ผลเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนใน อ.เชียงแสน เสียงไปทางเดียวกัน คัดค้าน ผังเมืองรวมเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย ด้าน นอภ.สรุปให้จนท.ผังเมืองกลับไปพิจารณาใหม่...
เมื่อวันที่ 24 เม.ย.61 ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย กรมโยธาธิการและผังเมือง และสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงราย พร้อมบริษัทโปรเกรส เทคโนโลยี คอนซัลแท็นส์ บริษัทที่ปรึกษาโครงการวางและจัดทำผังเมืองรวมเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย จัดให้มีเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่อำเภอเชียงแสน ซึ่งทางรัฐบาลกำหนด จัดตั้งพื้นที่ อ.เชียงแสน อ.แม่สาย และ อ.เชียงของ ให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงราย โดยมีนายพินิจ แก้วจิตคงทอง นายอำเภอเชียงแสน และประชาชนชาวเชียงแสนเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก จนล้นห้องประชุม
นายพินิจ แก้วจิตคงทอง กล่าวเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นว่า ข้อกำหนดของการใช้ประโยชน์ที่ดินของผังเมืองรวม มีผลกับการเป็นอยู่ของประชาชนในอำเภอเชียงแสน ทั้ง 6ตำบล จึงขอให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นในเวทีแห่งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน
นางศิริพร อัคนิวรรณ ผู้จัดการโครงการและนักผังเมืองรวม และนักผังเมืองรวมอีกหลายคน ให้ข้อมูลกับประชาชนว่าการใช้ประโยชน์ที่ดินในผังเมืองรวม แบ่งพื้นที่เป็นสีต่างๆ เช่น สีเหลืองเป็นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย สีเขียวเป็นที่ชนบทและเกษตรกรรม สีเขียวอ่อนเป็นที่อนุรักษ์ป่าไม้เป็นต้น หลังจากให้ข้อมูลพบว่า มีกำนันผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน ต่างแสดงความคิดเห็นคัดค้านผังเมืองรวม
ด้าน นายสง่า สิทธิแก้ว กำนันตำบลแม่เงินกล่าวว่า ตำบลแม่เงินมีพื้นที่เป็นโฉนดเนื้อที่กว่า 3,900 ไร่ ตำบลบ้านแซวมีพื้นที่โฉนด 7,000ไร่ ซึ่งพบว่าผังเมืองรวมได้กำหนดให้เป็นพื้นที่สีเขียวกรอบแดงซึ่งหมายถึงที่ดินประเภทปฏิรูปเพื่อเกษตรกรรม และบางส่วนกำหนดเป็นที่ดินอนุรักษ์ป่าไม้ โดยไม่สามารถทำอะไรได้เลยกับที่ดินตามโฉนดประมาณ 1 หมื่นไร่ ของตำบลบ้านแซว และตำบลแม่เงิน ทำให้ขาดโอกาสในการเปลี่ยนทรัพย์สินให้เป็นทุน
...
ขณะที่ นายศรียนต์ เชื้อชิต ปลัดองค์การบริหารตำบลศรีดอนมูล กล่าวว่า การจัดทำผังเมืองรวมในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษครั้งนี้ ตนศึกษาดูเห็นว่าพื้นที่กำหนดว่าเป็นพื้นที่ทำการเกษตร จึงอยากให้จัดทำเป็นพื้นที่เกษตรอุตสาหกรรม เพราะเกษตรกรสามารถใช้พื้นที่ดินให้เกิดประโยชน์ได้หลายรูปแบบ
ส่วน นายประธาน อินทรียงค์ นักธุรกิจชาวเชียงราย กล่าวว่าหลังจากที่ฟังข้อมูลทั้งสองฝ่าย อยากให้เจ้าหน้าที่ที่จัดทำผังเมืองรวม ลงไปดูพื้นที่จริงแล้วนำมาปรับให้เหมาะสม โดยเฉพาะพื้นที่สีเขียวมีข้อจำกัดมากจนไม่สามารถทำกิจการอื่นได้นอกเหนือจากการเกษตร ซึ่งจริงๆแล้ว ภาคเกษตรในอนาคต อาจจะแปรเปลี่ยนเป็นเกษตรแปรรูปและเกษตรอุตสาหกรรม ไม่เช่นนั้นแล้ว พื้นที่สีเขียวจะถูกจำกัดจนไม่สามารถทำกิจการอื่นได้เลย
นอกจากนี้ ยังมีประชาชนในพื้นที่ได้แสดงความคิดเห็นคัดค้านไปทำนองเดียวกัน จนนายพินิจ นายอำเภอเชียงแสน ที่นั่งรับฟังอยู่ในห้องประชุมด้วย ได้สรุปให้เจ้าหน้าที่จัดผังเมืองรวมรับข้อเสนอแนะและความคิดเห็น นำกลับไปพิจารณาปรับปรุงแก้ไขต่อไป.