ศึกชิง 'วิดีโอสตรีมมิ่ง' คอหนัง-คนรักซีรีส์ ห้ามพลาด เจ้าไหนเด็ดสุด

Business & Marketing

Marketing

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ศึกชิง 'วิดีโอสตรีมมิ่ง' คอหนัง-คนรักซีรีส์ ห้ามพลาด เจ้าไหนเด็ดสุด

Date Time: 4 ก.ย. 2560 07:40 น.

Video

“The Summer Coffee Company” มากกว่า เครื่องดื่ม คือ ความสุข | Brand Story Exclusive EP.3

Summary

  • แอปพลิเคชันดูภาพยนตร์ ซีรีส์ รายการทีวีออนไลน์ผ่านวิดีโอสตรีมมิ่งแบบบอกรับสมาชิกที่ถูกลิขสิทธิ์ ไม่ผิดกฎหมาย เปิดดูได้แบบไม่อายใคร เพราะไม่ได้ใช้ของเถื่อน

Latest


เมื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์มากขึ้น ส่งผลให้การใช้ชีวิตของเราแตกต่างไปจากเดิม ไม่เชื่อก็ลองถามตัวคุณเองในแต่ละวัน คุณใช้เวลาท่องโลกอินเทอร์เน็ตวันละกี่ชั่วโมง

ส่วนใหญ่คนไทยจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกออนไลน์ ประมาณ 6-7 ชั่วโมง ในจำนวนนี้ บางคนเลือกที่จะดูละคร ภาพยนตร์ รายการบันเทิงต่างๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยผ่านอุปกรณ์เหล่านี้ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ สมาร์ททีวี เป็นต้น

ทั้งนี้ 'ไทยรัฐออนไลน์' ได้รวบรวมแอปพลิเคชันดูภาพยนตร์ ซีรีส์ รายการทีวีออนไลน์ผ่านวิดีโอสตรีมมิ่งแบบบอกรับสมาชิกที่ถูกลิขสิทธิ์ ไม่ผิดกฎหมาย เปิดดูได้แบบไม่อายใคร เพราะไม่ได้ใช้ของเถื่อน มาฝากกัน เริ่มที่....

NETFLIX  (เน็ตฟลิกซ์) ผู้ให้บริการภาพยนตร์ และซีรีส์ผ่านอินเทอร์เน็ต แม้ว่าจะเข้ามาทำธุรกิจในไทยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ก็ได้รับความสนใจจากคนไทยไม่น้อย ด้วยตัวคอนเทนต์ (Content) ที่แตกต่างจากผู้ให้บริการเจ้าอื่นๆ เช่น การผลิตซีรีส์เอง หรือการร่วมทุนผลิต เช่น เดธโน้ต (Death Note) สเตรนเจอร์ ธิงส์ (Stranger Things) หรือ อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย (A Series of Unfortunate Events)

นอกจากนี้ เน็ตฟลิกซ์ ยังให้บริการบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น เครื่องเกมเพลย์ 4 (Playstation 4) สมาร์ททีวี (Smart TV) Xbox Chromecast สิ่งที่ต้องยอมรับคือ คุณภาพความคมชัดทั้งภาพและเสียงของภาพยนตร์และซีรีส์ ซึ่งให้ความคมชัดสูงสุดถึง 4K Ultra HD บนระบบเสียงดอลบี้ ดิจิตอล (Dolby Digital 5.1CH) เทียบแล้วคุณภาพเสียงและความคมชัดนั้น สูงกว่าผู้ให้บริการรายอื่นในตลาด และเหมาะกับการรับชมผ่านทีวีขนาดใหญ่มากที่สุด

สำหรับ ค่าบริการรายเดือนนั้น มีด้วยกัน 3 ราคา คือ 280 บาท 350 บาท และ 420 บาท ซึ่งในเดือนแรกจะได้รับชมฟรี โดยเราสามารถดาวน์โหลดภาพยนตร์ หรือซีรีส์เก็บไว้ดูที่หลังได้ หรือที่เรียกว่า การรับชมแบบออฟไลน์

ข้อสังเกต
- มีความหลากหลายของซีรีส์ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ฝรั่ง เกาหลี หรือ ญี่ปุ่น
- ภาพยนตร์ที่มีให้เลือกนั้น ไม่ค่อยใหม่เท่าที่ควร
- มีสารคดี วาไรตี้โชว์ ให้เลือกดูด้วย
- เนื้อหาส่วนใหญ่ มีคำบรรยาย (subtitle) เป็นภาษาไทยทั้งหมด

VIU Thailand (วิว ไทยแลนด์) คนรักซีรีส์เกาหลีต่างเทใจ หลังเว็บไซต์ทำ subtitle ต่างปิดตัวลง เนื่องจากผิดลิขสิทธิ์และผิดกฎหมาย เมื่อวิว (VIU) เข้ามาทำการตลาดในไทย จึงถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจของคนชอบดูซีรีส์เกาหลีเป็นอย่างมาก

สำหรับค่าบริการ เดือนละ 119 บาท หากเป็นลูกค้าของค่ายเอไอเอส ดูฟรี 3 เดือนแรก เดือนถัดไปคิดแค่ 99 บาท นอกจากนี้ ทาง VIU ยังเปิดให้ดูฟรีแต่มีโฆษณาคั่น ซึ่งข้อดีของการเสียค่าบริการคือ จะได้รับชมซีรีส์ความคมชัดที่ระดับ Full HD 1080p และสามารถเก็บไว้ดูแบบออฟไลน์ได้

ข้อสังเกต
- ส่วนใหญ่จะเน้น ซีรีส์ของ SBS KBS และ MBC เป็นหลัก ซึ่งแตกต่างกับของฮ่องกง สิงคโปร์ ที่มีการซื้อลิขสิทธิ์ซีรีส์จากช่องเคเบิลอื่นๆ ของเกาหลี
- มีซีรีส์เกาหลียาว 50 ตอนขึ้นไปด้วย
- มีซีรีส์ญี่ปุ่นให้เลือกชม ซึ่งมีทั้งใหม่ที่กำลังออนแอร์ และของเก่าด้วย แต่ไม่มากเท่ากับซีรีส์เกาหลี
- มีซีรีส์ฮ่องกงที่ผลิตเองโดย VIU Hong Kong
- มีรายการวาไรตี้ยอดฮิต อย่าง Running man, Infinite Challenge รวมถึงรายการข่าวที่รายงานความเคลื่อนไหวของวงการบันเทิงเกาหลี
- บรรดาคอซีรีส์เกาหลี มองว่า ทีมแปลคำบรรยายของทีมงาน VIU ยังแปลไม่สนุกเท่าที่ควร

iflix (ไอฟลิกซ์) ถือเป็นเจ้าแรกๆ ที่เข้ามาตีตลาดวิดีโอสตรีมมิ่งในเมืองไทย ล่าสุดทาง iflix เองก็ให้บริการบนสมาร์ททีวี ทั้งนี้ ด้วยค่าบริการอยู่ที่ 100 บาทต่อเดือน ซึ่งเดือนแรกทดลองดูฟรี ขณะเดียวกันทาง iflix เองก็มีโปรโมชั่นหลายแบบเอาใจลูกค้า เช่น หากซื้อโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหนึ่ง ก็สามารถดูฟรีได้นาน 1 ปี เป็นต้น ทำให้หลายคนตัดสินใจเลือกใช้ iflix เป็นจำนวนมาก

ข้อสังเกต
- มีภาพยนตร์ไทย และละครไทยให้เลือกชม
- มีการ์ตูนญี่ปุ่น และดิสนีย์ ให้เลือกชมเป็นจำนวนมาก
- มีภาพยนตร์จากค่ายมาร์เวล (Marvel)
- มีซีรีส์จาก abc studios
- มีซีรีส์และรายการวาไรตี้จากเกาหลี
- มีคอนเสิร์ตให้เลือกชม
- ภาพยนตร์บางเรื่อง หรือรายการวาไรตี้บางชิ้นไม่มีคำบรรยายภาษาไทย
- ภาพยนตร์ ซีรีส์ ส่วนใหญ่ให้ความคมชัดแค่ระดับ SD แต่บางชิ้นก็ให้ระดับ HD

True ID ทรูไอดี อีกหนึ่งบริการจากค่ายทรู ที่เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วนี้ๆ แม้ยังไม่ได้เคาะค่าบริการ ซึ่งตอนนี้ใครอยากลองเข้าไปดูก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมาทดลองก่อนได้ หากใครใช้ค่ายมือถืออื่นก็สามารถโหลดได้เช่นกัน

ข้อสังเกต
- สามารถดูช่องดิจิตอลทีวีทั้ง 22 ช่อง
- มีภาพยนตร์ต่างประเทศที่พากย์ไทย
- มีซีรีส์ต่างประเทศพากย์ไทย
- มีการ์ตูนให้ชม เช่น ปิกาจู วาชิโม โรบอทคุณยาย
- มีสารคดี และรายการวาไรตี้จากต่างประเทศ
- มีรายการ และช่อง HD จากทรูวิชั่นให้เลือกชมได้ เช่น ทรู เอเชียน ซีรีส์ (True Asian Series HD) ช่อง True X-Zyte HD หรือ ทรูสปอร์ต เป็นต้น

AIS Play (เอไอเอสเพลย์) คนที่ต้องการใช้บริการต้องเป็นลูกค้าของเอไอเอสเท่านั้น ซึ่งบางคนที่อยากดู Game of Throne ผ่านช่อง HBO ก็ต้องซื้อซิมเติมเงินมาเพื่อดูเรื่องนี้โดยเฉพาะ ส่วนค่าบริการรายเดือนนั้นอยู่ที่ 299 บาท และ 499 บาท

ข้อสังเกต
- สามารถดูช่องดิจิตอลทีวีทั้ง 22 ช่อง
- มีช่องดังๆ เช่น HBO Cinemax red
- มีช่องกีฬาจาก FOX
- มีการถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตศิลปินไทย และสามารถดูย้อนหลังได้ 

อย่างไรก็ตาม หากใครต้องการดูภาพยนตร์ที่เพิ่งออกจากโรงหนัง และต้องการชมภาพยนตร์ที่มากกว่าบริการที่เราได้ยกตัวอย่างมานั้น เราแนะนำให้เลือกเข้าไปดูแอปพลิเคชันดูภาพยนตร์ แบบออนดีมานด์ หรือเข้าใจแบบง่ายๆ คือ การเช่าหนัง หรือซื้อหนังเป็นเรื่องๆ เพียงแต่เปลี่ยนจากแผ่นดีวีดี หรือ บลูเรย์ (Blu-ray) เป็นไฟล์ดิจิตอล แทน เช่น iTunes Store, PrimeTime, Hollywood HDTV หรือ MONOMAXXX เป็นต้น 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ