ท่องคาถาประหยัดพลังงาน “บิ๊กตู่” ชักธงรบนำคนไทยฝ่าวิกฤติน้ำมันแพง

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ท่องคาถาประหยัดพลังงาน “บิ๊กตู่” ชักธงรบนำคนไทยฝ่าวิกฤติน้ำมันแพง

Date Time: 7 ก.ค. 2565 08:37 น.

Summary

  • ที่ประชุม กพช.อนุมัติให้ ปตท.จัดหาแอลเอ็นจีเพิ่มเติมอีก 1 ล้านตันต่อปี ขณะที่ “ประยุทธ์”ยอมรับวิกฤติราคาพลังงานขณะนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ย้ำชัดเร่งหาทางแก้ปัญหาทุกด้าน ขอให้คนไทยต้องร่วมใจ

Latest

5 วิชา “การเงิน การลงทุน” ต้องรู้! เป็นหนี้อย่างไร? ให้มี “เงินเก็บ” เกษียณแบบมีรายได้

ที่ประชุม กพช.อนุมัติให้ ปตท.จัดหาแอลเอ็นจีเพิ่มเติมอีก 1 ล้านตันต่อปี ขณะที่ “ประยุทธ์”ยอมรับวิกฤติราคาพลังงานขณะนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ย้ำชัดเร่งหาทางแก้ปัญหาทุกด้าน ขอให้คนไทยต้องร่วมใจประหยัดพลังงาน “อาคม” สวมบทพระเตมีย์ใบ้ ยังไม่ฟันธงจะลดภาษีสรรพสามิตดีเซลต่อหรือไม่ แม้จะครบกำหนด 20 ก.ค.นี้

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้เห็นชอบให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สัญญาระยะยาว ปริมาณ 1 ล้านตันต่อปี เพิ่มเติมจากสัญญาระยะยาวที่มีการลงนามแล้ว 5.2 ล้านตันต่อปี และรับทราบในรายละเอียดสาระสำคัญการจัดหา LNG ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบจะไปดำเนินการ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือเร่งดำเนินการต่อไป เพื่อจัดหาก๊าซธรรมชาติให้เพียงพอในระยะยาว และมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นผู้กำกับดูแลให้ราคาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กพช.กำหนด และให้ ปตท.นำสัญญาซื้อขาย LNG สัญญาระยะยาว เสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาต่อไป

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงสถานการณ์ราคาพลังงานขณะนี้ว่า เป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดจะต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยคำนึงถึงหลักการ ข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ทั้งหมด สิ่งที่สำคัญ คือ ความเข้าใจ ความไว้วางใจ โดยขอให้ทุกคนได้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางสื่อต่างๆ เพื่อนำไปสู่การทำความเข้าใจ มีเหตุผลในการชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน

“นายกฯย้ำว่า สิ่งสำคัญในวันนี้ คือการขับเคลื่อนไปสู่การประหยัดพลังงานที่ต้องมีรูปแบบการประหยัดพลังงานที่จะเกิดผลตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง และส่งผลกับประชาชน ซึ่งประชาชนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมช่วยกันประหยัดพลังงานด้วย”

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวถึงการขยายต่อมาตรการลดอัตราภาษี สรรพสามิตน้ำมันดีเซล ที่จะครบกำหนดในวันที่ 20 ก.ค.ว่า ในขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจ เนื่องจากยังคงมีเวลาพิจารณาอยู่ โดยราคาน้ำมันโลกในขณะนี้ก็มีทั้งสูงขึ้นและลดลง ซึ่งวันนี้ (6 ก.ค.) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ลดลงถึง 10 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล แต่ในส่วนของไทยราคาน้ำมันจะยังไม่ลง เพราะใช้ราคาอ้างอิงจากราคาน้ำมันดิบดูไบ ขณะเดียวกันต้องดูอีกหลายปัจจัย เช่น ต้องดูภาระเรื่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย

วันเดียวกัน นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับค่าการตลาดน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ โดยมีการเปรียบเทียบราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น กับค่าการตลาดน้ำมันเบนซินในช่วงต้นเดือน มิ.ย.กับปัจจุบัน ซึ่งราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นปรับลดลง แต่ค่าการตลาดปรับสูงขึ้นนั้น ขอยืนยันว่า จากแนวทางการพิจารณาค่าการตลาดอ้างอิงของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ในการพิจารณาค่าการตลาด จะต้องดูในภาพรวมของทุกชนิดน้ำมัน เพราะสถานีบริการไม่ได้จำหน่ายน้ำมันเพียงชนิดเดียว และไม่ควรเปรียบเทียบค่าการตลาดเป็นรายวัน เนื่องจากราคาเนื้อน้ำมัน มีการเปลี่ยน แปลงขึ้นลงทุกวันตามราคาตลาดโลก โดยหาก พิจารณาในปีนี้ค่าเฉลี่ยของค่าการตลาดในแต่ละเดือนก็ยังอยู่ในกรอบที่ภาครัฐติดตามดูแล

“หากพิจารณาค่าการตลาดโดยรวมของสถานีบริการ (เฉลี่ยของทุกชนิดน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซล) ตั้งแต่วันที่ 1-6 ก.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 2.17 บาทต่อลิตร ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของปี ที่ผ่านมาตลอดทั้งปีที่ 2.14 บาทต่อลิตร และอยู่ในกรอบที่ภาครัฐติดตามดูแล โดยค่าการตลาด คือ รายได้ของผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน ที่ยังไม่ได้หักค่าดำเนินการ ค่าขนส่งน้ำมันจากคลังมาหน้าสถานีบริการ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าพนักงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเช่าที่ดิน ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ และค่าการตลาดของผู้ให้บริการแต่ละรายก็ไม่เท่ากัน ค่าการตลาดที่ สนพ.เผยแพร่เป็นค่าการตลาดอ้างอิงที่มาจากการคำนวณเพื่อใช้ในการติดตามดูแลกรอบค่าการตลาด”

นายสมภพ กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ภาครัฐได้ติดตามสถานการณ์ และใช้หลายมาตร การเพื่อลดผลกระทบจากราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นให้กับประชาชน ในสภาวะปัจจุบันที่เกิด วิกฤตการณ์ด้านราคาพลังงานทั่วโลก ทั้งนี้ ในส่วนของประชาชนสามารถบริหารจัดการการใช้รถยนต์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดตามความเหมาะสมและจำเป็นของแต่ละบุคคล เช่น ใช้รถเท่าที่จำเป็น ศึกษาเส้นทางก่อนการเดินทาง หากเป็นไปได้หลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่การจราจรติดขัด ตรวจสภาพรถตามที่ค่ายรถยนต์กำหนด.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ