นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่พักแรมเดือน ม.ค. ที่ทำการสำรวจวันที่ 10-26 ม.ค. จากผู้ตอบแบบสำรวจ 200 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นโรงแรมสถานที่กักตัวทางเลือก (AQ) 18 แห่ง และฮอสพิเทล 7 แห่ง พบว่า โรงแรม 42% ยังมีความกังวลต่อโควิด-19 อย่างมาก โดยโรงแรม 175 แห่ง (ไม่รวมโรงแรมที่เป็น AQ และ Hospitel) เปิดกิจการปกติ 73% ใกล้เคียงกับเดือน ธ.ค.2564 ที่ 74% โรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราวมีสัดส่วน 3% ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมที่ปิดมามากกว่า 6 เดือน และคาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการอีกครั้งในครึ่งหลังของปีนี้
“เดือน ม.ค. โรงแรมส่วนใหญ่ยังมีรายได้อยู่ในระดับต่ำ ใกล้เคียงเดือน ธ.ค.2564 แม้โรงแรมที่เปิดกิจการอยู่และรายได้กลับมาไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับก่อนโควิด-19 มีสัดส่วนลดลงต่อเนื่อง แต่โรงแรมที่รายได้กลับมาไม่ถึง 30% ยังมีสัดส่วน 49% มีเพียง 26% ที่รายได้กลับมาแล้วเกินครึ่งหนึ่ง ส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้และภาคตะวันออก”
สำหรับอัตราการเข้าพักเดือน ม.ค. เฉลี่ยอยู่ที่ 32% ลดลงจากเดือน ธ.ค.2564 ที่ 37% เป็นการปรับลดลงของโรงแรมเกือบทุกภูมิภาค จากการแพร่ระบาดของโอมิครอนในวงกว้าง และการยกเลิกมาตรการเทสต์แอนด์โกรายใหม่ชั่วคราว ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง ยกเว้นโรงแรมในภาคใต้ที่ยังได้รับอานิสงส์จากการรับนักท่องเที่ยวแซนด์บ็อกซ์ ส่งผลให้อัตราการเข้าพักยังสูงกว่าภาคอื่น และอัตราการเข้าพักในเดือน ก.พ.2565 ชะลอลงจากเดือนปัจจุบันมาอยู่ที่ 24% กลับมาใกล้เคียงกับเดือน ต.ค.2564 หรือช่วงก่อนเปิดประเทศ
“โรงแรมที่เป็น AQ 18 แห่ง มีการเข้าพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือน ธ.ค.2564 มาอยู่ที่ 33% ในเดือน ม.ค. ขณะที่การเข้าพักเฉลี่ยในเดือน ก.พ.นี้ จะลดลงมาอยู่ที่ 25% ซึ่งโรงแรมที่เป็นฮอสพิเทล 7 แห่งมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากเดือน ธ.ค.2564 มาอยู่ที่ 38% ในเดือน ม.ค.นี้ สอดคล้องกับจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากโอมิครอน ขณะที่อัตราการเข้าพักเฉลี่ยเดือน ก.พ.นี้ คาดว่าลดลงมาอยู่ที่ 22% ซึ่งโรงแรมส่วนใหญ่มีสภาพคล่องลดลงจากเดือน ธ.ค. และมีสภาพคล่องเพียงพอ ดำเนินธุรกิจได้ไม่เกิน 3 เดือน หรือ 53% ของผู้ตอบแบบสำรวจ โดยมีสัดส่วนของกลุ่มที่สภาพคล่องน้อยกว่า 1 เดือน อยู่ที่ 11% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน สอดคล้องกับอัตราการเข้าพักเฉลี่ยที่ลดลง”.