ไทยรัฐออนไลน์
"ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง, มาเร็ค ฮัมซิก, มาร์ติน สเคอร์เทล, มาริโอ เลอมินา, โอมาร์ อับดุลราห์มาน-อาเหม็ด คาลิล" พร้อมร่วมศึกฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ...
ศึกฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานที่เก่าแก่ที่สุดเตรียมระเบิดแข้งขึ้นอีกครั้งในวันที่ 23 และ 25 มีนาคม 2561 ณ ราชมังคลากีฬาสถาน โดยการแข่งขันในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ Concept "ศึก 3 ทวีป : Battle of Continents” ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32
นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการสมาคมฟุตบอลฝ่ายต่างประเทศ และโฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับไทยรัฐทีวีว่า “การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 และ 25 มีนาคม 2561 จะเป็นรวบรวมทีมจาก 3 ทวีปชั้นนำมาเข้าร่วมแข่งขัน โดย ทีมชาติไทย อันดับ 130 ของโลก ในฐานะแชมป์เก่า 15 สมัย ต้องร่วมทำศึกใหญ่กับทีมผู้มาเยือนที่โชว์ผลงานในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2018 ได้อย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งอันดับโลกสูงกว่าทีมชาติไทย โดยทุกประเทศที่เข้าร่วมแข่งขันจะอยู่ใน Top 100 ของ FIFA Ranking โดยได้รับการยืนยันแล้วว่าทีมที่จะเข้าร่วมในฟุตบอลคิงส์คัพ 2018 ศึก 3 ทวีป ในครั้งนี้ ได้แก่ ทีมชาติสโลวาเกีย อันดับ 28 ของโลกจากทวีปยุโรป, ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อันดับ 73 ของโลกจากทวีปเอเชีย และทีมชาติกาบอง อันดับ 93 ของโลก ทีมมาแรงจากทวีปแอฟริกา ตอบตกลงเข้าร่วมแข่งขันรายการนี้เป็นครั้งแรก โดยได้รับการยืนยันจากทุกทีมว่าเตรียมส่งผู้เล่น (A) ทีมชุดใหญ่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ โดยจะมีนักเตะชั้นนำมาร่วมการแข่งขัน อาทิ มาเร็ค ฮัมซิก กองกลาง ทีมนาโปลี, มาร์ติน สเคอร์เทล อดีตกองหลังทีมลิเวอร์พูล นักเตะจากทีมชาติสโลวาเกีย โอมาร์ อับดุลราห์มาน เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย, อาเหม็ด คาลิล นักเตะจากทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, มาริโอ เลอมินา กองกลางจาก เซาแธมป์ตัน นักเตะจากทีมชาติกาบอง
นอกจากนี้ นายพาทิศ ยังกล่าวต่ออีกว่า "การแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไป จะยกระดับการแข่งขันขึ้นเพื่อสร้างมาตราฐานให้ในการแข่งขันให้เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศและนานาชาติ ด้วยการจัดการแข่งขันให้อยู่ในช่วงตรงกับปฏิทิน FIFA DAY เพื่อเก็บคะแนนสะสมอันดับโลก ทำให้ทุกแมตช์ที่ลงทำการแข่งขันมีความเข้มข้นและมีความหมาย รวมถึงทุกทีมที่เข้าร่วมแข่งขันจะจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดร่วมลงแข่งขัน ฟุตบอลคิงส์คัพครั้งที่ 46 นี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญประเดิมศักราชใหม่ของทีมชาติไทย และจะเป็นศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพที่จะไม่เหมือนฟุตบอลคิงส์คัพในครั้งที่ผ่านๆ มา"