หุ้น TIDLOR ซิ่งยกล้อ

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 10 พ.ค.64 ปิดที่ 1,588.15 จุด เพิ่มขึ้น 3.12 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 111,864.86 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3,232.54 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด TIDLOR ปิด 45.75 บาท บวก 9.25 บาท, DELTA ปิด 456 บาท บวก 54 บาท, KBANK ปิด 125.50 บาท บวก 0.50 บาท, TU ปิด 16.80 บาท บวก 1.60 บาท, OR ปิด 29.25 บาท ลบ 0.50 บาท

หุ้นติดล้อ ซิ่งยกล้อ สร้างกำไรงามๆให้กับผู้จองซื้อ จากราคา IPO ที่ 36.50 บาท ราคาเปิดตลาดที่ 53.50 บาท ขึ้นไปสูงสุดที่ 55.50 บาท ลงมาต่ำสุด 45.25 บาท ก่อนมาปิดที่ 45.75 บาท

มาดูมุมมองโบรกเกอร์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐานสูงสุดที่ 56 บาท ระบุว่า บริษัทมีเป้าขยายสินเชื่อปีละ 15-20% และขยายยอดพรีเมียมประกันภัยปีละ 40% ใน 3 ปีข้างหน้า เราประมาณการว่ารายได้ดอกเบี้ยรับโตเฉลี่ย 19% ต่อปี, รายได้ค่าธรรมเนียมโตเฉลี่ย 28% ต่อปี และค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้ลดลง ทำให้คาดการณ์กำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย 29% ต่อปีในช่วงปี 64F-66F

สำหรับปี 64F คาดกำไรสุทธิขยายตัว 32% YoY หนุนจากรายได้ขยายตัว, ต้นทุนการเงินต่ำ และสัดส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้ (C/I ratio) ลดลง แต่ EPS growth ปี 64F จะอยู่ที่+22% YoY

เพราะมี Dilution effect จากการเพิ่มทุน IPO โดยความเสี่ยงหลัก คือ ลูกค้าเป้าหมายอยู่ในกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำ ที่ไม่ได้อิงกับระบบเงินเดือนประจำ มีรายได้เข้ามาเป็นรายวัน ซึ่งอ่อนไหวต่อสภาพเศรษฐกิจ และอาจกระทบต่อคุณภาพสินทรัพย์บริษัทได้ในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา

ส่วน บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 50 บาท ระบุว่า ชอบ TIDLOR คาดสินเชื่อรวมโตเฉลี่ย 18% ต่อปี ผลักดันหลักจากการใช้ประโยชน์จากระบบดิจิทัล และคาดรายได้ดอกเบี้ยที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยโตต่อเนื่องเฉลี่ย 25% ต่อปี จากธุรกิจขายประกัน ผลักดันให้คาดกำไรสุทธิ 2021-23F เติบโตเฉลี่ย +30% ต่อปี

ขณะที่ บล.ทิสโก้ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 42 บาท (หรือ 49 บาท ใน กรณีดีมาก) คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตที่ 32.8% ให้มูลค่าเหมาะสม

จากการประเมินมูลค่า 2022F อยู่ที่ 42 บาท (หรือ 49 บาท ในกรณีดีมาก)

ด้าน บล.โกลเบล็ก คาดกำไรสุทธิมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 16% ต่อปีระหว่างปี 62–64 ประเมินราคาเหมาะสมปี 64 เท่ากับ 40.24 บาทต่อหุ้น!!

อินเด็กซ์ 51