ORA Good Cat 2022 ลดราคาลงอีก 7 หมื่น รุ่นท็อปเหลือ 959,000 บาท

เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประกาศราคา ORA Good Cat 2022 ใหม่อีกครั้ง หลังได้สิทธิภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2% โดยลดราคาสูงสุดถึง 79,500 บาท รุ่นท็อปเหลือ 959,000 บาท

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประกาศราคารถยนต์อีวี ORA GOOD CAT 2022 ใหม่อีกครั้งหลังรัฐบาลได้ประกาศลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2% ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ สำหรับราคาใหม่ที่ปรับลดลงมีดังนี้

• รุ่น 400 TECH จากราคา 828,500 บาท เป็นราคา 763,000 บาท 

สำหรับรุ่น 400 TECH มาพร้อมกับสีรถยนต์ภายนอกที่มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ (Sun Black) และสีขาว (Hamilton White) โดยภายในห้องโดยสารของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ทุกคันจะเป็นสีดำและเป็นเบาะผ้า มาพร้อมกับล้อขนาด 17 นิ้ว และเซนเซอร์กะระยะหลัง 4 จุด โดดเด่นด้วยหน้าจอแบบ Integrated Dual Screen ขนาดใหญ่ 17 นิ้ว และระบบนำทางอัจฉริยะ

• รุ่น 400 PRO จากราคา 898,500 บาท เป็นราคา 828,500 บาท

มีสีภายนอกให้เลือกเพิ่มเติมจากรุ่น 400 TECH รวมเป็น 5 สี ได้แก่ สีดำ (Sun Black) สีขาว (Hamilton White) สีฟ้า (Coral Blue) และตัวเลือกสีทูโทนอย่าง ตัวรถสีแดงพร้อมหลังคาสีดำ (Mars Red with Black Roof) และตัวรถสีขาวพร้อมหลังคาสีดำ (Hamilton White with Black Roof)

โดยในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ทุกคันจะมีสีภายในห้องโดยสารเป็นสีดำ พร้อมเบาะหนัง ซึ่งในรุ่น 400 PRO ได้มีการเพิ่มระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ รวมไปถึงกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา และหลังคาไฟฟ้า Panoramic Sunroof พร้อมล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ขนาด 18 นิ้ว เซนเซอร์กะระยะหลัง 4 จุด และระบบไล่ฝ้าภายในห้องโดยสารอัตโนมัติ

โดย ORA Good Cat ทั้งรุ่น 400 TECH และรุ่น 400 PRO ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 47.788 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลสูงสุด 400 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC โดยใช้เวลาในการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรงแบบ DC 0%-80% ภายในระยะเวลาประมาณ 46 นาที หรือชาร์จด้วยไฟบ้านแบบ AC ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง

• รุ่น 500 ULTRA จากราคา 1,038,500 บาท เป็นราคา 959,000 บาท

มาพร้อมสีภายนอกที่มีให้เลือกถึง 7 สี ได้แก่ สีดำ (Sun Black) สีขาว (Hamilton White) สีฟ้า (Coral Blue) และตัวเลือกสีทูโทนอย่างตัวรถสีแดงพร้อมหลังคาสีดำ (Mars Red with Black Roof) และตัวรถสีขาวพร้อมหลังคาสีดำ (Hamilton White with Black Roof)

โดย 5 สีภายนอกนี้ จะมาพร้อมสีภายในห้องโดยสารสีดำและเบาะหนัง ส่วนสีภายนอกแบบทูโทน อีก 2 สีที่เพิ่มเข้ามา คือ ตัวรถสีเขียวพร้อมหลังคาสีขาว (Verdant Green with White Roof) ที่มาพร้อมสีภายในห้องโดยสารสีเขียว/เทา พร้อมเบาะหนัง และตัวรถสีเบจพร้อมหลังคาสีน้ำตาล (Hazel Wood Beige with Brown Roof) ที่มาพร้อมภายในห้องโดยสารสีเบจ/น้ำตาล และเบาะหนัง

ทั้งนี้ รถทุกคันในรุ่นนี้จะมาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ขนาด 18 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม Ternary (NMC) ความจุ 63.139 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามาถวิ่งได้ระยะทางไกลสูงสุด 500 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC โดยใช้เวลาในการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรงแบบ DC จาก 0%-80% ภายในระยะเวลาประมาณ 60 นาที หรือชาร์จด้วยไฟบ้านแบบ AC ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง

ในรุ่น 500 ULTRA นี้ ยังพิเศษไปด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีที่ให้มาเพิ่มเติมจากรุ่นอื่นๆ อย่าง ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ เพื่อช่วยจอดอัตโนมัติได้ทั้งแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวเฉียง และยังมีเบาะนวดไฟฟ้าพร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะของผู้ขับ ระบบ Welcome Seat และระบบบันทึกตำแหน่งของกระจกมองข้าง รวมไปถึงไฟ Welcome light เซนเซอร์กะระยะหลัง 6 จุด และระบบไล่ฝ้าภายในห้องโดยสารอัตโนมัติ.