หวังต้อนนักช็อปเศรษฐีใหม่ เดอะมอลล์รับชำระ 7 สกุลเงินดิจิทัล

เดอะมอลล์เปิดรับสินทรัพย์ดิจิทัล ใช้คริปโตเคอร์เรนซี 7 สกุลแลกสินค้าหรือบัตรกำนัลได้ไม่มีค่าธรรมเนียม เริ่มต้น 1 ธ.ค.2564 หวังโกยเงินจากเศรษฐีใหม่ที่ร่ำรวยจากการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดตัวบริษัทร่วมทุนกับบิทคับ “บิทคับ เอ็ม โซเชียล” ดันไทยเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งเอเชีย

น.ส.ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ได้จัดตั้ง บริษัท บิทคับ เอ็ม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างเดอะมอลล์กรุ๊ป กับบริษัท บิทคับ แคปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้ง ในสัดส่วน 50:50 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 50 ล้านบาท เพื่อลงทุนและบริหารบิทคับ เอ็ม โซเชียล (Bitkub M Social) ตั้งเป้าเป็นดิจิทัล คอมมูนิตี้และโมเดลธุรกิจใหม่ที่จะส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางของสินทรัพย์ดิจิทัล แห่งเอเชียสู่เศรษฐกิจยุค 5.0

ด้านนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้ง กล่าวว่า ปัจจุบันบิทคับมีนักลงทุนบนแพลตฟอร์มกว่า 3 ล้านบัญชี มีนักลงทุนที่ใช้งานสม่ำเสมอ (Active User) กว่า 1.2 ล้านบัญชี มีธุรกรรม ซื้อขายวันละกว่า 25,000 ล้านบาท ส่วนแบ่งตลาด 95% ในไทย

ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งทางในการร่วมกันฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์โควิด โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งเดิมทำรายได้หลักถึงปีละ 3 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 20% ของจีดีพีกลับลดลงเหลือเพียง 300,000 ล้านบาทหรือแค่ 2% เท่านั้น ดังนั้นหนทางหนึ่งที่จะช่วยดึงรายได้กลับคืนมาได้รวดเร็วที่สุดก็คือการจับกลุ่มเศรษฐีใหม่ (New Wealth) ได้แก่ นักลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเป็นพวกกระเป๋าหนักมีพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินสูงมาก ด้วยการวางโครงสร้างสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยให้ถูกต้องและเป็นมิตรต่อกลุ่มนี้

ด้าน น.ส.ศุภลักษณ์ กล่าวเสริมว่า ในอดีตธุรกิจห้างสรรพสินค้าเติบโตสูงถึงปีละ 15% แต่ในปัจจุบันทำได้แค่ 5% และไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น การรุกเข้าสู่สินทรัพย์ดิจิทัลจะเป็นหนทางที่จะทำให้ธุรกิจของเดอะมอลล์กรุ๊ปเติบโตในระดับสูงได้ต่อไป

ทั้งนี้ บิทคับ เอ็ม โซเชียล จะเป็นการสร้างระบบนิเวศ หรือ Ecosystem ของสินทรัพย์ดิจิทัลให้ขยายวงกว้างขึ้น เป็นศูนย์กลางของการแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย

สำหรับเครือข่ายพันธมิตร เริ่มต้นด้วยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, แอร์เอเชีย, บางกอกแอร์เวสย์, โรงแรมเครือดุสิต, อนันดา พร้อพเพอร์ตี้

ขณะเดียวกันบริษัทร่วมทุนนี้ยังมีเป้าหมายสนับสนุนและร่วมลงทุนสร้างสตาร์ตอัพไทยเพื่อผลักดันให้เป็นยูนิคอร์นรายใหม่ๆ รวมถึงการเป็นศูนย์การเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล รวมทั้งการจัดตั้ง NFT (Non-Fungible Token) Gallery เพื่อขาย ประมูล งานศิลปะและงานออกแบบ ทำให้เป็นช่องทางใหม่ในการสร้างรายได้ของเหล่าศิลปินและนักออกแบบจากความคิดสร้างสรรค์ ที่กลุ่มเศรษฐีใหม่สามารถคลิกประมูลได้ทันที และเกมต่างๆ เพื่อนำเข้าสู่โลกของเมทาเวิร์ส (Metaverse) ในอนาคต

โดยลูกค้าสามารถนำสินทรัพย์ดิจิทัล คริปโตเคอร์เรนซี 7 เหรียญ ได้แก่ BITCOIN, TETHER, ETHEREUM, STELLAR, XRP, BITKUB COIN และ JFIN COIN แลกเป็นสินค้าหรือบัตรกำนัล ทั้งห้างและศูนย์ฯ โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ระหว่างวันที่ 1 ธ.ค.2564-28 ก.พ.2565 นอกจากนี้สมาชิก M CARD ยังสามารถใช้สินทรัพย์ดิจิทัล มูลค่า 100 บาท แลกรับ 800 M POINT.