มหาเศรษฐีหุ้นปี 63 "สารัชถ์" ครอง 2 ปีซ้อน เจ้าพ่อพลังงาน รวยวูบ 5.7 พันล้าน

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

มหาเศรษฐีหุ้นปี 63 "สารัชถ์" ครอง 2 ปีซ้อน เจ้าพ่อพลังงาน รวยวูบ 5.7 พันล้าน

Date Time: 9 ธ.ค. 2563 05:06 น.

Summary

  • ความมั่งคั่งเศรษฐีหุ้นไทยปี 2563 หาย 140,000 ล้านบาท เศรษฐี 7 ใน 10 อันดับแรกกอดคอรวยลดลง โดยอันดับ 1 ยังเป็นของขาใหญ่ธุรกิจพลัง-งาน “สารัชถ์ รัตนาวะดี” แห่งกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ครองแชมป์เศรษฐี

Latest

เปิดพอร์ตหุ้น หมอบุญ วนาสิน จากผู้ก่อ THG เหลืออันดับที่ 11 สู่หมายจับฉ้อโกงกู้เงิน 8 พันล้าน

ความมั่งคั่งเศรษฐีหุ้นไทยปี 2563 หาย 140,000 ล้านบาท เศรษฐี 7 ใน 10 อันดับแรกกอดคอรวยลดลง โดยอันดับ 1 ยังเป็นของขาใหญ่ธุรกิจพลังงาน “สารัชถ์ รัตนาวะดี” แห่งกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ครองแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยควบปีที่ 2 มูลค่า 110,000 ล้านบาท รวยลดลง 5,700 ล้านบาท ส่วน “หมอเสริฐ” แห่งบางกอกแอร์เวย์ส-โรงพยาบาลกรุงเทพ/นนทเวช ครองอันดับ 2 มูลค่าหุ้นกว่า 50,000 ล้านบาท รวยลดลง 16,000 ล้านบาท อันดับ 3 “นิติ โอสถานุเคราะห์” รวย 48,000 ล้านบาท “เจ้าสัวเจริญ-ภริยา” สวนกระแสอู้ฟู่เพิ่ม หลังนำหุ้นอสังหาริมทรัพย์ในเครือเข้าตลาดหลักทรัพย์

เป็นประจำทุกปีที่วารสารการเงินธนาคารร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยและจัดต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้เป็นปีที่ 27 โดยวัดจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศที่ถือหุ้นสัดส่วน 0.5% ขึ้นไป ตามการปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นล่าสุดก่อนวันที่ 30 กันยายน 2563 และได้มีการเปิดเผยผลการจัดอันดับเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ผลการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยปี 2563 ปรากฏว่า แชมป์เศรษฐีหุ้นไทย ยังคงเป็นของนายสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการ รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF ครองแชมป์ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 โดยถือหุ้นมูลค่าสูงสุดรวม 115,290 ล้านบาท รวยลดลง 5,670 ล้านบาท หรือ 4.69% ซึ่งนายสารัชถ์เป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ GULF ในสัดส่วน 35.44% ย้อนไปเมื่อปี 2562 ที่นายสารัชถ์ก้าวขึ้นเป็นแชมป์เศรษฐีหุ้นไทยเป็นปีแรก มูลค่าของหุ้น GULF ทะยานขึ้นมาอยู่ที่ 160 บาท (ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 ราคาพาร์อยู่ที่ 5 บาท) เพิ่มขึ้นถึง 83.75 บาท หรือ 109.84% จากราคาเสนอขายประชาชนครั้งแรก (IPO) ที่ 45.00 บาทต่อหุ้นเมื่อปี 2561 แต่ปีนี้หุ้น GULF หนีไม่พ้นโควิด-19 ราคาหุ้นลดลงไป 4.69% (ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 ราคาพาร์ปรับเป็น 1 บาท) ความมั่งคั่งของนายสารัชถ์ในปีนี้จึงลดลง

นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ
นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ

เศรษฐีหุ้นอันดับ 2 ได้แก่ นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือ “หมอเสริฐ” เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพนนทเวช และสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 50,079.31 ล้านบาท หุ้นที่หมอเสริฐถือครองทั้ง บมจ.การบิน กรุงเทพ (BA) สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส บมจ. กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) บมจ.โรงพยาบาลนนทเวช (NTV) และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) ล้วนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 ปีนี้หมอเสริฐจึงมีความรวยลดลงไป 16,031.33 ล้านบาท หรือ 24.25%

นายนิติ โอสถานุเคราะห์
นายนิติ โอสถานุเคราะห์

เศรษฐีหุ้นอันดับ 3 ในปีนี้ ยังคงเป็นของนายนิติ โอสถานุเคราะห์ นักลงทุนรายใหญ่ ทายาทอาณาจักร โอสถสภา โดยถือครองหุ้นมูลค่ารวม 48,181.64 ล้านบาท ลดลง 431.68 ล้านบาท หรือ 0.89% เศรษฐีหุ้นอันดับ 4 ได้แก่ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัททีโอเอ ทายาทคนโตของอาณาจักร สี TOA ขยับมาอยู่ที่ 4 จากอันดับ 6 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือครองหุ้น บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) และ บมจ.ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) (TOA) รวมมูลค่า 41,213.15 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 157.85 ล้านบาท หรือ 0.38%

นายเจริญ สิริวัฒนภักดี
นายเจริญ สิริวัฒนภักดี

เศรษฐีหุ้นอันดับ 5 ได้แก่ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี หลังจากก้าวเข้ามาติดทำเนียบเศรษฐีหุ้นไทยอันดับ 23 เมื่อปีที่แล้ว รวมมูลค่าหุ้นที่ถือครองทั้งสิ้น 38,178.70 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 27,848.13 ล้านบาท หรือ 269.57% จากการนำ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเขาเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเมื่อ ต.ค.2562

เศรษฐีหุ้นอันดับ 6 และอันดับ 7 ได้แก่ 2 เศรษฐีหุ้นเจ้าของ บมจ.เมืองไทยแคปปิตอล (MTC) หรือชื่อเดิมคือ เมืองไทยลิสซิ่ง โดยนางดาวนภา เพ็ชรอำไพ ก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับ 6 จากอันดับ 7 เมื่อปีที่แล้ว โดยถือหุ้นมูลค่า 35,460 ล้านบาท ลดลง 5,580 ล้านบาท หรือ 13.60% ส่วนนายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ขึ้นจากอันดับ 8 มาอยู่อันดับ 7 โดยถือครองหุ้นรวมมูลค่า 35,277.91 ล้านบาท ลดลง 5,563.30 ล้านบาท หรือ 13.62%

นายสมโภชน์ อาหุนัย
นายสมโภชน์ อาหุนัย

เศรษฐีหุ้นอันดับ 8 ได้แก่ นายสมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กิจการธุรกิจพลังงาน จำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ หล่นจากอันดับ 5 เมื่อปีที่แล้ว โดยมีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 34,412.43 ล้านบาท ลดลง 7,671.82 ล้านบาท หรือ 18.23%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 9 ได้แก่ คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ขยับขึ้นเช่นเดียวกับเจ้าสัวเจริญ โดยขึ้น จากอันดับ 23 เมื่อปีที่แล้ว มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 28,728.70 ล้านบาท รวยเพิ่มขึ้น 18,398.13 ล้านบาท หรือ 178.09%

เศรษฐีหุ้นอันดับ 10 ได้แก่ นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธานกลุ่มบริษัท บี.กริม กลุ่มธุรกิจสัญชาติเยอรมันยักษ์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นเจ้าแห่งธุรกิจพลังงาน โรงไฟฟ้า อุปกรณ์การแพทย์ เครื่องปรับอากาศ คมนาคม และอสังหาริมทรัพย์ ขยับขึ้นจากอันดับ 11 เมื่อปีที่แล้ว จากการถือครองหุ้นมูลค่ารวม 26,798.95 ล้านบาท ลดลง 632.63 ล้านบาท หรือ 2.31%

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มาตั้งแต่ต้นปี 2563 ทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 ซึ่งเป็นวันที่ใช้คำนวณมูลค่าความมั่งคั่งของเศรษฐีหุ้นไทยปี 2563 ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 1,237.04 จากปี 2562 ที่อยู่ในระดับ 1,637.22 ลดลงถึง 400.18 จุด คิดเป็น 32.35% ทำให้มูลค่าความมั่งคั่งของเศรษฐีหุ้นไทยในปี 2563 ลดลงถึง 140,796 ล้านบาท หรือ 7.09%


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ