตยคนต่อไป ที่มาจากน้ำมือของปฏิมากรที่ชื่อท่านเสนาะ ก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าด้วยกับท่านนายกฯ และท่านผู้ปั้นนายกฯ พร้อมเขียนบทกลอนทิ้งท้ายว่า ปฏิมากรรม ถูกสร้าง อย่างรู้ค่า ปฏิมากร อาสา มาสนอง ปั้น “ลุงตู่” สู่นายก ขึ้นปกครอง นาม “เสนาะ เทียนทอง” คือของจริง
พท.ฉุนคำสั่งห้ามฉีดยุง—ให้ยาหมา
สำหรับกรณีที่สำนักงานเขตหลักสี่ กทม. ออกคำสั่งจัดระเบียบการจัดกิจกรรมและติดป้ายประชาสัมพันธ์ทางการเมือง โดยอ้างคำสั่ง คสช.นั้น นายสุรชาติ เทียนทอง อดีต ส.ส.กทม. เขตหลักสี่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีมีคำสั่งจากสำนักงานเขตหลักสี่ ให้งดทำกิจกรรมบริการฉีดยุง ฉีกวัคซีน สุนัข รวมถึงห้ามขึ้นป้ายประชาสัมพันธ์นั้น กิจกรรมเหล่านี้ตนทำต่อเนื่องมาเป็น 10 ปี ไม่ใช่มาทำช่วงใกล้เลือกตั้ง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทหาร ตัวแทน คสช. ที่ดูแลพื้นที่หลักสี่ก็รับทราบ ผู้อำนวยการเขตที่ผ่านๆมา ก็ขอบคุณที่เราช่วยเหลือประชาชน กิจกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์ ไม่ใช่กิจกรรมทางการเมืองปลุก ระดมคนหรือสร้างความขัดแย้ง และระหว่างการทำกิจกรรมตนก็ไม่เคยพูดเรื่องการเมือง จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงมีคำสั่งออกมาช่วงนี้ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจะทำต่อไป เพราะหลักการเราชัดเจน ทำเพื่อประชาชนไม่มีอะไรที่เป็นภัย วันนี้ตนก็ไปฉีดวัคซีนสุนัข แมว ที่เคหะทุ่งสองห้อง เพราะได้ประชาสัมพันธ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว ไม่กังวลว่าจะขัดคำสั่งสำนักงานเขต เพราะมั่นใจว่าทำในสิ่งที่ดี ทุกฝ่ายได้ประโยชน์
ซัดจิตใจคับแคบ เล่นแต่การเมือง
นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ อดีต ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กิจกรรมฉีดยุง ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่ เป็นเรื่องจิตอาสาที่เราเข้าไปดูแลประชาชนในส่วนที่ทางสำนักงานเขตดูแลไม่ทั่วถึง ที่ผ่านมากิจกรรมเหล่านี้ไม่เคยก่อให้เกิดความวุ่นวาย และได้รับความร่วมมือจากทางสำนักงานเขตเป็นอย่างดี เพราะทุกคนมองเป็นประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง พอเห็นคำสั่งแบบนี้ออกมาจึงไม่เข้าใจ คนที่คิดคำสั่งนี้จิตใจคับแคบ ทั้งที่ความเป็นจริงคนที่จะอาสามาทำงานให้ประชาชน ต้องมองผลประโยชน์ของประชาชนมาก่อน ไม่ใช่มองทุกอย่างเป็นเรื่องการเมือง แบบนี้
จับสังเกต “สกลธี” นั่งทำงานรองผู้ว่าฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าคำสั่งห้ามการฉีดยุง และวัคซีนสุนัขและแมวในเขตหลักสี่ เป็นพื้นที่เดียวใน กทม. เพราะเมื่อสอบถามไปยังอดีต ส.ส.กทม.หลายเขตไม่พบคำสั่งห้ามดังกล่าว เขตอื่นๆ จะเป็นหนังสือห้ามเรื่องการขึ้นป้ายเท่านั้น และน่าสังเกตว่าคำสั่งห้ามนี้เกิดขึ้นหลังจากที่นายสกลธี ภัททิยกุล อดีต ส.ส.เขตหลักสี่ พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าฯ กทม.เมื่อช่วงกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
“บิ๊กป้อม” ขออย่าเกี่ยวพรรคการเมือง
ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี กทม.อ้างคำสั่ง คสช. ห้ามอดีต ส.ส.บางพื้นที่ ฉีดยุง ฉีดวัคซีนให้สุนัข และแมวของประชาชนว่า อะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ก็ไม่เป็นอะไร ถ้าทำให้กับประชาชนได้ก็ทำไป แต่ขอย้ำว่าอย่าไปเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง
พท.แนะ คสช.ดูมาเลย์เป็นบทเรียน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งของมาเลเซียเป็นบทเรียนสอนใจ ไม่ว่าอำนาจจะมีมากล้นเท่าไร จะยึดครองหรือควบคุมการบริหารประเทศมายาวนานเพียงใด เหมือนพรรคอัมโนซึ่งเป็นพรรครัฐบาลที่ครองอำนาจมายาวนานนับหลายสิบปี บทเรียนสำคัญที่ผู้มีอำนาจในประเทศพึงตระหนัก คือการใช้อำนาจอันไม่มีขีดจำกัด ไม่คำนึงถึงความรู้สึก ความต้องการแท้จริงของพี่น้องประชาชน และไม่สามารถตอบสนองการแก้ปัญหาที่ประชาชนกำลังเผชิญอยู่ได้ เมื่อถึงวันที่ประชาชนได้รับโอกาสในการแสดงออก เขาจะตัดสินใจบนพื้นฐานความต้องการที่แท้จริง หากหัวหน้ารัฐบาล คสช. หรือใครก็ตามในรัฐบาลปัจจุบัน ที่กล้าประกาศไปทั่วว่าประชาชนต้องการให้อยู่ในอำนาจต่อ เพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน ถ้ามีความมั่นใจ และอยากรู้ว่าประชาชนคิดอย่างไร ต้องรีบจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว แล้วจะได้รับคำตอบ จะได้ไม่ต้องคิดนั่งมโนเอาเอง
เย้ย “บิ๊กตู่” ดูดน้ำเน่า สิ่งปฏิกูล
นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองที่มีการดูด ส.ส.เพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งหน้านั้น พวกที่ยอมถูกดูดได้ คือสิ่งปฏิกูลและพวกสีเทาไร้อุดมการณ์ ไม่มีจุดยืนอะไร ดูประวัติของผู้ถูกดูดที่ผ่านมาก็เป็นนักการเมืองน้ำเน่าเดิมๆ วิ่งวนไปเวียนมา พวกมีแผล มีคดีต้องหาอำนาจมาปกป้องเท่านั้น ไม่ควรไปให้ราคาอะไร ทั้งนี้รู้สึกสงสาร พล.อ.ประยุทธ์มากที่ถูกหลอกเดินรอบสนามที่บุรีรัมย์ มองเห็นเหมือนชาวนาสนตะพายจูงรอบสนาม ไม่รู้ใครดูดใคร ส่วนตัวยังยืนยันอยู่เคียงข้างประชาชน ความถูกต้อง และจะอยู่กับพรรคเพื่อไทยตลอด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือมีกติกาหรือ กฎหมายมาตราใดกลั่นแกล้ง ไม่ต้องการเงิน และยินดีจะจ้างอยู่พรรคเพื่อไทยด้วยซ้ำ เพราะต่อให้ใครมีเงินเป็นร้อยล้าน มาเลือกตั้งในภาคอีสานก็ตก ส่วนใครอยู่เพื่อไทยไม่มีเงินก็สอบได้ถล่มทลาย ดังนั้นอย่ามาดูดหรือเสนอเงิน ตำแหน่งอะไรเลย แม้จะต้องเสียเงินเพื่อจะได้อยู่กับพรรคเพื่อไทยก็ยินดี
“มาร์ค” ยังหวัง “เสี่ยหนู” หนักแน่น
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยวิจารณ์ตอบโต้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่พาดพิงการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯว่า การลงพื้นที่ถ้าทำให้เกิดประโยชน์ก็ดี แต่เคยเตือนเรื่องวิธีการ ติดไม้ติดมือไปอนุมัติงบประมาณ ต้องไม่ทำให้ระบบการจัดสรรทรัพยากรเสีย อย่าเอาไปผูกติดกับเงื่อนไขเรื่องการเมือง ถ้าจังหวัดอื่นอยากได้งบประมาณแบบนี้บ้าง เขาต้องทำอย่างไร จะต้องมีอดีต ส.ส. นักการเมืองมาต้อนรับแบบนี้หรืออย่างไร ส่วนการที่คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาพูดเพราะอยากให้งบประมาณไปทั่วถึงทุกจังหวัดในอีสาน ซึ่งตนก็อยากให้มีการเปิดเผยค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจรว่า ครั้งละเท่าไหร่ คุ้มค่าหรือไม่ เพราะสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย ท่านเคยถามและประเมินดูแล้ว คิดว่ามันไม่คุ้ม คนหนึ่งที่น่าจะรู้ดี คือนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เพราะตอนนั้นอยู่สำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรี อย่างไรก็ตามตนไม่ได้คิดว่าพรรคภูมิใจไทยจะเปลี่ยนเป็นอื่น เพราะเคยคุยแลกเปลี่ยนกับนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เขาค่อนข้างหนักแน่นว่าพรรคของเขาก็คือพรรคของเขา และจุดยืนทางการเมืองจะเป็นอย่างไร เขาบอกว่าเป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากันในช่วงของการเลือกตั้ง
เตือนม็อบรุนแรงจะเข้าทาง คสช.
นายอภิสิทธิ์ยังกล่าวถึงกรณีกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เตรียมชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลวันที่ 22 พ.ค.ว่า คนที่เป็นแกนหลักในการเคลื่อนไหว มีจุดยืนชัดเจนที่ไม่ยอมรับอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน เขาต้องการให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งเดิมนายกฯเคยพูดไว้ว่าจะเป็นช่วงเดือน พ.ย. จึงไม่อยากให้มีการเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีก และไม่อยากให้มีอำนาจพิเศษอะไรหลงเหลือ อยู่อีก ในมุมมองตน อยากให้เป็นเรื่องของฝ่ายประชาชน ถ้ามีการเมืองเข้าไปก็จะกลายเป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง กล่าวหากันอีกว่าเป็นเรื่องหวังผลทางการเมือง ฝักใฝ่ฝ่ายใดหรือไม่ สำคัญคืออย่าให้มันบานปลายไปสู่ความวุ่นวาย รุนแรง เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น สิ่งที่เรียกร้องจะไม่ได้ แต่กลับจะยิ่งเป็นข้ออ้างให้ผู้มีอำนาจว่ามันกระทบต่อโรดแม็ป อย่างไรก็ตามผู้ที่มีอำนาจเองก็ต้องรักษาสัจจะ ตรงไปตรงมากับความพยายามในการที่จะพาบ้านเมืองเดินไปตามสิ่งที่เคยพูดไว้ เพื่อความเชื่อถือของประเทศ และรัฐบาล
สมช.หวั่นมือที่ 3 ทำบานปลาย
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเตรียมเดินทางมาชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล วันที่ 22 พ.ค. เรียกร้อง 3 ข้อคือให้เลือกตั้งเดือน พ.ย.61 ให้ คสช.ลาออกและกองทัพยุติการสนับสนุน คสช.ว่า เรื่องการเลือกตั้งรัฐบาลดำเนินการอยู่แล้ว เป็นไปได้ไม่อยากให้มีการเดินขบวน เมื่อถามว่า กังวลมือที่สามเข้ามาแทรกแซงหรือไม่ พล.อ.วัลลภตอบว่า ก็มีโอกาส กลุ่มไม่หวังดีอาจฉวยจังหวะใช้การเดินขบวนครั้งนี้เป็นเครื่องมือ อาจมีภัยแทรกซ้อนเข้ามาอาจส่งผลให้สถานการณ์บานปลายได้ เมื่อถามว่า หลายคนมองว่ารัฐบาลไม่จริงจัง ยังปล่อยให้รวมตัวกันอยู่ ทั้งๆที่ใช้มาตรา 44 ได้ พล.อ.วัลลภตอบว่า รัฐบาลต้องการความสงบสุขและความเรียบร้อย ดูแลประชาชนให้ดีที่สุด ส่วนที่นายกฯตั้งข้อสังเกตอาจมีผู้อยู่เบื้องหลังนั้น สมช.สอดส่องดูอยู่
“ประจิน” หวังผู้ชุมนุมฟังเหตุผล
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งในปีนี้ว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นต้องมี พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และความพร้อมของประชาชน ถ้าองค์ประกอบไม่ครบ ก็จัดการเลือกตั้งไม่ได้ ต้องให้เวลาดำเนินการตามขั้นตอนจึงจะสมบูรณ์ เมื่อถามว่า คสช.จำเป็นต้องส่งคนไปทำความเข้าใจกับคนกลุ่มนี้หรือไม่ พล.อ.อ.ประจินตอบว่า ส่งคนไปดูแลตลอด เชื่อว่าความเข้าใจจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้ายังมีคนไม่เข้าใจก็ต้องคุยกัน ต้องสร้างการรับรู้ บางทีจังหวะจะเจอหน้ากันอาจจะไม่มี ต้องผ่านสื่อ อยากจะฝากว่าให้เขาช่วยรับฟังด้วย ส่วนจะนัดกันมาที่ทำเนียบฯ คงต้องให้ฝ่ายความมั่นคงดูแล ทำความเข้าใจกันอย่างสร้างสรรค์
ใช้ 350 ล้านสร้างนักรบไซเบอร์
พล.อ.อ.ประจินยังกล่าวถึงการจัดเตรียมนักรบไซเบอร์ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการ Cyber Security ว่า ขณะนี้เราก้าวเข้าสู่โลกไซเบอร์ มีทั้ง แง่บวกและแง่ลบ โดยแง่ลบคือการละเมิดบุคคลที่สาม ทำลายข้อมูล เราจึงออกมาตรการต่างๆ มาจับตาการใช้คอมพิวเตอร์ในทางที่ผิด ขณะนี้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์บังคับใช้แล้ว จากนี้จะมีกฎหมายเกี่ยวกับการละเมิดบุคคลที่สาม อย่างไรก็ตามบุคลากรยังไม่เพียงพอต้องจัดอบรมนักรบไซเบอร์เพิ่ม ตั้งเป้าไว้ในปี 64 มีประมาณ 4,500-5,000 คน แต่เบื้องต้นเร่งดำเนินการให้ได้ 1,000 คนก่อน เพื่อเข้ามาดูแลการกระทำผิด ใช้งบประมาณฝึกอบรม 350 ล้านบาท จากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะดำเนินการทันทีกลางเดือน มิ.ย.นี้
“พรเพชร” ลั่นเฟ้นคนดีนั่ง กกต.
ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า วันที่ 11 พ.ค.ที่ประชุม สนช.จะตั้งคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาประวัติ ความประพฤติ จริยธรรม ของผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 7 คน กรณีนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า อดีตผู้ว่าฯหลายจังหวัด ที่เคยตกรอบแรกในครั้งก่อน เนื่องจากตกคุณสมบัติกรณีถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบกิจการสื่อ แต่ครั้งนี้ได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ส่วนข้อสังเกตว่าผู้ได้รับการเสนอชื่อ 5 คน ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ อาจไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งนั้น สนช.คงไม่ได้ยึดเรื่องประสบการณ์เลือกตั้ง ไม่อย่างนั้นคณะกรรมการสรรหาคงต้องเลือกข้าราชการ กกต.เข้ามาแล้ว แต่คณะกรรมการสรรหาฯดูจากงานที่เคยทำมาเป็นประโยชน์ต่อราชการ และทำด้วยความมุมานะหรือไม่ มั่นใจว่าเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามกรรมการสรรหาฯได้พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ เลือกคนที่ดีที่สุดแล้ว
ป.ป.ช.ยื้อสอบนาฬิกาหรู 2-3 เดือน
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีครอบครองนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหมว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบการเป็นเจ้าของนาฬิกาที่แท้จริง คาดว่าใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากนาฬิกาแต่ละเรือนมีหมายเลขกำกับ สามารถตรวจสอบกับตัวแทนจำหน่ายได้ แต่อาจต้องใช้เวลาเนื่องจากมีนาฬิกากว่า 20 เรือน ส่วนการสอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องขณะนี้สอบครบถ้วนแล้ว รวมทั้งทายาทของนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เพื่อนของ พล.อ.ประวิตร เจ้าของนาฬิกา ได้เรียกมาชี้แจงแล้ว ยืนยันว่าการดำเนินการของ ป.ป.ช.ไม่ได้ชะงัก ต้องรอพยานหลักฐานจึงจะดำเนินการต่อได้ ยอมรับว่าอาจเสร็จไม่ทันในเดือน พ.ค.นี้ อาจใช้เวลาอีก 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับการชี้แจงของตัวแทนจำหน่ายนาฬิกา
จับตาหนี้ 300 ล้าน “บิ๊กอ๊อด”
นายวรวิทย์กล่าวว่า วันที่ 11 พ.ค. สำนักงานป.ป.ช.จะเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิก สนช. เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2561 ส่วนกรณีการตั้งข้อสังเกตเรื่องหนี้สิน 300 ล้านบาทของ พล.ต.อ.สมยศนั้น ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบว่ามีการแจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สินดังกล่าวหรือไม่ ถือเป็นการตรวจสอบตามขั้นตอนปกติ แต่หาก พล.ต.อ.สมยศชำระหนี้ไปแล้ว หนี้สินดังกล่าวจะไม่ปรากฏในบัญชี อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบในรายละเอียดด้วยว่าการที่มูลหนี้ดังกล่าวลดลง นำเงินจากไหนมาชำระ หากพบว่าตัวเลขในบัญชีทรัพย์สินไม่สัมพันธ์กันต้องตามตรวจสอบต่อไป
ปฏิรูป ตร.เปิดทางแจ้งความทุก สน.
นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกกรรมการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ตำรวจ กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ มีมติให้จัดทำกฎหมายกลาง เพื่อกำหนดกฎเกณฑ์การสอบสวนให้ประชาชนได้รับความสะดวกและความเป็นธรรมมากขึ้น หลักการสำคัญๆ จะบรรจุให้มี อาทิ ให้ประชาชนสามารถแจ้งความได้ในทุกสถานี ไม่เฉพาะแต่ท้องที่เกิดเหตุเท่านั้น กรณีสถานีที่รับแจ้งความ หากมิใช่ท้องที่เกิดเหตุจะเป็นผู้ส่งรายละเอียดไปยังสถานีท้องที่เกิดเหตุเอง ให้ทุกสถานีมีอำนาจสอบสวนคดีที่ไม่ได้เกิดในท้องที่ของตนได้ด้วย เช่น คดีที่เกิดขึ้นในขบวนรถไฟที่เคยอยู่ในเขตอำนาจของตำรวจรถไฟ คดีที่เกิดขึ้นในทางหลวงแผ่นดินสายที่เป็นเขตอำนาจของตำรวจทางหลวง เช่นเดียวกับ กรณีประชาชนทำเอกสารหายไม่จำเป็นต้องไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันแล้วนำบันทึกประจำวันไปแจ้งหน่วยงานผู้ออกเอกสารเพื่อให้ออกเอกสารใหม่ให้อีกต่อไป แต่จะกำหนดให้ไปแจ้งที่หน่วยงานผู้ออกเอกสารนั้นได้เลย
“พิชัย” โต้แทน “ทักษิณ” ช่วยทีพีไอ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า ตามที่ ป.ป.ช.มีมติดำเนินคดีกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กรณีให้กระทรวงการคลังแก้ปัญหาหนี้บริษัททีพีไอ อยากให้พิจารณาให้รอบคอบ การที่นายกฯขณะนั้นให้กระทรวงการคลัง เข้าแก้ไขปัญหาหนี้บริษัททีพีไอ น่าจะเป็นวิธีการที่ถูกต้อง ทำให้หนี้เสียในระบบธนาคารลดลง และเศรษฐกิจของไทยกลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว นายทักษิณไม่ได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้ มีแต่ประเทศได้ประโยชน์ ด้วยเหตุผลนี้ อาจเป็นสาเหตุให้คณะกรรมการร่วมระหว่างอัยการสูงสุดกับ ป.ป.ช. หาข้อยุติในการฟ้องเรื่องนี้ไม่ได้ ป.ป.ช.จึงต้องดำเนินการฟ้องเอง อาจจะถูกมองว่าเป็นการกลั่นแกล้งได้ หากเปรียบเทียบกับการขายสินทรัพย์ ปรส. รัฐบาลประชาธิปัตย์ ประเทศเสียหายมากกว่าและมีเงื่อนงำการเอื้อประโยชน์ให้กับกองทุนต่างประเทศ แต่กลับไม่มีการดำเนินคดี
“บิ๊กตู่” จับเข่าคุยนักธุรกิจมาเก๊า
วันเดียวกัน เวลา 09.30 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายชุย ไซ ออน ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษมาเก๊า สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เพื่อกระชับความสัมพันธ์และส่งเสริมความร่วมมือกับไทย โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การค้าและการเชื่อมโยงระหว่างประชาชน ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่ผู้บริหารสูงสุดมาเก๊ามาเยือนไทย โดยนำคณะนักธุรกิจร่วมคณะมาด้วย รวมทั้งได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน 2 ฉบับ ได้แก่ บันทึกความเข้าใจเพื่อการสถาปนาความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างจังหวัดภูเก็ตกับเขตบริหารพิเศษมาเก๊า บันทึกความเข้าใจระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับสถาบันส่งเสริมการลงทุนและการค้าของมาเก๊า
ชื่นชมสตรีถือธงนำอาเซียน
ต่อมาเวลา 10.00 น. คณะผู้แทนเครือข่ายผู้ประกอบการสตรีอาเซียน (AWEN) นำโดยคุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานเครือข่ายผู้ประกอบการ AWEN และประธานเครือข่ายผู้ประกอบการสตรีอาเซียนแห่งประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ โดยนายกฯชื่นชมบทบาทของผู้แทนผู้ประกอบการสตรีอาเซียนจากสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในฐานะริเริ่มจัดตั้งเครือข่าย และไทยยินดีรับเป็นเจ้าภาพ และดำรงตำแหน่งประธาน AWEN ต่อจากฟิลิปปินส์ ในวาระ 2 ปี ตั้งแต่เดือน พ.ค.61-พ.ค.63 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวไทยจะเป็นประธาน ASEAN ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำงานร่วมกัน นายกฯยังเห็นว่าเครือข่ายจะมีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนาประเทศอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ รัฐบาลยินดีให้การสนับสนุนในทุกด้าน