ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 11 พ.ค.64 ปิดที่ 1,578.93 จุด ลดลง 9.22 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 102,357.93 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,023.98 ล้านบาท
หุ้นไทยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ที่ปรับตัวลง นักลงทุนเริ่มขายทำกำไรออกมา หลังราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องมาหลายวัน
ขณะที่หุ้นติดล้อปรับลงนักลงทุนขายทำกำไร หลังราคาเข้าเทรดวันแรกปรับขึ้นร้อนแรง แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองธุรกิจมีโอกาสโตได้ตามเป้าหมายของบริษัท ขณะที่ให้ราคาเป้าหมายตามปัจจัยพื้นฐานแตกต่างกันตั้งแต่ 43-56 บาท
ส่วนหุ้น TU โชว์ฟอร์มสวย ดีดตัวขึ้นทำนิวไฮในรอบ 2 ปี ที่ 17.90 บาท หลังรายงานกำไรไตรมาส 1 ปี 64 ออกมาสวยกว่าที่คาด โดยมีกำไรสุทธิ 1.8 พันล้านบาท เติบโตขึ้น 77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะโต 17% โดยนักวิเคราะห์หลายสำนักขยับปรับเป้าหมายขึ้น หลังมองการส่งออกดี ธุรกิจโตต่อเนื่องจากปี 63 ที่ทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์สวนทางวิกฤติโควิด
โดย บล.บัวหลวง แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 20.7 บาท ตามด้วยฟิลลิปและโนมูระ พัฒนสิน ให้ราคาพื้นฐานเท่ากันที่ 20 บาท ขณะที่กรุงศรีให้ราคาเป้าหมาย 19.50 บาท ส่วนทิสโก้ ให้มูลค่าที่เหมาะสม 19.00 บาท ด้านซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี เคาะเป้าไว้ที่ 18.80 บาท ตามด้วยยูโอบีเคย์เฮียน ให้เป้าหมาย 18.25 บาท และเมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะ “Trading Buy” ให้ราคาเป้าหมาย 18 บาท
สำหรับมุมมองของบัวหลวงที่ให้เป้าสูงสุด ระบุว่า ประเด็นหลักคือ CFO มั่นใจต่อยอดขายและผลประกอบการรวม 2Q21 ว่าจะยังคงรักษาอัตราการเติบโตที่ดีต่อเนื่องจาก 1Q21 จากผลประกอบการหลักเรดล็อบสเตอร์ (RL) และธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งที่คาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ไม่กังวลต่อผลประกอบการ 2Q21 ของ TU ที่คาดว่าจะยังคงเติบโตดีมาก YoY แต่ความท้าทายหลักจะอยู่ที่ผลประกอบการของ 3Q21 และ 2H21 ที่จะผลักดันให้เติบโต YoY เนื่องจากฐานกำไรที่สูงมากใน 3Q20 และ 2H20 รวมถึง GM ที่คาดว่าจะอ่อนตัวลงใน 2H21 ถ้าอิงกับเป้า GM ทั้งปีของบริษัทที่คงไว้ที่ 17% เท่าเดิม เราก็ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 20.7 บาท!!
อินเด็กซ์ 51