ช่องทางลงทะเบียนรับสิทธิ "ค่าน้ำ ค่าไฟ" ผู้ถือบัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

ช่องทางลงทะเบียนรับสิทธิ "ค่าน้ำ ค่าไฟ" ผู้ถือบัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566

Date Time: 14 มี.ค. 2566 19:00 น.

Video

ศิรเดช โทณวณิก Gen 3 ดุสิตธานี ธุรกิจที่เป็นมากกว่าโรงแรม | On The Rise

Summary

  • บัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว เตรียมลงทะเบียนรับเงินช่วย "ค่าน้ำ-ค่าไฟ" ย้ำจะต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิใหม่ทุกคน เริ่ม 15 มี.ค. 66

Latest


บัตรคนจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ยืนยันตัวตนสำเร็จแล้ว เตรียมลงทะเบียนรับเงินช่วย "ค่าน้ำ-ค่าไฟ" ย้ำจะต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิใหม่ทุกคน เริ่ม 15 มี.ค. 66

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ (ผู้ผ่านเกณฑ์) ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 (โครงการฯ) หรือ บัตรคนจน รอบใหม่ ที่ยืนยันตัวตนสำเร็จแล้วนั้น จะได้รับสิทธิต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา (มาตรการบรรเทาฯ) ที่สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดการดำเนินมาตรการบรรเทาฯ มีดังนี้

เงื่อนไขรับสิทธิ สวัสดิการค่าไฟฟ้า

ปัจจุบันประชาชนทั่วไปจะได้รับการสนับสนุนค่าไฟฟ้าจากมาตรการของรัฐบาลโดยการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีเงื่อนไขว่า หากประชาชนใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน จะได้รับสิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี

ดังนั้น ภายใต้มาตรการบรรเทาฯ ให้แก่ผู้มีบัตรฯ จะเป็นกรณีที่ผู้มีบัตรฯ ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน โดยจะได้รับสนับสนุนค่าไฟฟ้าวงเงิน 315 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน "แต่หากมีการใช้ไฟฟ้าเกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีบัตรฯ จะต้องเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าด้วยตนเองทั้งหมด"

เงื่อนไขรับสิทธิ สวัสดิการค่าน้ำประปา

สนับสนุนค่าน้ำประปาวงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยในกรณีที่ผู้มีบัตรฯ ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน แต่ไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีบัตรฯ จะยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน โดยจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือนด้วยตนเอง "แต่หากผู้มีบัตรฯ ใช้น้ำประปาเกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน ผู้มีบัตรฯ ต้องเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาด้วยตนเองทั้งหมด"

ปรับเปลี่ยนวิธีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับ "ค่าไฟฟ้า" หรือ "ค่าประปา"

นอกจากนี้ โครงการฯ ปี 2565 ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับค่าไฟฟ้าและค่าประปา สำหรับผู้มีบัตรฯ จากเดิมที่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561 ต้องสำรองเงินจ่ายค่าใช้จ่ายสำหรับค่าไฟฟ้าหรือค่าประปาให้แก่ผู้ให้บริการล่วงหน้าก่อน โดยผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561 จะได้รับเงินสนับสนุนคืนเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายหลัง

สำหรับมาตรการบรรเทาฯ ในครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนเป็นภาครัฐโดยกระทรวงการคลังจะสนับสนุนค่าไฟฟ้าหรือค่าประปาให้แก่ผู้ให้บริการโดยตรงตามมูลค่าที่ผู้มีบัตรฯ ใช้สิทธิตามเงื่อนไขมาตรการบรรเทาฯ ที่กำหนด โดยวิธีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายนี้จะทำให้ผู้มีบัตรฯ ไม่ต้องสำรองเงินจ่ายค่าบริการไปก่อน ซึ่งจะเป็นการช่วยลดภาระ และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่ผู้มีบัตรฯ

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ผ่านคุณสมบัติตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่ประสงค์รับสิทธิมาตรการบรรเทาฯ จะต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิใหม่ทุกคน

ช่องทางลงทะเบียนค่าไฟบัตรประชารัฐ

1. สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หรือผ่านเว็บไซต์ (คลิกที่นี่) เบอร์ติดต่อ 1130

2. สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือผ่านเว็บไซต์ (คลิกที่นี่) เบอร์ติดต่อ 1129

3. กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กทร.) หรือผ่านเว็บไซต์ (คลิกที่นี่) เบอร์ติดต่อ 086-848-1284

ช่องทางลงทะเบียนค่าน้ำบัตรประชารัฐ

1. สำนักงานการประปานครหลวง (กปน.) หรือ ผ่านเว็บไซต์ (คลิกที่นี่) เบอร์ติดต่อ 1125

2. สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) หรือ ผ่านเว็บไซต์ (คลิกที่นี่) เบอร์ติดต่อ 1662

สำหรับผู้ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติ และได้ยืนยันตัวตนสำเร็จ เพื่อรับสิทธิตามโครงการฯ ปี 2565 แล้ว สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิค่าไฟฟ้าและค่าประปาได้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป กับหน่วยงานผู้ให้บริการที่ผู้มีบัตรฯ รับบริการอยู่ ซึ่งหากลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. สำเร็จภายในวันที่ 8 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. หรือลงทะเบียนกับ กทร. สำเร็จภายในวันที่ 20 เมษายน 2566 เวลา 17.00 น. หรือลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปากับ กปน. หรือ กปภ. สำเร็จภายในวันที่ 25 มีนาคม 2566 เวลา 17.00 น. จะได้รับสิทธิเดือนแรก คือ "ใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือนเมษายน 2566"

ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนภายหลังวันและเวลาดังกล่าว เมื่อลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้ากับ กฟน. หรือ กฟภ. สำเร็จภายในวันที่ 8 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน หรือลงทะเบียนกับ กทร. สำเร็จภายในวันที่ 20 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน หรือลงทะเบียนรับสิทธิค่าน้ำประปากับ กปน. หรือ กปภ. สำเร็จภายในวันที่ 25 เวลา 17.00 น. ของแต่ละเดือน จะสามารถได้รับสิทธิสำหรับใบแจ้งหนี้ค่าบริการในเดือนถัดไป (ไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง)

ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ใช้สิทธิตามมาตรการบรรเทาฯ ให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 และปี 2561 จะสามารถใช้สิทธิในรอบใบแจ้งหนี้ค่าบริการเดือน มีนาคม 2566 เป็นเดือนสุดท้าย สามารถนำใบแจ้งหนี้ค่าบริการที่ค้างชำระในช่วงที่ได้รับสิทธิตามมาตรการบรรเทาฯ ไปชำระเพื่อขอรับเงินสนับสนุนได้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2566

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 สามารถเข้าร่วมมาตรการบรรเทาฯ ได้ทุกคน แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขสวัสดิการของมาตรการบรรเทาฯ ที่กำหนดการให้สวัสดิการแบบ 1 ครัวเรือนต่อ 1 สิทธิต่อ 1 รหัสประจำบ้าน ซึ่งสามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าไฟฟ้าได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน เช่นเดียวกันกับค่าประปาที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิค่าบริการได้เพียงผู้ให้บริการ 1 หน่วยงาน.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์