ผลสำรวจของ ม.หอการค้าไทยระบุประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยเปิดเสรีกัญชา กังวลผลเสียต่อเด็ก เยาวชน แต่ส่วนที่เห็นด้วยมองผลประโยชน์ด้านการแพทย์ ชี้ปี 65 มูลค่าตลาดกัญชา กัญชงไทยกว่า 2.8 หมื่นล้านบาท คาดในอีก 3 ปี ทะยานกว่า 4.2 หมื่นล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหา วิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลสำรวจความเห็นประชาชนต่อนโยบายกัญชาเสรีที่สำรวจประชาชน 1,215 ตัวอย่างทั่วประเทศ วันที่ 5-15 ก.ค.65 ว่า ผู้ตอบส่วนใหญ่ 58.3% ไม่เห็นด้วยกับการเปิดเสรี เพราะห่วงการใช้กัญชาในกลุ่มเด็กและเยาวชน ก่อให้เกิดการเสพติด การใช้เกินขนาดในยารักษาโรค เกิดปัญหาสังคมจากการใช้กัญชา ส่วนอีก 41.7% เห็นด้วย เพราะจะเกิดประโยชน์ทางการแพทย์และนันทนาการ แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ และควรมีบทลงโทษที่รุนแรงเมื่อมีการทำผิดกฎในการใช้กัญชา รวมทั้งกำหนดขอบเขตการเปิดเสรีให้ชัดเจน
นอกจากนี้ ผู้ตอบยังเห็นว่าการเปิดเสรีกัญชาจะเกิดผลเสียต่างๆ โดยเฉพาะผลเสียต่อเด็กและเยาวชน ต่อสังคม และมีข้อเสนอแนะที่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการคือ ให้ความรู้/สร้างความตระหนักรู้ถึงผลดี ผลเสีย ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว, กำหนดปริมาณการบริโภค/การใช้ให้ชัดเจน, กำหนดกลุ่มอายุผู้ใช้, กำหนดสถานที่ในการใช้, มีมาตรฐานหรือข้อกำหนดในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกัญชา พร้อมบทลงโทษ, เร่งพัฒนานวัตกรรมที่ใช้ในการตรวจสอบว่ามีส่วนผสมของกัญชาเกินมาตรฐานหรือไม่
“ผลสำรวจสะท้อนว่าประชาชนมีความกังวลเชิงลบทางสังคม แต่ไม่ปฏิเสธว่ากัญชา มีประโยชน์และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจได้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตสินค้า และเกษตรกร ซึ่งจะต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปสนับสนุนให้ความรู้ ทำการวิจัย เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม เพราะปลายทางจะเกิดประโยชน์ทางการแพทย์ ทำยารักษาโรค และอาหารเพื่อสุขภาพ”
อย่างไรก็ตาม จากการประมาณการพื้นที่เพาะปลูกกัญชง-กัญชา เพื่อประเมินมูลค่าการตลาด พบว่า ล่าสุดเดือน เม.ย.65 ไทยมีพื้นที่เพาะปลูกกว่า 7,500 ไร่ มีมูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ กว่า 28,000 ล้านบาท แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์ต้นน้ำ 9,615 ล้านบาท ประกอบด้วย ช่อดอกแห้ง 8,123 ล้านบาท ใบแห้ง 1,128 ล้านบาท เมล็ด 140 ล้านบาท ส่วนอื่นๆ 224 ล้านบาท, ผลิตภัณฑ์กลางน้ำ 14,690 ล้านบาท ประกอบด้วย สารสกัดเข้มข้น 12,410 ล้านบาท น้ำมันกัญชา/น้ำมันกัญชง 1,383 ล้านบาท เส้นใยกัญชง 896 ล้านบาท
ขณะที่ผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ 3,750 ล้านบาท ประกอบด้วย ยารักษาโรคและอาหารเสริม 1,500 ล้านบาท อาหารและเครื่องดื่ม 1,200 ล้านบาท เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล 800 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่มและของใช้ส่วนตัว 250 ล้านบาท และยังคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดในช่วง 3 ปีข้างหน้า หรือในปี 68 จะอยู่ที่ 42,800 ล้านบาท เติบโตได้ 10-15% จากปัจจุบัน โดยผลิตภัณฑ์ปลายน้ำจะเติบโตเร่งกว่าปัจจุบัน คาดว่าจะสร้างรายได้ให้เกษตรกรสูงถึง 800,000-1.2 ล้านบาทต่อไร่ต่อปี หรือเฉลี่ย 1 ล้านบาทต่อไร่ต่อปี หากเทียบกับการปลูกข้าว เกษตรกรจะมีรายได้จะอยู่ที่ 10,000-15,000 บาทต่อปีเท่านั้น
ด้านนายพงษ์เพชร นิลจินดามาศ ผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัย บริษัท Feedback 180 องศา จำกัด กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลปลดล็อกกัญชาของไทยในวันที่ 9 มิ.ย.65 พบว่า คนไทยมีการค้นหาเกี่ยวกับกัญชาในกูเกิล (Google) สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลก จากอันดับที่ 15 และติดอันดับ 1 จนถึงวันที่ 27 มิ.ย.65 โดยคำค้นหาในฝั่งผู้ผลิตมากที่สุดคือคำว่า การลงทะเบียน+กัญชา ส่วนฝั่งผู้บริโภค ค้นคำว่า ซื้อ+กัญชา มากที่สุด ในส่วนของโซเชียลมีเดีย กลุ่มที่กล่าวถึงกัญชาส่วนใหญ่มีอายุ 18-24 ปี โดยข้อความที่เขียนเป็นข้อความที่แสดงความรู้สึกในเชิงลบ โดยเฉพาะเริ่มพบผู้เสียชีวิตจากการเสพกัญชา แต่ยังมีข้อความในเชิงบวก เช่น กัญชาเป็นความหวังใหม่ทางธุรกิจ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ และเป็นประโยชน์ทางการแพทย์ แต่ยังมีความกังวลว่าเด็กและเยาวชนเข้าถึงกัญชาได้ง่าย.
การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล