ผบ.ทบ. แย้มโผทหารไม่ปรับย้ายมาก ให้ลุ้นดู มทภ.4 อยู่หรือไป ชี้เป็นเรื่องดีคนแห่จัดตั้งพรรคใหม่เยอะ คาดหวังคนรุ่นใหม่เข้ามาเปลี่ยนแปลงการเมืองไทย
เมื่อวันที่ 9 มี.ค.61 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารกลางปีว่า ได้ผ่านขั้นตอนของตนไปแล้ว เสนอไปแล้วไม่มีการปรับย้ายอะไรมากมาย ส่วนใหญ่เป็นการปรับเพื่อทดแทนบุคคลที่เกษียณอายุ และหมุนเวียนในส่วนของกองอำนวยรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เท่านั้น
ส่วนกรณีที่ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 มีความประสงค์จะอยู่ในตำแหน่งต่อนั้น ต้องรอให้โปรดเกล้าฯ ลงมาก่อน ก็จะทราบว่า แม่ทัพภาคที่ 4 ยังอยู่ในตำแหน่งเดิมหรือเปลี่ยนแปลง
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ส่วนการปรับโครงสร้างของ กอ.รมน.ที่จะดูแลงานความมั่นคงนั้น ในภาพรวมเริ่มจากในปีที่ผ่านมาตนเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาทำหน้าที่ รอง ผอ.กอ.รมน.ก็เห็นปัญหา โดยเฉพาะการหมุนเวียนช่วยราชการปีต่อปี ทำให้งานไม่ต่อเนื่องจึงจัดระบบตั้งสำนักงานประสานงานขึ้นมา และปรับระบบคนที่เข้าไปทำงานตรงนี้ เพื่อให้เป็นตำแหน่งประจำ นอกจากนี้ทำการปรับโครงสร้างเรื่องของงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และออกคำสั่งเพิ่มเติมเพื่อให้รับผิดชอบการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสาธารณภัย ซึ่งตามกฎหมายเดิมรับผิดชอบเฉพาะภัยจากบุคคล ถือเป็นการปรับภาพรวมเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับ กอ.รมน.ในการทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชน ทุกวันนี้ กอ.รมน.ทำงานตามกรอบภารกิจภายในประเทศถือเป็นตัวแทนของกองทัพบก
ผบ.ทบ.หวังพรรคการเมืองใหม่เข้ามาเปลี่ยนการเมือง
นอกจากนี้ พล.อ.เฉลิมชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองใหม่จดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ ว่า ถ้ามองในภาพการเมืองนับเป็นนิมิตหมายดี ที่มีการจัดตั้งพรรคจองชื่อพรรคเป็นจำนวนมาก และมีความหลากหลาย จึงเป็นการตื่นตัวทางการเมือง รวมทั้งเป็นทางเลือกให้ประชาชนสามารถได้หลายตัวเลือก
...
ส่วนกรณีที่กลุ่ม กปปส.ที่เคยเป็นกลุ่มม็อบการเมืองจะตั้งพรรคการเมืองนั้น ตนไม่ได้มองในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องมอง ซึ่งตนเองไม่เกี่ยว ซึ่งถ้าจัดตั้งพรรคมาแล้วเป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชนอย่างไร สิ่งนี้ต่างหากเป็นเรื่องสำคัญ
เมื่อถามว่า การที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ตั้งพรรค แล้วมี นายปิยบุตร แสงกนกกุล นักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ ผู้ซึ่งเคลื่อนไหวแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทาง คสช.ประเมินอย่างไร พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิ์จัดตั้งพรรค แต่จะได้รับสนับสนุนมากน้อยแค่ไหน จากพี่น้องประชาชน เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ละคนก็จะมองว่าพื้นฐานแต่ละพรรคเป็นอย่างไร ตนเชื่อว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับวิจารญาณของพี่น้องประชาชน
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้การที่กลุ่มม็อบการเมืองจะตั้งพรรค ตนคิดว่าคงไม่มีความขัดแย้ง เพราะหน้าที่หลักของตนจะดูแลด้านความมั่นคง เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งให้ได้ ซึ่งเรื่องก่อนหน้านี้จะไม่มีปัญหาอะไร และเชื่อมั่นว่าจะดูแลสถานการณ์ได้ อีกทั้งยังเชื่อว่าเมื่อถึงการเลือกตั้งก็ต้องขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนว่าจะเลือกใครหรือไม่ ด้วยเห็นผลอะไรต่างหาก
เมื่อถามถึงหลักเกณฑ์การพิจารณาผ่อนปรนให้พรรคการเมืองใหม่ สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างไร พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามขั้นตอนว่าพรรคการเมืองใหม่ต้องทำอะไรบ้าง เช่น การประชุมพรรค และเหตุผลในการขอมีอะไรบ้าง ซึ่งการขอต้องขอผ่านคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ คสช.พิจารณา ซึ่งส่วนใหญ่กระบวนการเรื่องพรรคการเมือง ไม่น่ามีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงนี้ คนที่เตรียมตั้งพรรคการเมืองต้องเคลื่อนไหว เพื่อให้มีบทบาทในสังคม ให้ประชาชนรู้จัก ซึ่งตนไม่เชื่อว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะนำมาซึ่งความวุ่นวาย และคิดว่าไม่มี
เมื่อถามว่า ดูหน้าตาพรรคการเมืองใหม่ๆ จะเปลี่ยนแปลงประเทศได้หรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า จะตอบโดยตรงไม่ได้หรอก เพราะนโยบายของพรรคอะไรต่างๆ ยังไม่ถึงขั้นนั้น ตนคงตอบไม่ได้ ตอนนี้มีเพียงบุคลากรที่ออกมาเคลื่อนไหว ซึ่งตอนนี้ยังมีเวลา ไม่มีอะไรจะต้องกังวล
"ผมมองว่าการที่คนรุ่นใหม่เข้ามาเล่นการเมือง จะคาดหวังหรือไม่คาดหวัง เป็นเรื่องปกติ บ้านเมืองเราจะเป็นยุคสมัย เปลี่ยนผ่านไป เหมือนกรณีผมออกไปก็จะมีคนรุ่นใหม่เข้ามา เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่การเลือกตั้งขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนว่าคิดเรื่องเหล่านี้อย่างไร" พล.อ.เฉลิมชัย กล่าว.