ชาวนายิ้มรับเงิน ธ.ค.นี้ รัฐก่อหนี้เพิ่ม 1.5 แสนล้านจ่ายประกันข้าว

ชาวนาเฮรัฐเพิ่มเพดานก่อหนี้จาก 30% เป็น 35% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี เป็นเงิน 155,000 ล้านบาท “อาคม” ลั่นภายในเดือน ธ.ค.นี้ชาวนาได้เงินครบแน่ และเพื่อไม่ให้เกิดภาระพอกพูนเช่นนี้ นายกฯสั่งหารือนำโครงการประกันรายได้ บรรจุในพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปีจำปี 2566 แทน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้เรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เพื่อหาทางออกในการหาเงินเพื่อนำมาจ่ายในโครงการประกันรายได้ชาวนา ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 25ต.ค.64 ได้อนุมัติไว้ ซึ่งภายหลังการประชุมที่ใช้เวลาประมาณ 1.15 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงข่าว

ขณะเดียวกันนายกฯได้โพสต์ในเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีเนื้อหาว่า “ผมมีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรทุกคน ที่ประสบปัญหาในการประกอบอาชีพ รวมทั้งการแพร่ระบาดโควิดและน้ำท่วม-น้ำแล้ง จึงได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหางบประมาณมาให้พี่น้องเกษตรกร ในโครงการต่างๆ เช่น โครงการประกันรายได้ข้าว โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าว โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการข้าวเพื่อช่วยเหลือเรื่องต้นทุนการผลิตข้าว โครงการประกันรายได้ยางพารา โครงการประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน ฯลฯ

“วันนี้ขอแจ้งให้ทราบว่า รัฐบาลสามารถจัดสรรเงินให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรได้เพิ่มเติมอีก 155,000 ล้านบาท โดยจะเสนอให้ที่ประชุมครม.อนุมัติในวันที่ 30 พ.ย.64 ก็จะมีการเบิกจ่ายผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ถึงบัญชีพี่น้องเกษตรกรโดยตรง”

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง แถลงข่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ มีมติให้ขยายเพดานภาระที่รัฐบาลต้องรับชดเชยจากการใช้เงินงบล่วงหน้า ตามมาตรา28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.61 จากเดิม 30% เป็น 35% ของวงเงินงบประมาณตามที่คณะกรรมการชุดนี้กำหนดไว้เป็นเวลา 1 ปี

“ส่วนที่เพิ่มขึ้น 5% จะทำให้รัฐสามารถนำเงินที่ต้องตั้งงบในปีถัดไปมาใช้คืนมาใช้ในตอนนี้เพิ่มขึ้นได้อีก 155,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับวงเงินคงเหลือที่ไม่เกินเพดาน 30% ตามหลักเกณฑ์เดิมอีก 5,360 ล้านบาท ทำให้รัฐบาลสามารถใช้วงเงินได้ทั้งสิ้น 161,360 ล้านบาท โดยจะนำมาใช้ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรและโครงการอื่นๆที่รัฐบาลต้องชดเชย และจะมีการออกประกาศคณะกรรมการภายใน 1-2 วันนี้ และจะนำเข้าสู่ในการประชุม ครม.สัปดาห์หน้าเพื่ออนุมัติการใช้เงิน ดังนั้นภายในเดือน ธ.ค.นี้ เกษตรกรและชาวนาจะได้รับเงินชดเชยจากโครงการประกันรายได้อย่างแน่นอน โดยธ.ก.ส.จะจ่ายเงินให้ก่อน และรัฐบาลจะตั้งงบประมาณในปีถัดไปใช้คืนให้กับ ธ.ก.ส.”

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์เป็นห่วงภาระของงบประมาณ เนื่องจากโครงการประกันรายได้เกษตรกรใช้งบเยอะขึ้นเป็นประจำทุกปีและเพื่อไม่ให้เป็นภาระของงบล่วงหน้า จึงมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือแนวทางประกันรายได้เกษตรกรสำหรับปี 66 ว่า การทำโครงการนี้จะขอเข้าไปบรรจุใน พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อให้เป็นงบปกติ เพื่อไม่ให้วงเงินเพิ่มสูงขึ้น และไม่เป็นภาระชดเชยจากการใช้เงินงบประมาณล่วงหน้า ตามมาตรา 28 ซึ่งมีความจำเป็นต้องนำเงินไปชดเชยการบริหารสาธารณะในเรื่องอื่นๆอีกหลายกรณี.