โซเชียลแชร์คลิปพ่อบังเกิดเกล้า บุกไปทำร้ายลูกชายวัย 16 ปี พร้อมข่มขู่ระหว่างทำงานพิเศษที่ร้านยาง โดยไม่สนใจคนที่เข้ามาห้ามปราม
จากเหตุการณ์แฟนเพจเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ ได้แพร่คลิป ชายเสื้อฟ้าสวมหมวกกันน็อก ฉุดกระชากวัยรุ่นชายคนหนึ่ง ก่อนที่จะชกต่อยและกระทืบวัยรุ่นที่นอนอยู่ที่พื้น ก่อนที่คลิปดังกล่าวจะถูกนำแชร์ในโซเชียล ระบุว่า น้องที่ทำงานถูกพ่อบังเกิดเกล้าตามมาทำร้าย ทั้งที่ผู้เป็นพ่อไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดู น้องต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองตั้งแต่อายุ 10 ปี เป็นเด็กดี เพื่อนๆ ที่ทำงานรัก พ่อแท้ๆ ติดคุกเรื่องยาเสพติด และเพิ่งออกจากคุกมาประมาณ 1 ปี
ล่าสุด ทีมข่าวไทยรัฐ ได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุอยู่ภายในซอยกระทุ่มล้ม 3 ย่านพุทธมณฑลสาย 4 พบว่าเป็นร้านขายยางรถยนต์ของบริษัทแห่งหนึ่ง เปิดมาได้ประมาณ 1-2 ปี แต่ไม่พบวัยรุ่นชายที่ถูกทำร้าย โดยพนักงานขายยางรถยนต์ บอกว่าน้องที่ถูกทำร้าย ชื่อน้องหนึ่ง (นามสมมติ) ได้ลางานไปหาญาติที่ต่างจังหวัด
ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า น้องหนึ่งที่ถูกทำร้าย อายุ 16 ปี มีบ้านพักอาศัยอยู่ในละแวกนี้ มาทำงานได้ประมาณ 2 สัปดาห์ เป็นคนนิสัยดี ชอบช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน ขยันขันแข็ง และไม่ค่อยพูดเรื่องส่วนตัวให้ฟัง วันเกิดเหตุ พ่อน้อง คือ นายเอ (นามสมมติ) ได้ขี่รถจักรยานยนต์มากับภรรยาใหม่ มาสอบถามราคายางรถจักรยานยนต์
กระทั่งแฟนใหม่นายเอ ได้ส่งสัญญาณบอกนายเอว่า น้องหนึ่งอยู่ในร้าน นายเอจึงเดินเข้าไปหาน้องหนึ่ง ที่ยืนหันหลังอยู่ จากนั้นพยายามฉุดกระชากลากตัวออกไปข้างนอก น้องหนึ่งจึงขัดขืน กระทั่งทั้งคู่มาหยุดที่บริเวณประตูทางเข้าออฟฟิศ นายเอ จึงลงมือชกต่อยและกระทืบน้องหนึ่งหลายครั้ง
...
ทั้งนี้ ตนเองและพนักงานจึงเข้าไปห้าม กลับถูกนายเอบอกว่าไม่ต้องมายุ่ง และลงมือทำร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยที่น้องหนึ่งทำได้แต่เพียงปกป้องตัวเอง พร้อมข่มขู่น้องหนึ่งไม่ให้อาศัยอยู่ในย่านนี้ และเดินออกจากร้านไป ซึ่งก่อนหน้านี้ลุงของน้องได้มาเตือนน้องว่า นายเอ รู้แล้วว่าน้องทำงานที่ร้านนี้ น้องหนึ่งจึงนำหน้ากากอนามัยมาสวมใส่ กระทั่งได้มาเกิดเหตุขึ้น ทำให้รู้สึกสงสารน้องมาก เมื่อสอบถามน้องก็ไม่บอกอะไร
ล่าสุดนายเตชะ ทับทอง ที่ปรึกษาสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สภาพจิตใจน้องหนึ่ง สบายใจขึ้นและไม่มีอาการเครียดหรือวิตกกังวลใดๆ เมื่อช่วงสายที่ผ่านมาได้พาน้องเข้าไปที่บ้านพักเด็กและครอบครัวเพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณาว่าเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.ความรุนแรงทารุณกรรมในครอบครัวหรือไม่ และให้ช่วยดำเนินการเรื่องคดีความ
โดยครอบครัวน้องหนึ่งพ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็กๆ จึงอาศัยอยู่กับญาติ และเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา นายเอได้มารับน้องหนึ่งมาดูแล แต่กลับทำร้ายร่างกายน้องหนึ่งเป็นประจำ จนทนไม่ไหวต้องหนีออกจากบ้านและหางานทำส่งเสียตัวเองเรียน กศน.
กระทั่งนายเอ ทราบว่าน้องหนึ่งมาทำงานที่ร้านขายยางละแวกบ้าน นายเอจึง มาทำร้ายร่างกายล่าสุด พร้อมข่มขู่หมายเอาชีวิต โดยขณะนี้น้องหนึ่งไม่ต้องการกลับไปอยู่กับนายเอ และจะดำเนินคดีกับนายเอ ให้ถึงที่สุด
(ชมคลิป คลิกที่นี่)