นายปิติ ดิษยทัต ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภายในงานประชุมนักวิเคราะห์ ครั้งที่ 2 ประจำปี 65 เพื่อชี้แจงสถานการณ์เศรษฐกิจ และส่งสัญญาณดำเนินนโยบายการเงินว่า โจทย์ใหญ่ขณะนี้คือ การปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติ แตะเบรกในขนาด และเวลาที่เหมาะสม เพื่อลดแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น จนกระทบต้นทุนผลิต และการใช้จ่ายประชาชน แต่เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน ไม่สะดุด สำหรับการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อขณะนี้ยังอยู่ในส่วนของต้นทุนราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น หรือฝั่งอุปทาน มากกว่าฝั่งการใช้จ่ายที่สูงหรือเศรษฐกิจร้อนแรงเกินไป ธปท.จึงต้องดูแลแรงกดดันเงินเฟ้อไม่ให้เกิดในด้านอุปสงค์ โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้พิจารณาแล้วว่าการขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆในช่วงที่เศรษฐกิจไทยมีแรงส่งของการฟื้นตัวจากการใช้จ่ายในประเทศและการเร่งตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะไม่กระทบให้เศรษฐกิจชะลอตัวมากเกินไป
“การประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัว 3.3% และ 4.2% ในปีหน้า ธปท.ได้รวมปัจจัยลบที่จะเกิดขึ้นจากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท.ไว้แล้ว แต่จะขึ้นดอกเบี้ยเร็ว และแรงแค่ไหน จะพิจารณาอย่างยืดหยุ่น”.