เปิดจุดขายหมูโลละ 150 บาท “พาณิชย์” ติดตามสถานการณ์ราคาใกล้ชิด

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เปิดจุดขายหมูโลละ 150 บาท “พาณิชย์” ติดตามสถานการณ์ราคาใกล้ชิด

Date Time: 10 ม.ค. 2565 06:10 น.

Summary

  • “พาณิชย์” สั่งเปิดจุดขายหมูถูก 667 จุดทั่วประเทศ!! เพิ่มทางเลือกซื้อหมูโลละ 150 บาท ถึงสิ้น ม.ค.นี้ พร้อมสั่งติดตามสถานการณ์ราคาเนื้อหมูใกล้ชิด

Latest

HSBC ชี้เศรษฐกิจไทยโตกว่าที่คิด หลังรัฐเร่งลงทุน กระตุ้นบริโภค ต่างชาติเชื่อมั่น จ่อลงทุนไทยเพิ่ม

“พาณิชย์” สั่งเปิดจุดขายหมูถูก 667 จุดทั่วประเทศ!! เพิ่มทางเลือกซื้อหมูโลละ 150 บาท ถึงสิ้น ม.ค.นี้ พร้อมสั่งติดตามสถานการณ์ราคาเนื้อหมูใกล้ชิด

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ได้กำชับให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด 76 แห่งทั่วประเทศ ติดตามสถานการณ์ราคาเนื้อหมูที่จำหน่ายให้กับประชาชนผ่านทั้งห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกค้าส่ง และตลาดสดทั่วไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งล่าสุดได้รับรายงานจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดว่า ราคาหมูเนื้อแดงอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 160-200 บาท พร้อมกันนั้นได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินโครงการ “พาณิชย์ลดราคาหมู! ช่วยประชาชน” โดยให้จำหน่ายที่ กก.ละ 150 บาท ในจุดจำหน่ายทั้งหมด 667 จุดทั่วประเทศ จนถึงสิ้นเดือน ม.ค.นี้ จากครั้งแรกที่ดำเนินการช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.64 เพื่อลดภาระค่า ครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและช่วยให้ประชาชนมีช่องทางในการเลือกซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาด โดยสามารถเช็กจุดจำหน่ายกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในเขตที่อาศัยอยู่ได้

“ในกรุงเทพฯจะมีจุดขายหมู กก.ละ 150 บาท ทั้งหมด 116 จุด แยกเป็นรถโมบายตระเวนตามพื้นที่ต่างๆ 50 คัน และตั้งจุดจำหน่ายอีก 50 จุด ส่วนต่างจังหวัดมี 551 จุด รวมเป็นทั้งหมด 667 จุด เพื่อ เป็นทางเลือกให้กับประชาชนสามารถซื้อเนื้อหมูราคาถูกกว่าท้องตลาดได้ แต่ในช่วงที่หมูราคาแพง ประชาชนสามารถหันมาบริโภคเนื้อสัตว์อื่นที่ราคาถูกกว่าเป็นการทดแทนได้ ทั้งเนื้อไก่ ปลา เป็นต้น พร้อมกับสั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกำชับให้ผู้ค้าห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคาหรือขายสินค้าราคาสูงเกินสมควร ห้ามกักตุนสินค้าและแนะนำให้ปิดป้ายแสดงราคา

นางมัลลิกากล่าวต่อว่า หลังคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่มีนายจุรินทร์เป็นประธาน ได้ออกประกาศห้ามส่งออกหมู มีชีวิตชั่วคราวเป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่ 6 ม.ค.65 นั้น น่าจะทำให้ มีหมูเข้าสู่ตลาดได้ราว 1 ล้านตัน แต่ระหว่างนี้ได้กำหนดมาตรการให้ผู้เลี้ยงที่มีปริมาณการเลี้ยงเกิน 500 ตัว ผู้ค้าส่งที่มีปริมาณเกิน 500 ตัว ห้องเย็นที่มี การเก็บสต๊อกเกิน 5,000 กิโลกรัม (กก.) ขึ้นไป ต้องแจ้งสต๊อกให้กรมการค้า ภายในรับทราบ รวมทั้งแจ้งราคาทุก 7 วัน เริ่มตั้งแต่ 10 ม.ค.65 เป็นต้นไป เพื่อทำให้ทราบปริมาณหมูเป็นและหมูแช่แข็งอย่างแท้จริง เพื่อจะได้นำหมูเข้าสู่ตลาดได้

ด้านนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวหลังเป็นประธานการประชุม เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสถานการณ์การผลิตและการตลาดสุกรในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ว่า ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ให้หน่วยงานของทางจังหวัดเข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมการเลี้ยงสุกรในพื้นที่ และสั่งการไปยังกรมปศุสัตว์ให้เข้าไปประเมินความเสี่ยงของพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อจัดให้เป็นพื้นที่เป้าหมายในการส่งเสริม สนับสนุนการเลี้ยงสุกร รวมถึงให้หน่วยงานปศุสัตว์ในพื้นที่ คาดว่าจะสามารถเก็บข้อมูลได้ครบถ้วน และพร้อมเริ่มสนับสนุนได้ทันทีภายในสิ้นเดือน ม.ค.นี้

“สำหรับพันธุ์สุกรที่จะนำมาสนับสนุนให้กับผู้เลี้ยงรายเล็ก รายย่อย จะเร่งจัดหามาจากศูนย์วิจัยของกรมปศุสัตว์ เครือข่ายสัตว์พันธุ์ดีของกรมปศุ สัตว์ ซึ่งมีแม่พันธุ์อยู่ประมาณ 5,000 ตัว และยังได้เจรจาขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการรายใหญ่ มหาวิทยาลัยต่างๆ และวิทยาลัยเกษตรทั่วประเทศ ในการช่วยผลิตลูกสุกร นอกจากนี้ ยังมีในส่วนของบริษัทไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด บริษัทหมูอินเตอร์ฟาร์ม จำกัด ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มาช่วยสนับสนุนเกษตรกรรายเล็ก รายย่อย ทางภาคเหนือ โดยกรมปศุสัตว์จะจัดสรรให้ผู้เลี้ยงรายเล็ก รายย่อยที่สนใจ รายใดต้องการเลี้ยงแม่พันธุ์ จะจัดหาแม่พันธุ์ 2 ตัว รายใดต้องการลูกสุกรขุน จะจัดให้รายละ 20 ตัว พร้อมอาหารสัตว์ เวชภัณฑ์ ยารักษาโรค”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ