“ศักดิ์สยาม” จัดระเบียบ “สนามบินสุวรรณภูมิ” รับนโยบายเปิดประเทศ 1 มิ.ย.65 มั่นใจผู้โดยสารเดินทางเพิ่มขึ้น 17% ด้าน ทอท.ลั่นสิ้นปีนี้ผู้โดยสารเดินทางผ่านสนามบินกว่า 40 ล้านคน ขณะที่คลังชี้อานิสงส์ส่งออก-ท่องเที่ยว ดันเศรษฐกิจไทยเดือน เม.ย.กระเตื้อง
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนให้บริการผู้โดยสาร ตามการผ่อนคลายข้อกำหนดเข้าราชอาณาจักรไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.65 ว่า ปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการสนามบินสุวรรณภูมิเพิ่มขึ้นถึง 70,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 17% จากเดือน พ.ค.65 ที่มี 64,000 คนต่อวัน แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 57% และในประเทศ 43% ส่วนจำนวนเที่ยวบินคาดจะเพิ่มเป็นเฉลี่ยวันละราว 480 เที่ยวบิน จากเฉลี่ยวันละประมาณ 440 เที่ยวบินในเดือน พ.ค. แยกเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 55% และเที่ยวบินในประเทศ 45% โดยคาดว่าปีนี้จะมีผู้โดยสารเดินทางในทุกสนามบินของไทยกว่า 22 ล้านคน แต่ตนมองว่าน่าจะมากกว่านั้น
“ได้รับรายงานว่าไตรมาส 4 ปีนี้มียอดจองเที่ยวบินและปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น หรือกว่า 50% ของปริมาณผู้โดยสารในปี 62 ก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด นอกจากนั้น ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูสถานการณ์ของจีนว่าจะมีนโยบายเกี่ยวกับการเดินทางอย่างไร เพราะนักท่องเที่ยวส่วนมากที่มาเที่ยวไทยจะมาจากจีน แต่ปัจจุบันนี้เริ่มมีผู้โดยสารมาจากอินเดียเยอะขึ้น”
สำหรับการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงในต่างประเทศนั้น ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศได้เริ่มคัดกรองผู้เดินทางจากประเทศที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษแล้ว และได้กำหนดขั้นตอนปฏิบัติ หากพบผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ต้องสงสัย การสอบสวนโรค รวมถึงขั้นตอนการส่งต่อผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ผู้ป่วยไปยังสถาบันบำราศนราดูร
ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า หลังจากไทยผ่อนปรนมาตรการลงทะเบียน Thailand Pass ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.65 โดยผู้โดยสารชาวไทยไม่ต้องลงทะเบียน Thailand Pass ก่อนเดินทางเข้าประเทศ และลดเอกสารการเดินทางเข้าไทยของชาวต่างชาตินั้น ประเมินว่าผู้โดยสารของ ทอท.จะเพิ่มขึ้นเป็น 70,000 คนต่อวัน จากปัจจุบัน 39,000 คนต่อวัน ขณะผู้โดยสารในประเทศจะอยู่ที่ 70,000-100,000 ต่อวัน
อย่างไรก็ตาม ทอท.ได้ปรับลดประมาณการผู้โดยสารปีงบประมาณ 65 (ต.ค.64-ก.ย.65) ลงเหลือประมาณ 40 ล้านคน จากที่ประมาณการล่าสุดเดือน ก.พ.65 ที่ 62 ล้านคน เพราะช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 65 (ต.ค.64-เม.ย.65) มีผู้โดยสาร 19 ล้านคนเท่านั้น ในช่วงที่เหลือจึงไม่น่าจะได้ตามที่ประมาณการไว้ ส่วนผลประกอบการ น่าจะใกล้เคียงกับปีงบ 64 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 16,322.01 ล้านบาท โดยประเมินว่าในช่วงตารางบินฤดูหนาวนี้ที่จะเริ่มตั้งแต่เดือน ต.ค. ผู้โดยสารจะเริ่มปรับตัวขึ้นราว 50% จากปี 62 ที่มีผู้โดยสารรวม 400,000 คนต่อวัน
ขณะที่นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน เม.ย.65 ว่า เศรษฐกิจไทยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการส่งออก ภาคการท่องเที่ยว และภาคเกษตร แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ส่งผลต่อระดับราคาพลังงาน ต้นทุนการผลิต และค่าครองชีพอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี แม้มีปัจจัยกดดันจากราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น และเงินเฟ้อทั่วไปเดือน เม.ย.เพิ่ม 4.65% ผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่อยู่ที่ 0.3% ของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ส่วนเสถียรภาพภายนอก ยังอยู่ในระดับมั่นคง และรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐ กิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ สิ้นเดือน เม.ย.65 สูงถึง 228,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ.