โครงการ Phuket Sandbox ครบรอบ 1 เดือนเต็มไปแล้ว หลังเปิดโครงการไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค.64 ที่ผ่านมา โดยโครงการดังกล่าว เป็นพื้นที่ทดลองสำหรับการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมาเยือนไทย หลังติดปิดประเทศไปนานเพราะโควิด-19
แต่เพียงไม่นานข่าวการพบผู้ติดโควิด-19 ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมาของภูเก็ต กลับมาเป็นที่จับตามองอีกครั้ง พร้อมกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศที่พุ่งไม่หยุดจนแตะหลักหมื่นมา 1-2 สัปดาห์ และในภูเก็ตเองก็มีการพบว่า นักท่องเที่ยวในโครงการดังกล่าวติดเชื้อโควิด-19 ดัวยเช่นกัน แม้จะมีเพียงแค่ไม่กี่คน แต่ก็ทำให้หลายคนมองว่า เรื่องนี้ไม่ควรประมาท
"ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" จะพาไปสำรวจการดำเนินโครงการ Phuket Sandbox ในรอบ 1 เดือน พร้อมฟังเสียงสะท้อนของผู้ที่เกี่ยวข้องว่า 2 เดือนที่เหลือหลังจากนี้จะให้โครงการดำเนินไปในทิศทางใด
มาเริ่มที่ตัวเลขน่าสนใจจาก "กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา" โดยพบว่า 1 เดือนแรกของโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ (วันที่ 1–31 ก.ค.64) มีการใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ คิดเป็นเม็ดเงินที่เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจรวมกว่า 1,925 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีทั้งรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวโดยตรง และรายงานได้จากห่วงโซ่อุปทานที่สนับสนุนการท่องเที่ยว อาทิ ภาคเกษตร อุตสาหกรรม พลังงาน รวมถึงประเมินว่า ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น จำนวน 2,719 คน ซึ่งเป็นการจ้างงานหรือรักษาตำแหน่งงานเทียบเท่าระยะเวลา 1 ปี คิดเป็นผลตอบแทนการจ้างงาน 210 ล้านบาท และสร้างรายได้ภาษี 87 ล้านบาท
สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 1-31 ก.ค.64 ตัวเลขสะสมอยู่ที่ 14,055 คน ซึ่งประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 1,802 คน
2. สหราชอาณาจักร 1,558 คน
3. อิสราเอล 1,455 คน
4. เยอรมนี 847 คน
5. ฝรั่งเศส 839 คน
ทั้งนี้ มีรายได้จากนักท่องเที่ยว 829 ล้านบาท โดยคิดเป็นต่อคนต่อทริปอยู่ที่ 58,982 บาท และแบ่งเป็นค่าที่พัก 282 ล้านบาท ค่าซื้อสินค้าและบริการท่องเที่ยว 194 ล้านบาท ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 175 ล้านบาท ค่าบริการทางการแพทย์หรือสุขภาพ 124 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ 54 ล้านบาท
แผนจัดการโควิด-19 ให้จังหวัดดูแล แต่โครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ต้องไปต่อ
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้ลงพื้นที่ไปยังจังหวัดภูเก็ตเพื่อรับฟังการดำเนินการต่างๆ พร้อมกล่าวว่า จากการหารือร่วมกับส่วนราชการจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ททท. และภาคเอกชน เพื่อวิเคราะห์ผลดีผลเสียของโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ในช่วงเวลา 1 เดือนนี้
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและคนภูเก็ต ว่าจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไปหรือไม่ แต่ไม่มีคำว่าหยุด แม้จะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อมากกว่า 90 สัปดาห์ โดยจังหวัดภูเก็ตได้มีการยกระดับมาตรการในการควบคุมโรค โดยเฉพาการตรวจคัดกรองผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในเกาะ โดยได้มีการดำเนินการก่อนที่จะมีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่แล้ว เช่น ลดการรวมทำกิจกรรมจาก 200 คน เหลือ 100 คน เป็นต้น
"ในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาภายใต้โครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ นั้นกว่า 14,000 คน มีผลการติดเชื้อโควิด-19 ไม่ถึง 1% ซึ่งถือว่าน้อยมาก ดังนั้นโครงการนี้จึงต้องเดินหน้าต่อไป"
เสนอบูสต์วัคซีนเข็ม 3 ให้คนภูเก็ต
พิพัฒน์ มองอีกว่า แต่จะทำอย่างไรให้คนภูเก็ตเกิดความสบายใจว่า ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ เปิดแล้วกระตุ้นเศรษฐกิจของภูเก็ต แต่ไม่ได้ทำให้คนภูเก็ตกังวลจนเกินไป ฉะนั้นการขอวัคซีนโดสที่ 3 ให้คนภูเก็ต จำนวน 70% ของผู้ที่รับ 2 เข็มไปแล้ว หรือการขอวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 12-18 ปี ของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีประมาณ 58,000 คน ซึ่งตนและผู้ว่าฯ ได้นำเสนอใน ศบค.ชุดเล็กแล้ว และนายกรัฐมนตรีก็รับทราบแล้ว ซึ่งจะมีการนำไปพิจารณา ศบค.ใหญ่ต่อไป
ต้องรักษาป้อมปราการภูเก็ตไว้ให้ได้
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ททท.ไม่มีความคิดที่จะหยุดโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ และถือว่าไม่มีอำนาจด้วย ต้องขึ้นอยู่กับทางจังหวัดภูเก็ตเป็นผู้ตัดสินใจ และการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เกิดขึ้นตอนนี้ ถือว่าเป็นการทดลองระบบที่วางไว้เพื่อไปสู่เป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามามากขึ้นในไตรมาส 4 และในเดือน ส.ค.นี้
โดยนักท่องเที่ยวที่จะเข้าภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ สามารถบินมาต่อเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิได้ด้วย ซึ่งจะมีเครื่องของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และสายการบินไทยสมายล์ที่รับ-ส่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ไม่ปะปนกับคนในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ทาง ททท.ต้องพยายามเดินหน้าเพื่อรักษาป้อมปราการภูเก็ตนี้เอาไว้ให้ได้ เพราะตลอดที่ผ่านมา 15 เดือน คนภูเก็ตที่อาศัยรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ประสบปัญหาเศรษฐกิจมาก การเปิดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ถือเป็นครั้งแรกที่ทำให้ธุรกิจเริ่มเดินได้
"ผมไม่อยากเห็นคนภูเก็ตไม่มีงานทำเหมือนที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ การทำภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ จึงไม่ใช่เปิดๆ ปิดๆ อะไรที่ทำระหว่างทางได้ หากเปิดแล้วยังวิ่งไม่ได้ก็ค่อยๆ เดินไปอย่างมั่นใจ ส่วนมาตรการปิดเกาะ ไม่ให้คนในพื้นที่อื่นของไทยเข้า คงทำได้ยาก เพราะคนภูเก็ตที่ไปทำงานพื้นที่อื่นก็มี และบางคนมีลูกหลานต้องกลับบ้าน และทางจังหวัดก็มีมาตรการที่รัดกุมอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ไม่เพียงต้องฉีดวัคซีนแล้ว ยังต้องมีผลการตรวจหาเชื้อควบคู่ไปด้วย"
ส่วนประเด็นที่ ททท. พยายามสื่อสารไปยังต่างประเทศตอนนี้คือ ขอให้มองจำนวนผู้ติดเชื้อใน จ.ภูเก็ต ออกจากยอดรวมของประเทศไทยที่พบผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น เพราะกังวลว่าหากนักท่องเที่ยวต่างชาติ มองยอดผู้ติดเชื้อในไทยจะส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางมาที่ภูเก็ต รวมทั้งต้องติดตามการตัดสินใจของสายการบินต่างๆ ที่บินเข้าภูเก็ตด้วยว่าจะมีการปรับเปลี่ยนเพื่องดบินเข้าหรือไม่ ซึ่งในตอนนี้มีการติดต่อว่าเดือน ส.ค.นี้ จะมีเพิ่มขึ้นอีก 4 สายการบิน และ ททท.ก็ต้องร่วมมือกับภูเก็ต ลดจำนวนผู้ติดเชื้อให้เร็วที่สุด
คนภูเก็ตจะประคับประคองให้โครงการเดินต่อไปได้
ภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า หลังเปิดภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ มา 1 เดือน มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาประมาณ 14,000 คน เฉลี่ยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 400-450 คนต่อวัน เมื่อเทียบกับภาวะปกติจะมีนักท่องเที่ยวเข้าประมาณ 43,000 คนต่อวัน ฉะนั้นในช่วง 1 เดือนผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 1% ของภาวะปกติ
จากการประเมินของภาคเอกชน มองว่าเป็นการเริ่มต้นที่น่าสนใจ เพราะเราไม่ได้ต้องการให้นักท่องเที่ยวทะลักเข้ามา จนเกิดการความเสี่ยงขึ้น ดังนั้นการค่อยๆ เปิดจึงเป็นเรื่องสำคัญ หลังจากนี้จะเพิ่มเป็น 2 หรือ 3 เป็นสิบหรือยี่สิบอย่างไร ส่วนจะเดินต่อหรือไม่นั้น ขอเปรียบเปรียบแซนด์บ็อกซ์เป็น 1 ร้านค้า ซึ่งมีสามหุ้นส่วน ได้แก่ ราชการ เอกชน และประชาชน หากคุยกันและเห็นตรงกันว่าเดินต่อ ก็เปิดร้านต่อไป ส่วนจะมีการถอนหุ้นหรือไม่ ก็ต้องมาคุยกันต่อ
"ส่วนตัวผมมองว่า ขณะนี้เราเริ่มเห็นประโยชน์จากแซนด์บ็อกซ์ และเป็นจังหวัดเดียวของไทยที่เปิดรับนักท่องเที่ยวได้อยู่ แม้ว่าขณะนี้จะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แต่เราก็อยู่ระหว่างการติดตามและประมวลผล ซึ่งคนภูเก็ตส่วนใหญ่พยายามช่วยกันประคับประคองให้โครงการเดินทางไปได้"
คาดตัวเลขนักท่องเที่ยว ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ อาจต่ำกว่าที่คาด
โดยก่อนหน้านี้ วิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มองว่า แม้โครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ จะสามารถดำเนินการได้ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาอาจยังมีไม่มากนัก โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 3/64 จะมีประมาณครึ่งหนึ่งจากเป้าของทางการที่คาดการณ์ไว้ที่ 129,000 คน
ทั้งนี้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวอาจยังกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดในไทย รวมถึงตลาดนักท่องเที่ยวสำคัญยังเผชิญกับการระบาดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงอยู่ อาทิ อินเดีย และ มาเลเซีย นอกจากนี้ เงื่อนไขและข้อกำหนดทั้งจากประเทศต้นทางและปลายทางที่อาจเป็นข้อจำกัดสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ (วิจัยกรุงศรี คาดจำนวนนักท่องเที่ยวในภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ อาจจะยังไม่มาก)