ตม.- ตร.ทท.ขอนแก่น ร่วมจับพระเขมรปลอม ออกเรี่ยไรเงินทั่วเมืองขอนแก่น พร้อมของกลางจำนวนมากทั้งเงินสด บาตรพระ ของใช้ส่วนตัว ที่หลังสถานีขนส่งขอนแก่น โดยพระปลอมกลุ่มนี้เมื่อได้เงินแล้ว ก็จะเดินทางกลับเขมรทันที...
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 8 ก.พ.61 ที่กองกำกับการบริการคนต่างด้าว ( กก.บคด.บก.ตม.4) จ.ขอนแก่น พล.ต.ต.กิตติกร บุญสม ผบก.ตม.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีชา เจียห์สกุล ผกก.บคด.ตม.4,พ.ต.อ.เจษฎา สวยสม ผกก.1 บก.ทท.2,พ.ต.ท.ธนวัสส์ ขนิษฐวงศ์ สว.สส.กก.บคด.บก.ตม.4 และ พ.ต.ท.ธนาทัศน์ ศรีพิพัฒน์ สว.สทท.1 กก.1บก.ทท.2 (ตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น) ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายซัน สะเหวด (Mr.SUN SAVET) อายุ 56 ปี ชาวกัมพูชา พร้อมด้วย นายลืมกระสอน อายุ 28 ปี ชาวกัมพูชา, นายวันแพน อายุ 27 ปี ชาว กัมพูชา, และนายวัน นะ อายุ 28 ปี ชาวกัมพูชา ทั้งหมดไม่มีเอกสารการเดินทางที่ถูกต้อง พร้อมของกลางบาตรพระ 5 ใบ เงินสดสกุลเงินบาทไทย กว่า 10,000 บาท พร้อมของใช้ส่วนตัวเป็นจำนวนมาก หลังถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนสนธิกำลังร่วม ตม.4 และตำรวจท่องเที่ยวขอนแก่น จับกุมตัวได้ บริเวณป่าสาธารณะด้านหลังสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 3 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น
พ.ต.อ.ปรีชา เจียห์สกุล ผกก.บคด.ตม.4 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบบุคคลทั้ง 4 แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ ออกบิณฑบาตในช่วงเวลาดังกล่าวโดยมีลักษณะท่าทางและพฤติกรรมที่น่าสงสัย จึงเข้าตรวจสอบโดยพบนายซัน สะเหวด ซึ่งแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ กำลังสนทนากับชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงอยู่ จึงได้เข้าขอตรวจสอบพบว่าพูดไทยไม่ชัด แต่สามารถสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง จึงตรวจสอบเอกสารการเดินทางพบเป็นชาวกัมพูชา และหนังสือเดินทางนั้นหมดอายุแล้ว จึงสืบสนสอบสวนขยายผลและพบว่ามีผู้ร่วมขบวนการที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์กำลังพักผ่อนอยู่บริเวณด้านหลัง บขส.ขอนแก่น แห่งที่ 3 จึงเดินทางเข้าไปตรวจสอบ
...
"จากการขยายผลและติดตามพบพระที่มีพฤติการณ์ดังกล่าวอีก 3 รูปกำลังนั่งพักผ่อนอยู่อย่างสบายใจ บางรูปนอนผูกเปลอยู่บริเวณร่มไม้กลางทุ่งนาจึงได้ขอตรวจสอบเอกสาร ซึ่งก็พบว่าไม่มีใครแสดงเอกสารหลักฐานได้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะหนังสือเดินทาง จึงตรวจสอบอย่างละเอียดพบแต่ละรูปนั้นมีอาหารสด อาหารแห้ง เงินสด อยู่ในบาตรและในย่าม รวมไปถึงจีวรที่สวมใส่รูปละหลายพันบาท"
พ.ต.อ.ปรีชา เจียห์สกุล ผกก.บคด.ตม.4 กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนทั้งหมดให้การว่า ลักลอบเดินทางเข้าประเทศไทยด้วยช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่ง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากนั้นจะตระเวนมาตามจังหวัดต่างๆ ทางภาคอีสานหลายจังหวัดครั้งละ 2 เดือน พอได้สิ่งของและเงินแล้วก็จะเดินทางกลับกัมพูชาทันที และจะกลับเข้ามาใหม่โดยกระทำการเช่นนี้มานานแล้วหลายปี จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว อย่างไรก็ตามหลังการสอบปากคำ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำการเรี่ยไรตามที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.