ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังแห่งรัฐที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้หารือเรื่องกรอบเพดานก่อหนี้ ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ตามมาตรา 28 ซึ่งจะสิ้นสุดเวลาการขยายกรอบ 1 ปี จาก 30% ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี เป็น 35% ในช่วงสิ้นปีนี้ จึงให้กระทรวงการคลังไปพิจารณารายละเอียดแล้วนำมาเสนอที่ประชุมครั้งหน้า สำหรับประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ รัฐบาลจะสามารถบริหารกรอบเพดานก่อหนี้ให้กลับมาเหลือ 30% ได้ตามกฎหมายหรือไม่ หลังปี 64 ได้รับผลกระทบจากการใช้จ่ายโครงการประกันรายได้และการอุดหนุนสินค้าเกษตรที่ใช้วงเงินหลายแสนล้านบาท จนทำให้ต้องขยายกรอบวินัยการคลัง ส่วนโจทย์สำคัญที่คณะกรรมการต้องพิจารณา คือ 1.งบประมาณปี 66 ว่ามีเงินที่ตั้งชดเชยมาตรา 28 เท่าไร 2.โครงการที่ได้รับอนุมัติและกำลังใช้เงินมาตรา 28 ในปัจจุบันจะสามารถปิดโครงการ และส่งเงินคืนกลับมาได้แค่ไหน 3.โครงการใหม่ที่จะดำเนินการปี 66 มีขนาดการใช้เงินเท่าไร เช่น โครงการประกันรายได้ข้าว, โครงการไร่ละ 1,000 บาท สนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตให้กับชาวนาไม่เกินครอบครัวละ 20 ไร่ เป็นต้น
ขณะที่ล่าสุด คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด ได้เห็นชอบมาตรการสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวฤดูกาล ปี 65/66 จำนวน 5 โครงการ รวมวงเงิน 150,127 ล้านบาท คือ โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวใช้งบฯ 86,740 ล้านบาท, โครงการไร่ละ 1,000 บาท วงเงิน 55,364 ล้านบาท และอีก 3 โครงการย่อยใช้งบฯรวมกัน 8,022 ล้านบาท หากคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กบข.) เห็นชอบต้องขอใช้งบฯตามกรอบมาตรา 28 อีกครั้ง ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคทำให้คลังไม่สามารถกลับมาใช้เพดานก่อหนี้ที่ 30% ได้.