เช็ก 4 หุ้นไอพีโอเด่นเตรียมเข้าเทรดปี 66 SCGC-KCG นำทัพพร้อมสร้างความคึกคัก

Investment

Stocks

ไชยรัตน์  ศรีสุข (อาร์ม)

ไชยรัตน์ ศรีสุข (อาร์ม)

Tag

เช็ก 4 หุ้นไอพีโอเด่นเตรียมเข้าเทรดปี 66 SCGC-KCG นำทัพพร้อมสร้างความคึกคัก

Date Time: 9 ม.ค. 2566 13:36 น.

Video

บัญชีม้า เกลื่อนเมือง คนไทยอยู่อย่างไร ใครต้องรับผิดชอบ ? | Money Issue

Latest


ปี 2566 นับเป็นอีกหนึ่งปีทองของการนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะด้วยกฎเกณฑ์ของการนำบริษัทเข้าระดมทุนนั้นในอนาคตจะเข้มงวดมากขึ้น ก่อนที่ปี 2567 ตลาดหลักทรัพย์จะปรับกฎเกณฑ์ให้บริษัทที่จะเข้าระดมทุนต้องส่งงบการเงินย้อนหลังฉบับเต็มเป็นเวลา 3 ปี ทำให้หลายธุรกิจต้องเร่งเข้าระดมทุนก่อนที่ความเข้มงวดนั้นจะเริ่มต้นขึ้น


ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า มีหลายหุ้นที่น่าจับตา โดย Thairath Money หยิบ 4 ที่น่าจับตาและอาจเข้าเทรดในปีนี้ โดยเฉพาะ SCGC ที่อาจเป็นการระดมทุนครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในตลาดหุ้นไทย

SCGC ปักธงพร้อมเข้าเทรดปีนี้

หนึ่งในหุ้นที่น่าจับตาที่สุดในการเข้าเทรดปีหน้า บริษัทเอสซีจี เคมีคอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC บริษัทในกลุ่ม บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC ยักษ์ใหญ่ธุรกิจด้านซีเมนต์และวัสดุก่อสร้างของประเทศไทย ที่เดินหน้านำกลุ่มบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้โดย SCGC ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจหลักที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการผลิตและจำหน่ายเคมีภัณฑ์ และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

เดิมที SCGC มีแผนจะระดมทุนตั้งแต่ปี 2565 ที่ผ่านมา แต่ก็ต้องเลื่อนออกไป โดยให้เหตุผลว่า สถานการณ์ความผันผวนของตลาดโลก และคาดว่าจะเข้าระดมทุนได้ภายในปี 2566 โดยหาก SCGC สามารถเข้าระดมทุนได้ตามแผนจะเป็นหนึ่งในหุ้น IPO ที่มีขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้

SCGC จะมีการเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 3,854,685,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 25.2% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO (รวมจำนวนหุ้นกรณีที่มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน Over-allotment) โดยมีราคา PAR อยู่ที่ 10.00 บาท และมีที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษาทางการเงิน 3 ราย คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)

ขนมกล่องแดงเดินหน้ายื่นไฟลิ่ง

ถ้าพูดถึง KCG หรือ บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อาจไม่รู้จัก แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นอิมพีเรียลคุกกี้ ขนมกล่องแดงในตำนาน เชื่อว่าหลายคนจะร้องอ๋อทันที โดย KCG เป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภค ซึ่งเน้นผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารและขนมตะวันตก (Western foods) โดยมี 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (Dairy Products) กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการประกอบอาหารและเบเกอรี่ (Food and Bakery Ingredients) และผลิตภัณฑ์อื่นๆ และกลุ่มผลิตภัณฑ์บิสกิต (Biscuits) แบรนด์ที่หลายคนรู้จักกันดี คือ อิมพีเรียลคุกกี้ น้ำผลไม้ SUNQUICK แครกเกอร์ และผลิตภัณฑ์เวเฟอร์ อย่าง Imperial Rosy และ Violet

ความคืบหน้าปัจจุบัน KCG ได้ยื่นไฟลิ่งกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการเสนอขายหุ้นไม่เกิน 170 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 30.4% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO โดยมีที่ปรึกษาทางการเงิน คือ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) โดยมี PAR ที่ 1.00 บาท


MASTER ว่าที่โรงพยาบาลศัลยกรรมแห่งแรก
MASTER บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) โรงพยาบาลด้านศัลยกรรมความงามครบวงจรภายใต้ชื่อ โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ซึ่งเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมแห่งแรกในตลาดหุ้นไทย ซึ่งความน่าสนใจของ MASTER คือ การเติบโตของรายได้และกำไรที่สูงอย่างต่อเนื่อง ตามเทรนด์แฟชั่นของการทำศัลยกรรมเพื่อความสวยงามที่เป็นที่นิยมมากขึ้น

โดย MASTER จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เสนอขายหุ้น 65 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาท โดยมี บริษัท ไพโอเนียแอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ทั้งนี้คาดว่า MASTER น่าจะเข้าจดทะเบียนได้ภายในเดือน ก.พ.นี้

MEB แพลตฟอร์มหนังสือออนไลน์ 

บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) MEB ธุรกิจด้านสื่อออนไลน์ยังเข้าตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีเจ้าของแพลตฟอร์ม E-Book ชื่อดังได้ยื่นไฟลิ่งเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยด้วย โดย บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MEB ประกอบธุรกิจ ผู้จัดจำหน่ายหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) หนังสือเสียง (Audio Book) อุปกรณ์อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Reader) และการบริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งความน่าสนใจของ MEB คือการมี บริษัท บีทูเอส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 153.78 ล้านหุ้น คิดเป็น 51.26 %หลังการเสนอขายหุ้น IPO

ทั้งนี้ MEB จะมีการเสนอขายหุ้นไม่เกิน 75 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 25.00% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO โดยมีที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai