“บิ๊กตู่” ชง 10 มาตรการช่วยคนไทย ทุ่ม 7 หมื่นล้านสกัดน้ำมันแพง-ค่าครองชีพพุ่ง

Money

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

“บิ๊กตู่” ชง 10 มาตรการช่วยคนไทย ทุ่ม 7 หมื่นล้านสกัดน้ำมันแพง-ค่าครองชีพพุ่ง

Date Time: 23 มี.ค. 2565 07:26 น.

Summary

  • นายกฯประกาศ 10 มาตรการ ใช้เงิน 70,000 ล้านบาท ลดผลกระทบค่าพลังงานแพงให้ประชาชน เป็นเวลา 3 เดือน หลังประเมินสงครามรัสเซีย-ยูเครนยุติช้า ให้เร่งนำเข้า ครม.โดยเร็วที่สุด

Latest

ทุ่มงบสร้างมอเตอร์เวย์ “M9” ครม.ไฟเขียวโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย”

นายกฯประกาศ 10 มาตรการ ใช้เงิน 70,000 ล้านบาท ลดผลกระทบค่าพลังงานแพงให้ประชาชน เป็นเวลา 3 เดือน หลังประเมินสงครามรัสเซีย-ยูเครนยุติช้า ให้เร่งนำเข้า ครม.โดยเร็วที่สุด ช่วยผู้ถือบัตรสวัสดิการ หาบเร่ ซื้อก๊าซหุงต้ม ช่วยค่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 250 บาทสำหรับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ลดค่าเอฟทีลง 22 สตางค์ต่อหน่วย ตรึงดีเซล 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้น เม.ย. และลดเงินนำส่งประกันสังคม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้ประเมินสถานการณ์ความผันผวนของราคาพลังงานจากความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและการขนส่งสินค้าและบริการต่างๆ ซึ่งอาจจะทำให้ค่าครองชีพมีการปรับตัวสูงขึ้น ตนและรัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และตระหนักดีถึงความลำบากของพี่น้องประชาชนที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อยและผู้ใช้แรงงาน พวกนี้จะเดือดร้อนมากที่สุด

“จากการประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สถานการณ์รัสเซียและยูเครน จากภาพข่าวและข่าวความมั่นคงที่ได้รับมาไม่น่าจะยุติได้โดยเร็ว จึงได้สั่งการให้มีการระดมความคิดเพื่อหามาตรการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยเร่งด่วน โดยจะทยอยดำเนินการเพิ่มเติมจากมาตรการต่างๆที่รัฐได้ออกไปแล้ว และยังใช้อยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงโควิดที่เราให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจและเรื่องสุขภาพ และมีสถานการณ์สงครามเข้ามาอีก จึงต้องต่อยอดมาตรการเดิมและหาวิธีการใหม่ๆเพิ่มเติม จะเริ่มดำเนินการได้ ตั้งแต่เดือน พ.ค.-ก.ค.นี้ อย่างน้อย 10 มาตรการ และเป็นระยะเวลา 3 เดือนก่อน เพราะต้องดูงบประมาณและสถานการณ์ไปด้วย”

เปิด 10 มาตรการใหม่รอเข้า ครม.

สำหรับมาตรการช่วยเหลือ จะประกอบด้วย 1.การเพิ่มเงินช่วยเหลือเพื่อซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.6 ล้านคน โดยเพิ่มเงินจากเดิม 45 บาท เป็น 100 บาทต่อ 3 เดือน 2.ให้ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม เดือนละ 100 บาท สำหรับหาบเร่แผงลอยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประมาณ 5,500 คน 3.ช่วยเหลือค่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 250 บาทต่อเดือนสำหรับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก 157,000 คน และขอให้กรมการขนส่งทางบกกำกับราคาการให้บริการ เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่ต้องใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเท่าเดิม 4.คงราคาขายปลีกผู้ที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวีไว้ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม 5.ผู้ขับขี่แท็กซี่มิเตอร์ภายใต้โครงการลมหายใจเดียวกัน สามารถซื้อก๊าซได้ในราคา 13.62 บาทต่อกิโลกรัม

6.ช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยลดค่าเอฟทีลง 22 สตางค์ต่อหน่วยในช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค. 7.ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย.2565 หลังจากนั้นรัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือ เฉพาะส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่ง แต่หากเมื่อถ้าเราอั้นไม่ไหวจริงๆ อาจจะเพิ่มความช่วยเหลือจากที่ช่วยครึ่งหนึ่งที่เพิ่มขึ้น 8.กำกับดูแลการปรับราคาก๊าซหุงต้มในช่วงตั้งแต่เดือน เม.ย.-มิ.ย. โดยใช้กองทุนน้ำมันเข้าไปช่วยลดผลกระทบจากการปรับราคาให้ไม่ขึ้นสูงเกินไป

9.ลดอัตราเงินสมทบของนายจ้างและลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 จาก 5% เหลือ 1% เพื่อให้ลูกจ้างและนายจ้างสามารถมีกำลังในการใช้จ่ายและผู้ประกอบการสามารถมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นในการดำเนินธุรกิจในช่วงถัดไป 10.ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39 จาก 9% เหลือ 1.9% และลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ลงเหลือ 42-180 บาทต่อเดือน

สั่ง “พาณิชย์-เกษตร” ช่วยเกษตรกรเพิ่ม

“การดำเนินมาตรการนี้ต้องใช้เงินเยอะ ขณะที่รายได้ของภาครัฐลดลง ขอให้เห็นใจรัฐบาลด้วย ตอนนี้พุ่งเป้าไปที่คนที่เดือดร้อนที่สุดก่อน นึกถึงคนที่ยากจนลำบากมาก่อน ต่อจากนี้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการออกมาตรการทั้งหมด เพื่อนำเสนอ ครม.เป็นการเร่งด่วน”

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรให้ได้มากที่สุดก่อนจะเข้าสู่ฤดูการเพาะปลูก โดยเน้นการใช้วัตถุดิบในประเทศ และให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานกับประเทศต่างๆ ในการจัดหาปัจจัยการผลิตที่จำเป็นเข้าประเทศด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องปุ๋ย อาหารสัตว์ที่พึ่งพาต่างประเทศจำนวนมาก อันนี้เป็นสิ่งที่ตนต้องมองระยะยาวจะทำอย่างไรกับเรื่องปุ๋ย ทำอย่างไรจะสามารถผลิตในประเทศได้บ้าง และทำอย่างไรจะมีแม่ปุ๋ยในประเทศ วันนี้หลายประเทศเริ่มกักตุนอาหาร กักตุนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ซึ่งก็มีผลทั้งหมด

“วันนี้เราโดนสองเด้ง ทั้งเรื่องสุขภาพและสงคราม ผมขอย้ำว่ารัฐบาล ทุกกระทรวงทำงานอย่างหนัก เพื่อวางแผนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด เพื่อให้พ้นวิกฤติที่ซ้อนวิกฤตินี้ไปให้ได้ ไม่อยากทิ้งใครไว้ข้างหลัง และเร่งเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ทั้งระยะสั้น ระยะยาว และระยะกลาง”

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มาตรการทั้ง 10 มาตรการที่ออกมาจะต้องเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.อีกครั้งเป็นรายโครงการ โดยเบื้องต้นจะใช้วงเงินรวม 70,000 ล้านบาท ทั้งนี้ นายกฯได้แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การสู้รบของรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ และขอให้ทุกหน่วยงานเข้ามาดูแลบริหารจัดการหามาตรการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากที่ทำอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งดูแลการสำรองอาหารในประเทศ เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ