คว้าขวดนํ้าหอมทุบจนชํ้า ล่ามโซ่ปล่อยตายคาบ้าน กองปราบบุกจับ-เมาแอ๋
ชุดสืบสวนกองปราบฯตามลากคอนายจ้างสาวโหดคารีสอร์ตจังหวัดฉะเชิงเทรา ในสภาพเมายาเสพติดแอ๋ “พล.ต.ท.ฐิติราช” ผบช.ก. รุดสอบปากคำด้วยตัวเอง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา แต่ยังปกปิดข้อเท็จจริงบางส่วนเพราะไม่สอดคล้องกับหลักฐาน ประกาศใครเกี่ยวข้องดำเนินคดีทุกคน แฉผู้ต้องหาเป็นนักพนันตัวยง ทุกครั้งที่เล่นเสียจะหาเรื่องทำร้ายเหยื่อวัย 16 เป็นประจำวันเกิดเหตุใช้ขวดน้ำหอมทุบหน้าและร่างกายจนบอบช้ำหนัก แถมยังล่ามโซ่ทิ้งไว้ให้เสียชีวิตคาบ้านในกรุงเทพฯ วางแผนเอาศพไปเผาที่วัดอ้างเป็นต่างด้าวตายแต่ไม่สำเร็จ เลยร่วมกับพวกขนศพไปฝังดินในจังหวัดเพชรบุรี
กรณีนางจันทิรา ศรีศักดิ์ อายุ 48 ปี ชาว จ.เพชรบุรี ขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ให้ช่วยตามหา น.ส.จริยา หรือน้ำ ศรีศักดิ์ ลูกสาวที่หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำเมื่อ 6 ปีก่อน ขณะที่อายุ 16 ปี หลังเดินทางเข้ามาทำงานเป็นแม่บ้านให้กับ น.ส.กฤษณา หรือโมนา สุวรรณพิทักษ์ อายุ 45 ปีที่บ้านหลังหนึ่งย่านประชาชื่น ต่อมามีพยานให้เบาะแสว่า น.ส.จริยาถูกนายจ้างฆาตกรรมนำศพไปฝังอำพรางคดีในซอยศาลาลอย 4 บ้านนามอญ หมู่ 7 ต.หนองโสน อ.เมือง เพชรบุรี จึงเข้าร้องเรียน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. สั่งการให้ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ไปตรวจสอบหาศพตามเบาะแสที่ได้รับ จนพบศพหญิงสาวถูกฝังไว้ภายในซอยดังกล่าวจริง สภาพเหลือแต่โครงกระดูกต้องส่งศพตรวจดีเอ็นเอที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ และรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ น.ส.กฤษณาตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 พ.ย. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ รอง ผกก.5 บก.ป. และ พ.ต.ท.มนต์ชัย เพ็งเลิศ สว.กก.5 บก.ป.คุมตัว น.ส.กฤษณา หรือโมนา สุวรรณพิทักษ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2431/2560 ลงวันที่ 4 พ.ย.60 ข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย หลังจาก พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. นำกำลังตามจับกุมได้ที่ลานนารีสอร์ต ต.เมืองเก่า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา และคุมตัวมาสอบเครียดที่กองบังคับการปราบปรามตั้งแต่ช่วงเช้ามืด โดยมีนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี และนางจันทิรา ศรีศักดิ์ มารดาเหยื่อ เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์การสอบสวนด้วย
...
พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น น.ส.กฤษณายอมรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา แต่ยังไม่ดี ยังไม่สอดคล้องกับหลักวิชาการเท่าที่ควร คงต้องใช้เวลาอีกระยะ คดีนี้เป็นคดีสำคัญ คนข้างๆยังรู้สึกตกใจ งงๆกับสิ่งที่เกิดขึ้น บางรายปฏิเสธ แต่ทั้งนี้ต้องยอมรับสารภาพเพราะพยานหลักฐานและพยานบุคคล ส่วนรายละเอียดต่างๆขอยังไม่เปิดเผย แต่ซัดทอดไปยังบุคคลต่างๆอยู่บ้าง เจ้าหน้าที่จะตามตัวมาเรื่อยๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเอาข้อเท็จจริงมาให้ได้มากที่สุด ใครเกี่ยวข้องต้องโดนหมดทุกราย แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามีกี่รายเดี๋ยวหนีหมด ข้อกฎหมายต้องปรับตามข้อเท็จจริง ต้องมีพยานหลักฐานดำเนินคดีสั่งฟ้องอะไรต่างๆ เบื้องต้นแจ้งข้อหา น.ส.กฤษณา ความผิดทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย แต่ถ้าสอบพบพฤติการณ์ที่มีความผิดใดเพิ่มเติมจะแจ้งข้อหาทุกฐานความผิด ทั้งนี้จะมอบหมายให้ พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบช.ก. และ พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป. เข้าไปควบคุมดูแลแนวทางของคดีด้วย
ด้านนางจันทิรา ศรีศักดิ์ มารดาเหยื่อโหดเผยว่า แม้ผลนิติวิทยาศาสตร์จะยังไม่ยืนยันออกมาว่าเป็นศพของลูกสาวจริง แต่ตนจดจำรายละเอียดทุกอย่างของลูกสาวได้ ขณะเดียวกัน คนในครอบครัวของผู้ต้องหาที่เห็นเหตุการณ์เล่ารายละเอียดให้ฟังว่า เมื่อนายจ้างไม่พอใจจึงทำร้ายร่างกายจนกราม และซี่โครงหัก ร่างกายบอบช้ำอย่างหนัก และล่ามโซ่บุตรสาวจนเสียชีวิต หากได้พูดคุยกับผู้ต้องหายืนยันจะถามคำถามเดิมว่า “ฆ่าลูกฉันทำไม” หัวอกแม่ทรมาน ยิ่งได้รับทราบความจริงยิ่งทรมานและเสียใจ ส่วนผู้ต้องหาจะให้การอย่างไร ตนยืนยันที่จะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่นำผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำอย่างละเอียดเมื่อวันที่ 3 พ.ย. จนได้หลักฐานชัดเจนแล้ว พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5.บก.ป.มอบหมายให้พนักงานสอบสวน กก.5.บก.ป.ไปขออำนาจศาลอาญารัชดา ออกหมายจับ น.ส.กฤษณา เลขที่ 2431/2560 ลงวันที่ 4 พ.ย.60 ข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย หลังจากนั้น พ.ต.อ.ภูมินทร์สั่งการให้ สว.กก.5.บก.ป. ประกอบด้วย พ.ต.ท.มนต์ชัย เพ็งเลิศ พ.ต.ต.พงศ์พิทักษ์ บุญบำรุง และ พ.ต.ต.อนุรักษ์ บุญค้ำพงศ์ แบ่งชุดสืบสวนออกหาข่าว รวมทั้งตรวจสอบตามสถานที่ต่างๆที่คาดว่า น.ส.กฤษณาจะหนีไปซ่อนอยู่ ก่อนพบว่าผู้ต้องหาหลบไปอาศัยอยู่ที่ลานนารีสอร์ต ต.เมืองเก่า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 5.พ.ย.
ขณะเข้าจับกุมพบว่า น.ส.กฤษณาเมายาเสพติดพูดจาวกไปวนมา ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่กอง บังคับการปราบปราม ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ทุบตีน้องน้ำจริง ด้วยการใช้ขวดสเปรย์ฉีดน้ำหอมตีเข้าที่ใบหน้าด้านขวาจนเขียวช้ำ รวมทั้งตามลำตัวต่อเนื่องหลายครั้งจนเด็กถึงแก่ความตาย ปรึกษากับผู้ที่เกี่ยวข้อง 4 คน ครั้งแรกจะนำศพไปเผาที่วัด อ้างว่าเป็นคนงานต่างด้าวเสียชีวิตแต่ทางวัดไม่ยอม จึงร่วมกันคิดใหม่นำศพไปฝังอำพรางที่บ้านแม่ จ.เพชรบุรี แทน สำหรับ น.ส.กฤษณาเป็นนักพนันตัวยง ถึงขนาดลงทุนเช่าบ้านอยู่ติดชายแดน เพื่อจะได้ข้ามไปเล่นพนันที่บ่อนประเทศเพื่อนบ้านได้สะดวก นอกจากนี้ยัง เป็นคนอารมณ์ร้อน เด็กทำอะไรไม่ถูกใจจะลงมือทำร้ายทันที ยิ่งเล่นการพนันเสียเด็กจะโดนทำร้ายตลอดเหมือนระบายอารมณ์ ส่วนเรื่องกระแสข่าวเคยผ่านเวทีประกวดนางงามนั้น แค่เคยเข้าประกวดนางนพมาศประจำปีที่ จ.เพชรบุรีแค่นั้น
มีรายงานอีกว่า นอกจาก น.ส.กฤษณาเป็นผู้ต้องหาหลักแล้ว จากการรวบรวมหลักฐานและสอบปากคำพยาน พบว่ายังมีผู้ร่วมก่อเหตุ ทั้งผู้ว่าจ้างให้ขุดหลุม คนห่อศพ คนช่วยยกศพน้องน้ำ และคนนำศพไปฝังมีทั้งหมด 4 คน ส่วนสาเหตุที่ความลับเกี่ยวกับการฆ่าโหดสาวใช้ที่ถูกปกปิดอย่างมิดชิดมากว่า 6 ปีรั่วไหลมาถึงหูแม่เหยื่อโหด สาเหตุมาจากการทะเลาะกันในหมู่เครือญาติผู้ต้องหา เรื่องการแบ่งผลประโยชน์บางอย่างไม่ลงตัว ถึงขั้นมี ปากเสียงจนยกเรื่องการฆ่าอำพรางศพน้องน้ำมาข่มขู่กันเอง จน 1 ในผู้ร่วมก่อเหตุนำความลับมาบอกนางจันทิราแม่ของเหยื่ออย่างละเอียด ถึงพฤติกรรมในคดีของแต่ละคน ทั้งวันเวลาเกิดเหตุไปจนถึงจุดฝังศพน้องน้ำ จนตำรวจกองปราบฯเข้ามาคลี่คลายคดีจนประสบความสำเร็จในที่สุด