วันเสาร์สบายๆวันนี้ ผมชวนท่านผู้อ่านไปคุยเรื่องของ “หุ่นยนต์” กันสักวันนะครับ ปีนี้ “หุ่นยนต์” ถูกจัดให้เป็น “1 ใน 9 เทรนด์เทคโนโลยีที่มาแรงในปี 2561” ในปีที่ผ่านมา หุ่นยนต์ถูกใช้ทำงานแทนคนในโรงงานอุตสาหกรรมเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ในอนาคตอันใกล้ หุ่นยนต์จะถูกใช้ทำงานบริการแทน “พนักงานบริการ” ใน โรงแรม สนามบิน และ ซุปเปอร์มาร์เกต กันแล้ว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อแรงงานในธุรกิจบริการทั่วโลกในอนาคตถึง 800 ล้านคนเลยทีเดียว
พนักงานในภาคธุรกิจบริการ อ่านแล้วคงจะสะดุ้งกันเป็นแถว
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แอลจี อิเล็กทรอนิคส์ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เกาหลีใต้ เปิดตัว “หุ่นยนต์บริการ” ที่ยังเป็น Concept Robots 3 แบบ ซึ่งแอลจีจะนำไปแสดงในงาน CES คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์โชว์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่เมืองลาสเวกัส สหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
แต่หลังจากเปิดตัวหุ่นยนต์บริการ 3 แบบไปแล้ว โฆษกแอลจี อิเล็กทรอนิคส์ บอกกับ ผู้สื่อข่าวซีเอ็นบีซี ว่า หุ่นยนต์ 3 แบบที่จะนำออกแสดงในงานซีอีเอส ยังเป็นเพียง Concept หรือแนวความคิด ยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะผลิตออกสู่ตลาดได้
ผมคิดว่า แอลจี อิเล็กทรอนิคส์ คงกลัวจะถูกต่อต้านมากกว่า เพราะมีผลกระทบต่อแรงงานมนุษย์จำนวนหลายร้อยล้านคน จึงออกมาแก้ข่าว อย่าง Concept Car หรือ รถยนต์ต้นแบบ ที่นำออกแสดงในงานมอเตอร์โชว์ หลังจากแสดงแล้ว 3–5 ปี ก็ผลิตออกจำหน่าย แต่มีการปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพสังคมมากขึ้น หุ่นยนต์บริการก็คงแบบเดียวกัน แถมยังผลิตง่ายกว่าหุ่นยนต์ที่เป็น AI หรือ Artificial Intelligent ด้วยซ้ำ ซึ่งเดี๋ยวนี้ฉลาดขึ้นมาก สามารถจัดพอร์ตการลงทุนแข่งกับสมองมนุษย์ได้แล้ว
...
ไปดู หุ่นยนต์บริการแอลจี ที่จะมาแทนที่ พนักงานบริการ กันเสียหน่อยครับ ผมต้องขอโทษที่ไม่สามารถนำรูปภาพมาลงประกอบได้
หุ่นยนต์ตัวแรก เป็น หุ่นยนต์บริการ ที่สามารถ ให้บริการส่งอาหารและเครื่องดื่มกับลูกค้าในโรงแรม และ เลานจ์สายการบินในสนามบิน ซึ่งสามารถทำงานแทนพนักงานบริการได้หมด แถมยังทำงานได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงไม่ต้องพักไม่ต้องเปลี่ยนกะ
หุ่นยนต์ตัวที่สอง เป็น หุ่นยนต์ยกกระเป๋า หรือ porter robot ซึ่งสามารถ ให้บริการเช็กอินเช็กเอาต์กับลูกค้าของโรงแรมได้ และ สามารถยกกระเป๋าลูกค้าไปส่งที่ห้องพักได้ด้วย หุ่นยนต์ยกกระเป๋านี้ได้มีการทดลองใช้จริงในอุตสาหกรรมโรงแรมแล้ว โดยมีโรงแรมหลายแห่งในญี่ปุ่น ได้ใช้พนักงานเช็กอินเช็กเอาต์และยกกระเป๋า เป็นพนักงานหุ่นยนต์แล้ว
หุ่นยนต์บริการตัวที่สาม เป็น หุ่นยนต์ที่ให้บริการลูกค้าในซุปเปอร์มาร์เกต ซึ่งจะตอบคำถามลูกค้าถึงราคาสินค้า เดินพาลูกค้าไปยังชั้นวางสินค้า หุ่นยนต์แบบนี้ใช้เทคโนโลยีไม่ยากอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าแอลจีสามารถผลิตขายได้ทันที ไม่จำเป็นต้องเป็น Concept Robot ร้านสะดวกซื้อไฮเทคสมัยนี้ ก็ไม่ต้องใช้คนบริการแม้แต่คนเดียว
องค์การแรงงานระหว่างประเทศ ระบุว่า ปัจจุบันมีแรงงานเกือบ 50% ทั่วโลกทำงานอยู่ในภาคบริการ รวมทั้งการค้า การขนส่ง การอำนวยความสะดวก อาหาร และธุรกิจบริการอื่นๆ ขณะเดียวกัน บริษัทแมคเคนซี ก็ออกรายงานวิจัยในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาระบุว่า ในปี 2030 อีก 12 ปีข้างหน้าจะมีแรงงานกว่า 800 ล้านคนถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ ต่อให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างช้าๆ ก็ยังจะมีแรงงานอย่างน้อย 400 ล้านคนได้รับผลกระทบแน่นอน
ทุกวันนี้ประชากรโลกยังเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่งานกลับน้อยลงทุกวัน
ปี 2030 ประชากรโลกจะเพิ่มจาก 7,630 ล้านคน เป็น 8,550 ล้านคน มนุษย์คงต้องแย่งงานกับหุ่นยนต์แน่นอน เทคโนโลยียิ่งเจริญ คนยิ่งอยู่ยากขึ้นทุกวัน ทั้งที่คนเป็นผู้สร้างหุ่นยนต์ ถ้ามนุษย์ต้องว่างงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะถูกหุ่นยนต์แย่งงาน ผมคิดว่าในอนาคต อาจจะมีการออกกฎหมายมาจำกัดการใช้หุ่นยนต์ทำงานแทนคนก็ได้ โลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ไม่เชื่อก็คอยดู.
“ลม เปลี่ยนทิศ”