ไฟเขียวร่างกฎหมายฟอกเงิน ค้าสื่อลามก-หนีภาษี-เก็บดอกเบี้ยโหดโดนหมด

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ไฟเขียวร่างกฎหมายฟอกเงิน ค้าสื่อลามก-หนีภาษี-เก็บดอกเบี้ยโหดโดนหมด

Date Time: 5 พ.ย. 2564 06:01 น.

Summary

  • ครม.ผ่านร่างกฎหมายปราบปรามฟอกเงิน ครอบคลุมความผิดค้าสื่อลามกอนาจารเด็ก หนีภาษีศุลกากร ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และเก็บดอกเบี้ยโหด โดนด้วย

Latest

ทอท. ลงทุนเต็มพิกัด 10 ปี 2 แสนล้านบาท เที่ยวบินอินเตอร์ฟื้นตัวเกิน 100%

ครม.ผ่านร่างกฎหมายปราบปรามฟอกเงิน ครอบคลุมความผิดค้าสื่อลามกอนาจารเด็ก หนีภาษีศุลกากร ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และเก็บดอกเบี้ยโหด โดนด้วย!

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.อนุมัติร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เสนอ ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 โดยปรับปรุงมาตรการให้สอดคล้องมาตรฐานสากลด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (AML/CFTX) ซึ่งเป็นไปตามข้อแนะนำของคณะทำงานเฉพาะกิจ เพื่อดำเนินมาตรการทางการเงิน (The Financial Action Task Force หรือ FATF) เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน เกิดความเป็นธรรมและทำให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้ไทยสามารถเข้ารับการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้าน AML/CFTX ได้ทันตามรอบการประเมิน ซึ่งจะผลักดันให้ไทยเข้าเป็นสมาชิก FATF ได้ภายในปี 66

ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีสาระสำคัญ เช่น 1.แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยาม “ความผิดมูลฐาน” ให้ครอบคลุมความผิดในสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น การค้าสื่อลามกอนาจารเด็ก การหลีกเลี่ยงหรือลักลอบหนีศุลกากร การปลอมเอกสารสิทธิ/เอกสารราชการ การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล การสมยอมในการเสนอราคา การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และเพิ่มบทนิยาม “ผู้ประกอบอาชีพ” ให้มีความชัดเจนและสอดคล้องกับผู้ประกอบธุรกิจในไทย

2.ปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับแจ้ง การรวบรวม และจัดส่งข้อมูลของพนักงานศุลกากรให้สำนักงาน ปปง. ครอบคลุมตราสารเปลี่ยนมือข้ามแดน (จากเดิมกำหนดเฉพาะเงินตราหรือเงินตราต่างประเทศ) รวมทั้งกำหนดให้พนักงานศุลกากรมีอำนาจยึดเงินตรา เงินตราต่างประเทศ และตราสารเปลี่ยนมือข้ามแดนดังกล่าวได้

3.กำหนดหน้าที่สมาคม มูลนิธิ และองค์กรไม่แสวงหากำไร เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายฯ เช่น การจัดทำงบการเงินประจำปี ที่ให้ระบุแหล่งที่มาของรายได้ ข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริหารหรือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ และหากมีเหตุอันควรสงสัย สำนักงาน ปปง. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สามารถสั่งระงับการทำธุรกรรมเป็นการชั่วคราวได้

4.กำหนดหลักเกณฑ์การเก็บรักษารายละเอียดของข้อมูล หรือเอกสารเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า

5.เพิ่มบทบัญญัติความผิด กรณีใช้/ยอมให้บุคคลอื่นใช้ข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐาน หรือเป็นตัวกลางในการจัดหาข้อมูล เอกสารหรือหลักฐานของบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ในการปกปิดตัวตนในการทำธุรกรรม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ เพื่อให้การปรับปรุงกฎหมายมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ที่ประชุมให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นำร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ที่กำหนดให้ความผิดเกี่ยวกับการลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐานตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองเป็นความผิดมูลฐาน รวมเป็นฉบับเดียวกันกับร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ รวมถึงให้พิจารณาร่างกฎหมายว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรที่ไม่แสวงหารายได้หรือกำไรมาแบ่งปัน (NGOs) ให้มีความสอดคล้องกันด้วย เพื่อไม่ให้มีการออกกฎหมายหลายฉบับที่มีหลักการซ้ำซ้อนกันหรือขัดแย้งกัน

รองโฆษกฯ กล่าวด้วยว่า เมื่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง ในการเป็น เครื่องมือทางกฎหมายของภาครัฐ ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมที่มีประสิทธิภาพเกิดความเป็นธรรม และสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน รวมทั้งการมีกฎหมายที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีของไทยในเวทีระหว่างประเทศ.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ