ที่ปรึกษารมว.ศึกษาฯ ลงพื้นที่เพชรบุรี ตรวจสอบทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์ พบหลักฐานชัด ส่งของก่อนทำเรื่องจัดซื้อตามหลังทุกโรงเรียน เสนอรมว.สั่งย้ายผอ.สพป.เขต 2 พร้อมตั้งกรรมการสอบสวน
วันที่ 9 เม.ย. ผู้สื่อข่าว จ.เพชรบุรี รายงานความคืบหน้ากรณีทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์การศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาเขต 2 จังหวัดเพชรบุรี ล่าสุดที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีที่นางสาวสมจิตร สุขสำราญ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองเผาถ่าน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เปิดโปงขบวนการทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์โต๊ะ เก้าอี้ ในระดับชั้นอนุบาลและประถมศึกษาโดยมีการจัดหาครุภัณฑ์มาให้ทางโรงเรียนก่อนและให้ทำเรื่องจัดซื้อตามหลัง ซึ่งทางโรงเรียนได้ปฏิเสธและขอคืนงบประมาณ ขณะที่อีก 24 โรงเรียนมีการทำเรื่องจัดซื้อตามหลังไปแล้วนั้น
...
ล่าสุด สายวันที่ 9 เม.ย.61 พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยคณะทำงานฝ่ายกฎหมายได้ลงพื้นที่ตรวจสอบครุภัณฑ์ดังกล่าวยังโรงเรียนบ้านหนองเผาถ่าน พร้อมทั้งได้เชิญผู้อำนวยการโรงเรียนใกล้เคียงอีก 3 โรงเรียน มาให้ปากคำ มีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานทั้งด้านตัวงบประมาณและกระบวนการจัดส่งครุภัณฑ์ที่จัดหาอย่างละเอียด พบว่า มีการนำครุภัณฑ์มาส่งก่อนทำเรื่องการจัดซื้อทุกโรงเรียน จึงเชื่อว่ามีขบวนการทุจริตในการจัดซื้อครุภัณฑ์ดังกล่าวจริง จึงได้เสนอให้ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มีคำสั่งให้นายฐานันดร บรรดาศักดิ์ ผู้อำนวยการพื้นที่ประถมศึกษาเขต 2 จังหวัดเพชรบุรี ไปประจำสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แล้วในวันนี้ และให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งให้คำแนะนำต่อผอ.โรงเรียนว่าต้องดำเนินการอย่างไรในขั้นตอนต่อจากนี้ไป
จากนั้นในช่วงบ่าย ที่ปรึกษารัฐมนตรีได้เดินทางไปตรวจสอบครุภัณฑ์ที่โรงเรียนบ้านร่องระกำ อ.ชะอำ พร้อมทั้งเชิญผู้อำนวยการโรงเรียนอีก 3 โรงเรียน ประกอบด้วยผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านร่องระกำ ผู้อำนวยการโรงเรียนนิคมสร้างตนเองเขื่อนเพชร และผู้อำนวยการโรงเรียนนายาง มาให้ข้อมูลพร้อมทั้งหลักฐาน ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานแล้วพบว่าการจัดซื้อครุภัณฑ์การศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาเขต 2 แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มแรกคือการจัดซื้อและเบิกจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วจำนวน 21 โรงเรียน กลุ่มที่ 2 มีการทำเรื่องจัดซื้อแต่ยังไม่มีการเบิกจ่ายเงินจำนวน 3 โรง และกลุ่มสุดท้ายคือเสนอขอคืนงบประมาณ 1 โรงเรียนรวมเป็น 25 โรงเรียน โดยทั้ง 24 โรงเรียน พบว่ามีกระบวนการจัดซื้อที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่เป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานราชการ คือมีการนำครุภัณฑ์มาส่งมอบก่อนที่จะมีการทำเรื่องจัดซื้อจัดจ้าง โดยมีนายฐานันดร บรรดาศักดิ์ ผอ.สปพ.เขต 2 เป็นผู้ดำเนินการให้ร้านค้านำครุภัณฑ์ทั้ง โต๊ะ-เก้าอี้ เครื่องถ่ายเอกสารและคอมพิวเตอร์มาส่งมอบให้ทางโรงเรียน โดยเบื้องต้นอ้างว่าทางเขตพื้นที่การศึกษาเขต 2 เป็นผู้ทำเรื่องจัดซื้อให้และต่อมามีการนำครุภัณฑ์ทั้งหมดมาส่งยังโรงเรียนทั้ง 25 แห่ง และให้ทางโรงเรียนเป็นผู้ทำเรื่องจัดซื้อตามหลัง ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามพ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
พล.ท.โกศล กล่าวว่า ผอ.สพป.เขต 2 ได้มาที่โรงเรียนด้วยตัวเองเมื่อวันที่ 14 ก.พ.2561 และมีเจ้าหน้าที่ลงมาชี้แจงกับผอ.โรงเรียนว่าทางเขตพื้นที่จะเป็นฝ่ายจัดหาครุภัณฑ์ให้ กระทั่งต่อมาวันที่ 19 ก.พ. 2561 ก็มีครุภัณฑ์ลงมาส่งให้กับทางโรงเรียนเลย โดยที่ยังไม่มีการทำเรื่องจัดซื้อจัดจ้าง จึงเป็นการกระทำที่ผิดขั้นตอน ซึ่งผอ.โรงเรียนอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์
อย่างไรก็ตามการมาทำจัดซื้อจัดจ้างภายหลังก็ต้องมาหาเหตุผลว่า ทำไม และเข้าใจอย่างไรจึงได้ทำตามหลังไป ซึ่งทางคสช.เองได้ออกมาตรการเข้มงวดเกี่ยวกับการทุจริตเมื่อวันที่ 27 มี.ค.นี้ รวมทั้งกระทรวงเองก็เข้มงวดในเรื่องนี้ ซึ่งวันพรุ่งนี้ตนเองจะนำเรียนต่อรมว.ศึกษาธิการทันทีและจะตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงทันทีเช่นกัน
...
พร้อมกันนี้ที่ปรึกษารมว.ศึกษาธิการ ได้แสดงความชื่นชมนางสาวสมจิต สุขสำราญ ผอ.ร.ร.บ้านหนองเผาถ่าน ที่เห็นความผิดปกติและปฏิเสธด้วยการคืนงบประมาณส่วนนี้ทันที โดยเรื่องนี้จะเสนอให้ ปปง.เข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ถูกกล่าวหาคือ ผอ.สพป.เขต 2 อีกด้วย