ด้วยแนวคิด “ละมุดสีดา” หรือ “ละมุดไทย” ที่ไม่ค่อยมีผู้พบเห็นในป่าดิบชื้นมากเหมือนเมื่อก่อน...!
จึงกำลังมีผู้สนใจศึกษาและอนุรักษ์พืชพันธุ์ไม้หายากชนิดนี้ให้คงอยู่ 1 ในนั้น คือ นายมานพ อมรอรช อายุ 45 ปี เจ้าของสวนผลไม้ ต.วันยาว อ.ขลุง จ.จันทบุรี อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้
ปัจจุบันนอกจากปลูกผลไม้หลายสายพันธุ์ไว้ภายในสวน ยังนำ ละมุดสีดา มาปลูกไว้หลายต้น ตั้งใจสืบทอดเจตนารมณ์ของบิดาที่ชื่นชอบการปลูกไม้ป่าเมืองไทยพันธุ์หายาก
นายมานพ บอกว่า ลักษณะทั่วไปของละมุดพันธุ์นี้เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มกลมทึบ พบเห็นมากทางภาคตะวันออก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี ส่วนภาคอื่นๆพบประปราย
จากสถานะโดดเด่นเป็นพันธุ์ไม้ไทยแท้ ผลมีสีสันแดงอมส้ม สดใสงดงาม เมื่อนำไปปอกรับประทานกลิ่นเนื้อของผลไม่ได้ต่างไปจากละมุดฝรั่งที่นิยมกัน เช่น ละมุดไข่ ละมุดหนัง แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนเป็นรสชาติที่ไม่หวานจัด
ที่สำคัญยังมีสรรพคุณทางสมุนไพร เช่น เปลือก แก้ท้องเสีย แก้โรคผิวหนัง ในขณะที่ตามตำรับยาโบราณรับประทานผลสุกเพียงหนึ่งหรือสองผล สามารถช่วยให้คนที่หายป่วยหรือเพิ่งฟื้นไข้ รู้สึกมีจิตใจชุ่มชื่นหายอ่อนเพลีย
จึงเป็นไม้ผลที่ควรปลูกอนุรักษ์ไว้ตามสวนสมุนไพร หรือหน่วยงานราชการสำหรับใช้ในการศึกษาวิจัย
สอดคล้องกับข้อมูลกรมวิชาการเกษตรที่ได้ศึกษาวิจัยพืชที่มีคุณค่าทางอาหารพบในผลสุกละมุดพันธุ์นี้ น้ำหนักรวมกัน 100 กรัม ให้ทั้งพลังงานน้ำ โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต กากใยอาหาร และสารอื่นๆอีกมากมาย
ด้านวัฏจักรชีวิต ละมุดสีดา จะออกดอกช่วงเดือนตุลาคม แล้วให้ผลสุกช่วงต้นฤดูหนาวหรือเดือนธันวาคม
ทุกวันนี้การปลูกไม้ผลหลากสายพันธุ์ภายในสวนแห่งนี้ จึงไม่เพียงขายหวังผลกำไร แต่หวังสร้างความสนใจด้านการอนุรักษ์ และเป็นเรื่องน่ายินดีเมื่อชาวจันทบุรีเริ่มหันมาปลูกแซมในสวนกันบ้างแล้ว
...
ถือเป็นการรวมพลังอนุรักษ์ไว้ให้ผู้คนได้รู้จักพืชพันธุ์ไม้ไทยหายากที่อาจสูญหายไปในไม่ช้านี้...
ศุภชัย จุลละนันทน์