“กยศ.” ล้อมคอกเบี้ยวหนี้ เตรียมหารือเครดิตบูโรทำประวัติผู้กู้ยืม

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า การแก้ไขปัญหาผู้กู้ยืมหรือลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ไม่ใช้หนี้คืนจนกลายเป็นหนี้เสีย ขณะนี้ กยศ.เตรียมไปพูดคุยกับเครดิตบูโรเพื่อจัดทำระบบข้อมูลกลาง สำหรับการตรวจสอบเครดิตของผู้ที่กู้ยืมว่า มีสถานะหรือหนี้คงค้างจนเป็นหนี้เสียเท่าไร มีการผิดนัดชำระหนี้หรือไม่ ลักษณะเดียวกับระบบเครดิตบูโร โดย กยศ.จะทำเป็นภายในของ กยศ.เพื่อสร้างประวัติการชำระหนี้ของผู้กู้ยืม

“ระบบตรวจสอบเครดิตอาจช่วยได้ในอนาคต เพราะสมัยก่อน ถ้าใครไปเรียนต่างประเทศจะกลัวระบบตรวจสอบเครดิต (เครดิตบูโร) กันมาก เพราะเมื่อมีเครดิตไม่ดีแล้ว จะไปทำอะไรในอนาคตไม่ได้ ดังนั้น ใครๆต่างก็พยายามทำให้เครดิตของตนเองดี ขณะนี้ กยศ.ยังไม่อยากให้ลูกหนี้เครดิตเสีย จึงจะทำเป็นระบบเครดิตของ กยศ. เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตปกติของผู้กู้ยืม”

สำหรับระบบข้อมูลกลางที่จัดตั้งขึ้น หากผู้กู้ยืมของ กยศ.ผิดนัดชำระหนี้เป็นเวลานานหรือปล่อยให้กลายเป็นหนี้เสีย จะมีการขึ้นบัญชีของระบบที่ กยศ. จัดทำขึ้น ทำให้ผู้ที่มีความสัมพันธ์ในเครือญาติ เช่น พี่-น้อง ลูก หลาน ไม่สามารถทำเรื่องขอกู้ยืมเงินจาก กยศ.ได้ในอนาคต ดังนั้น วิธีนี้เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการกระตุ้นให้ลูกหนี้ชำระคืนเงินมากยิ่งขึ้น และที่ผ่านมา กยศ.ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้กู้ยืมฝ่าวิกฤติโควิด-19 มาหลายมาตรการ อาทิ การพักชำระหนี้ 2 ปี กรณีผู้ที่งวดชำระเป็นรายปี โดยจะกลับมาชำระหนี้งวดปี 2563 ในเดือน ก.ค.2565 คิดดอกเบี้ยการกู้ยืมเงินแค่ 1% ต่อปี ลดอัตราเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระหนี้เหลือ 0.5% ต่อปี เป็นต้น ถือว่ามีความผ่อนปรนมาก ถ้าใครเป็นหนี้เสียกับทาง กยศ.อยู่ ก็ให้มาชำระหนี้ให้เป็นปัจจุบัน และผ่อนชำระต่อได้.