ติดตามราคาใกล้ชิดทุกวัน รัฐจัดกลุ่มสินค้าตีกันเอาเปรียบผู้บริโภค

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ติดตามราคาใกล้ชิดทุกวัน รัฐจัดกลุ่มสินค้าตีกันเอาเปรียบผู้บริโภค

Date Time: 14 ก.พ. 2565 05:50 น.

Summary

  • กรมการค้าภายในติดตามดูแลสินค้าและบริการ 167 รายการ โดย “ไก่สด น้ำดื่มบรรจุภาชนะ น้ำตาลทราย” โดยติดตามสถานการณ์ทุกวัน ส่วน “อาหารปรุงสำเร็จ” ติดตามสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ที่เหลือติดตามทุก 15 วัน

Latest

ทอท. ลงทุนเต็มพิกัด 10 ปี 2 แสนล้านบาท เที่ยวบินอินเตอร์ฟื้นตัวเกิน 100%

กรมการค้าภายในติดตามดูแลสินค้าและบริการ 167 รายการ โดย “ไก่สด น้ำดื่มบรรจุภาชนะ น้ำตาลทราย” โดยติดตามสถานการณ์ทุกวัน ส่วน “อาหารปรุงสำเร็จ” ติดตามสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ที่เหลือติดตามทุก 15 วัน ป้องผู้ค้าฉวยเอาเปรียบผู้บริโภค

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ในเดือน ม.ค.-ก.พ.65 กรมได้จัดกลุ่มสินค้าและบริการที่ติดตามดูแล จำนวน 167 รายการ ออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อให้สามารถติดตามดูแลสถานการณ์ได้อย่างใกล้ชิด และแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที ประกอบด้วย กลุ่ม Sensitive List (SL) ที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษและติดตามภาวะเป็นประจำทุกวัน 3 รายการ ได้แก่ ไก่สด น้ำดื่มบรรจุภาชนะ และน้ำตาลทราย โดยไก่สด และน้ำดื่ม ขณะนี้อยู่ในการขอความร่วมมือตรึงราคาขาย ซึ่งที่ผ่านมาได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบตามสถานีขนส่ง สนามบิน สถานีรถไฟ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ พบว่า ผู้ค้ามักฉวยโอกาสขึ้นราคาขาย ทั้งๆที่กรมได้ขอความร่วมมือให้ขายขวดเพท (PET) ขนาด 500-600 มิลลิลิตร (มล.) แบบไม่แช่เย็นไม่เกินขวดละ 7 บาท และแช่เย็นไม่เกินขวดละ 10 บาท ส่วนน้ำตาลทราย เป็นวัตถุดิบผลิตสินค้าอื่นๆมากมาย จึงต้องติดตามดูแลทุกวัน

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่ม Priority Watch List (PWL) ที่ติดตามสถานการณ์เป็นพิเศษสัปดาห์ละ 2 ครั้ง จำนวน 1 รายการ คือ อาหาร ปรุงสำเร็จ เพราะที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าอาหารปรุงสำเร็จหลายพื้นที่ขึ้นราคาขาย อีกทั้งระยะเวลาที่รัฐบาลตรึงราคาแก๊สหุงต้มสำหรับภาคครัวเรือน ขนาด 15 กิโลกรัม (กก.) จะสิ้นสุดลงในเร็วๆนี้ จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่หากราคาแก๊สหุงต้มปรับขึ้นราคา ก็อาจทำให้ต้นทุนอาหารปรุงสำเร็จปรับขึ้นจานละไม่กี่สตางค์ และไม่ใช่เหตุผลที่ผู้ค้าจะอ้างปรับขึ้นราคา เพราะแก๊ส 1 ถัง สามารถปรุงอาหารได้จำนวนมาก

ส่วนกลุ่มสุดท้าย Watch List (WL) ที่ติดตามสถานการณ์เป็นประจำทุก 15 วัน จำนวน 163 รายการ แบ่งเป็น 11 หมวดสินค้า ได้แก่ 1.หมวดอาหารสด เช่น ไข่เป็ด เนื้อโค ปลาชนิดต่างๆ ผักชนิดต่างๆ เส้นก๋วยเตี๋ยวสด ฯลฯ 2.หมวดอาหารและเครื่องดื่ม เช่น นมเปรี้ยว นมถั่วเหลือง กาแฟผงสำเร็จรูป ครีมเทียม น้ำแข็ง เกลือ น้ำปลา ซอสหอยนางรม ซีอิ๊ว ซอสมะเขือเทศ น้ำจิ้มไก่กะทิบรรจุภาชนะ ฯลฯ 3.หมวดของใช้ประจำวัน เช่น ครีมบำรุงผิว โฟมล้างหน้า ครีมนวดผม ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ยา-แปรงสีฟัน ใบมีดโกน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค ฯลฯ

4.หมวดกระดาษและผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เยื่อกระดาษ และกระดาษปรู๊ฟ 5.หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น หลอดไฟฟ้า เครื่องเป่าผม พัดลม หม้อหุงข้าว เตารีด เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องปั๊มน้ำ ฯลฯ 6.หมวดบริภัณฑ์ขนส่ง เช่น รถยนต์นั่ง รถจักรยาน ไส้กรองน้ำมันเครื่อง ไส้กรองอากาศ น้ำมันเบรก แบตเตอรี่ ฟิล์มกรองแสง 7.หมวดวัสดุก่อสร้าง เช่น กระเบื้องปูฟื้น-ปูผนัง กระเบื้อง มุงหลังคา แผ่นยิปซัม แผ่นฉนวนกันความร้อน แผ่นซีเมนต์ปูฟื้น สังกะสี ตะปู หิน อิฐมอญ อิฐมวลเบา ทราย สีทาบ้าน ฯลฯ

8.หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เช่น น้ำมัน หล่อลื่น เม็ดพลาสติก ถุงพลาสติก พลาสติกห่ออาหาร ฯลฯ 9.หมวดปัจจัยการเกษตร เช่น รถตัดหญ้า ตาข่ายกรองแสง จอบ เสียม กรรไกรตัดหญ้า เครื่องพ่นสารเคมีการเกษตร ฯลฯ 10.หมวดอื่นๆ เช่น ถุงเท้า-รองเท้านักเรียน ทองรูปพรรณ ทองคำแท่ง กล้องวงจรปิด กล้องติดรถยนต์ แบตสำรอง (เพาเวอร์ แบงก์) อุปกรณ์ คอมพิวเตอร์สำหรับเก็บข้อมูล (แฟลชไดรฟ์) ฯลฯ และ 11.หมวดบริการ เช่น บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า นาฬิกา หรือรองเท้า บริการซ่อมบำรุงติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ค่าชมภาพยนตร์ กีฬา หรือสถานที่ออกกำลังกาย บริการรับส่งสินค้า เอกสาร หรือพัสดุภัณฑ์ บริการกวดวิชา ฯลฯ

“รายการติดตามทั้งหมดนี้จะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ หากรายการใดมีความอ่อนไหวจะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด และสำรวจทั้งราคา การผลิต และการขายทุกวัน เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้บริโภค และไม่ให้ผู้ค้าฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบได้ และหากพบผู้ค้ารายใดเอาเปรียบประชาชน ค้ากำไรเกินควร ไม่ปิดป้ายแสดงราคา หรือปิดป้ายแล้วขายราคาไม่ตรงตามป้าย จะดำเนินการตาม กฎหมายแน่นอน ซึ่งจะมีโทษทั้งจำ และปรับ”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ