ผงาด “คิง เพาเวอร์มหานคร” ทุ่ม 14,000 ล้านซื้อ “มหานคร”

Date Time: 11 เม.ย. 2561 06:10 น.

Summary

คิง เพาเวอร์ทุ่ม 14,000 ล้าน ซื้อโครงการมหานครในส่วนของโรงแรม จุดชมวิว และอาคารร้านค้า พร้อมเปลี่ยนชื่อตึกเป็น “คิง เพาเวอร์มหา-นคร” ชูเป็นแลนด์มาร์กรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกต่อยอดธุรกิจ

คิง เพาเวอร์ ทุ่ม 14,000 ล้าน ซื้อโครงการมหานครในส่วนของโรงแรม จุดชมวิว และอาคารร้านค้า พร้อมเปลี่ยนชื่อตึกเป็น “คิง เพาเวอร์มหานคร” ชูเป็นแลนด์มาร์กรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกต่อยอดธุรกิจ

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิง เพาเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา บริษัทได้รับโอนสินทรัพย์ ที่ได้ซื้อจากบริษัทเพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (PACE) และบริษัทย่อยของเพซ ในวงเงินรวมราว 14,000 ล้านบาท โดยได้ทำรายการเสร็จสมบูรณ์แล้วทั้งการจ่ายเงินและการรับโอนสินทรัพย์ ซึ่งประกอบด้วย ห้องชุดของโรงแรมบางกอกเอดิชั่น จุดชมวิวบนอาคารมหานคร หรือออบเซอร์เวชั่นเด็คที่อยู่บนตึกมหานครชั้น 74-77 นอกจากนี้ยังรวมทั้งอาคารและที่ดินของตึกมหานคร คิวบ์ ที่เป็นอาคารร้านค้าไลฟ์สไตล์ โดยคิง เพาเวอร์จะเข้าครอบครองสินทรัพย์ทั้งหมดดังกล่าว และเปลี่ยนชื่อตึกมหานครเป็น “คิง เพาเวอร์มหานคร”

นายอัยยวัฒน์ กล่าวว่า ตึกมหานครเป็นตึกที่สวยและสูงที่สุดในประเทศไทย มีจุดชมวิวที่ทันสมัยเทียบกันเหมือนกับมหานครเมืองหลวงแห่งอื่นๆของโลกมี โดยสามารถมองเห็นกรุงเทพฯได้รอบทิศทั้ง 360 องศา ซึ่งเป็นมุมมองกรุงเทพฯที่สวยงามมาก โดยจุดนี้สามารถทำสกายบาร์รองรับนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาชมวิวได้และที่สำคัญจุดชมวิวบนตึกที่สูงที่สุดของประเทศไทยแห่งนี้ จะเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพมหานครในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก “ปัจจุบันธุรกิจของคิง เพาเวอร์รองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทั้งในส่วนของร้านค้าปลอดภาษีและโรงแรม ซึ่งการเข้าซื้อทรัพย์สินในครั้งนี้ ถือเป็นทรัพย์สินที่ดีที่บริษัทได้มีการลงทุน เพราะสามารถนำมาขยายศักยภาพและต่อยอดธุรกิจในกลุ่มของคิง เพาเวอร์ได้อย่างดี โดยเฉพาะเรามีจำนวนนักท่องเที่ยวในมือมากพอที่จะนำพาไปใช้บริการในตึกมหานครได้ โดยคิง เพาเวอร์ มีแผนจะขยายร้านค้าปลอดภาษี Duty Free ในเมืองเพิ่มอีกแห่งในตึกมหานครนี้ด้วย ซึ่งน่าจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว”

นายอัยยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของเรสซิเด้นซ์ห้องชุดพักอาศัย เดอะริทซ์-คาร์ลตัน ที่อยู่ในโครงการมหานครของเพซที่เหลืออยู่ 53 ห้องนั้น ก็มีความเป็นไปได้ที่คิง เพาเวอร์ อาจจะมีการ เจรจาซื้อขายกันในระยะต่อไปได้ อย่างไรก็ตามดีลการซื้อขายในครั้งนี้ ก่อนที่จะเสร็จสมบูรณ์ ได้ใช้เวลาในการเจรจามาสักพักหนึ่งแล้ว ซึ่งถือเป็นดีลการซื้อขายที่ win-win ทั้งคู่ เพราะเพซเองก็จะมีสภาพคล่องทางการเงินเพิ่มขึ้นมาบริหารจัดการโครงการและธุรกิจในส่วนอื่นๆต่อได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการมหานครถือเป็นโครงการมิกส์ยูส ขนาดใหญ่ของเพซ มูลค่าโครงการกว่า 22,000 ล้านบาท ที่ได้สร้างความฮือฮาให้กับวงการตึกสูงในกรุงเทพฯ ที่มีจุดขายที่เป็นตึกสูงที่ออกแบบทันสมัยและสูงที่สุดในประเทศ ประกอบไปด้วยห้องชุดพักอาศัยซุปเปอร์ลักชัวรี่ ภายใต้การบริหารจัดการของเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส ราคาขายต่อยูนิตสูงถึง 45-600 ล้านบาท ภายในโครงการยังประกอบด้วย โรงแรม จุดชมวิวบนอาคาร รวมถึงอาคารไลฟ์สไตล์ รีเทล ที่รวบรวมร้านอาหารและร้านค้าและบริการชื่อดังระดับโลก

แต่ด้วยการทำโครงการระดับไฮเอนด์ขนาดใหญ่ มาตรฐานสูง ทำให้เพซต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก ขณะที่มีเงินทุนจำกัดและงานก่อสร้างล่าช้ากว่า แผนส่งผลให้ การรับรู้รายได้ในห้องชุดพัก อาศัยล่าช้า ขณะที่ บริษัทยังได้ไปทุ่มลงทุนโครงการมหาสมุทรวิลล่าหรู ที่หัวหิน แถมรุกออกไปซื้อธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มแบรนด์ดัง “ดีนแอนด์เดลูก้า”เข้ามาอีก จนทำให้บริษัทขาดสภาพคล่องจนต้องตัดขายสินทรัพย์บางส่วน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยมีการตกลงขายห้องชุดในโครงการเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน 53 ห้องที่ เหลือและคอนโดฯหรูนิมิต หลังสวน แต่ดีลการซื้อขายไม่สำเร็จ จนกระทั่งล่าสุดมาเกิดดีลการซื้อขายสินทรัพย์รายการใหญ่ให้กับคิง เพาเวอร์ในครั้งนี้.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ