"มาร์ค" สอนงาน "บิ๊กตู่" สื่อสารงานการเมืองไม่ง่ายเหมือนพีอาร์ ฟันธง "เรือแป๊ะ" ไปไม่ถึง 4.0 จับตา "บิ๊กตู่" พบ"ทรัมป์" จะยอมมะกันนำเข้าหมูหรือไม่ ย้ำ คาดการณ์แล้ว จำนำข้าวมีทุจริต
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 27 ก.ย. 60 ที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช คณะกรรมการบริหารหลักสูตรนิเทศศาสตร์มหาบัณฑิต ได้จัดเสวนาเรื่อง "นวัตกรรมการสื่อสารทางการเมืองและการปกครองส่วนท้องถิ่น" โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นวิทยากร
โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า เมื่อเราพูดถึงปัญหาของประเทศ ก็มักจะมีการพูดเสมอว่า ถ้าเราให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชน ปัญหาจะไม่เกิดขึ้น ซึ่งฟังเหมือนง่าย แต่ความจริงแล้วเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะมองในมุมของผู้ที่ให้ข้อมูลมันก็ง่าย แต่เราลืมมองในมุมของคนที่รับข้อมูลว่าจะรับไปอย่างไร เพราะเรามองแค่มุมของคนที่อยากจะให้ข้อมูล ทุกวันนี้ตนเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ก็คงจะหงุดหงิดว่า ทำไมคนที่รับข้อมูลจากนายกรัฐมนตรีทำไมถึงยังไม่เข้าใจเสียที แม้ว่าท่านจะมีช่องทางการสื่อสารมากมาย แต่ความเป็นจริงแล้ว ปัญหานั้นมันอยู่ที่เรื่องคนที่พูด คนที่มีคนชื่นชอบมากมาย เวลาพูดอะไรคนเขาก็อยากจะฟัง แต่ว่าคนที่ไม่มีคนชอบ เขาจะพูดอะไร จะอธิบายอะไรให้คนที่เข้าใจ คนเขาก็ปิดทีวีหนี ไม่ได้ฟังด้วยซ้ำ นี่คือการเมือง ดังนั้นในเรื่องการสื่อสารทางการเมืองจึงไม่เหมือนกับการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ เพราะการควบคุมสภาวะการสื่อสารเป็นไปได้ยากมาก ที่ผ่านมาตอนตนเข้ามาอยู่ในวงการการเมือง นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็เคยเตือนตนแล้วว่า ถ้าเข้ามาสู่วงการการเมือง เราก็เลวไปแล้วครึ่งหนึ่ง ดังนั้นเวลาจะพูดอะไร การควบคุมสภาวะให้คนมารับฟังก็คงเป็นเรื่องยาก
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ปัญหาใหญ่ในขณะนี้ คือ ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ดังนั้นการแก้ปัญหาจะต้องทำให้เรื่องเศรษฐกิจในระดับชาวบ้านพลิกกลับขึ้นมาให้ได้ ในเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น เป็นเรื่องที่จำเป็น แต่ตนเห็นว่ารัฐบาลยังไม่ได้ทำในสิ่งที่จำเป็นเพื่อจะนำพาประเทศไปถึงในระดับเศรษฐกิจ 4.0 ได้แก่ 1. การเอากฎหมายที่ไม่จำเป็นออกไป และในทางกลับกัน รัฐบาลนี้กลับออกกฎหมายใหม่มากมายมาเป็นอุปสรรคแก่ภาคประชาชนในด้านการทำธุรกิจ 2. นโยบายด้านกำลังคนของไทยนั้นยังไม่มีความเปลี่ยนแปลง 3. โครงสร้างเศรษฐกิจทั่วโลก เป็นตัวตอกย้ำความเหลื่อมล้ำ ดังนั้นถ้าประเทศไทยยังไม่หาวิธีการแก้ไขด้านการตอกย้ำความเหลื่อมล้ำ เราก็จะไปถึง 4.0 ไม่ได้ อีกไม่นาน พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไปคุยกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ตนจะคอยดูว่า จะมีการพูดคุยเพื่ออนุญาตให้มีนโยบายนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯ หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้จะส่งผลต่อเกษตรกรไทย ในด้านนโยบายด้านการจัดระเบียบชาวประมง เพื่อเอาใจสหภาพยุโรปในด้านการลดปัญหาการค้ามนุษย์ ก็ส่งผลทำให้ตอนนี้ อาหารทะเลไทยแพงขึ้นไปแล้ว จะมีการแก้ไขอย่างไร เพราะนโยบายนี้ทำให้ชาวประมงลำบากในการทำอาชีพมาก นโยบายด้านการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย แม้จะมีคนชอบ เพราะทำให้ระบบทางเท้าเกิดความสะดวกสบาย แต่ก็ทำให้คนทำงานมีปัญหา เพราะต้องหาอาหารกินแพงขึ้นมาก
...
นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาตัดสินจำคุก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 5 ปี ในคดีปล่อยปละละเลยจนก่อให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ว่า เบื้องต้นขอศึกษารายละเอียดคำพิพากษาก่อน แต่พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะผู้ร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็เห็นว่าการดำเนินนโยบายรับจำนำข้าวนั้น คาดการณ์ได้ว่าจะนำไปสู่ปัญหาเกิดการทุจริต และเมื่อเกิดการทุจริตแล้วละเลยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็คงต้องดูว่ารายละเอียดของคำพิพากษาได้วินิจฉัยไว้อย่างไรบ้าง ส่วนการติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษนั้น ก็เป็นเรื่องของฝ่ายผู้บังคับใช้กฎหมาย ใครมีหน้าที่ทำอะไรก็ต้องทำต่อไปให้ดี