ครม.จัดหนักทุ่มอีก 9.2 หมื่นล้าน เติมเงิน 4 โครงการ

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ครม.จัดหนักทุ่มอีก 9.2 หมื่นล้าน เติมเงิน 4 โครงการ

Date Time: 20 ต.ค. 2564 06:55 น.

Summary

  • ครม.อนุมัติเงินกู้โควิด 92,027 ล้านบาท เติมเงินคนละครึ่งเฟส 3 เพิ่มให้อีกคนละ 1,500 บาท เพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีก 300 บาท 2 เดือน เพิ่มยิ่งใช้ยิ่งได้จากคนละ 60,000 บาท

Latest

ราคาที่แนวรถไฟฟ้าขยับขึ้น ธอส. ชี้ส่งสัญญาณธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัว

ครม.อนุมัติเงินกู้โควิด 92,027 ล้านบาท เติมเงินคนละครึ่งเฟส 3 เพิ่มให้อีกคนละ 1,500 บาท เพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีก 300 บาท 2 เดือน เพิ่มยิ่งใช้ยิ่งได้จากคนละ 60,000 บาท 80,000 บาท รับ e–Voucher คืน จากเดิม 7,000 บาท เป็น 10,000 บาท และจ่ายเงินให้เอสเอ็มอีรักษาการจ้างงาน ลูกจ้าง 3,000 บาท 3 เดือน รวม 4 ล้านคน และจ้างงานใหม่อีก 201,730 คน เริ่มลงทะเบียน 20 ต.ค.นี้

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนด เพิ่มเติม พ.ศ.2564 (เงินกู้โควิดฯ) วงเงิน 92,027 ล้านบาท รวม 5 โครงการ 1.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 จำนวน 13.53 ล้านคน วงเงิน 8,122 ล้านบาท สำหรับช่วยเหลือค่าซื้อสินค้าเพิ่มเติมอีก 300 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นเวลา 2 เดือน เมื่อรวมที่ได้รับเดิม 200 บาท ทำให้ได้รับ 500 บาท ในเดือน พ.ย.-ธ.ค.2564 2.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ 2,306,469 คน วงเงิน 1,383 ล้านบาท สำหรับช่วยเหลือค่าซื้อสินค้าเพิ่มเติมอีก 300 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นเวลา 2 เดือน เมื่อรวมที่ได้รับเดิม 200 บาท ทำให้ได้รับ 500 บาท ในเดือน พ.ย.-ธ.ค.2564 โดยเป็นผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือฯ เช่น ผู้ที่ไม่สามารถ เข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ต ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียง) ผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง เป็นต้น

3.โครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 เพิ่มเติม โดยเติมเงินให้อีกคนละ 1,500 บาท ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย 28 ล้านคน ทั้งผู้ลงทะเบียนใหม่และผู้ที่เคยได้รับสิทธิแล้ว วงเงินรวม 42,000 ล้านบาท ได้รับสิทธิสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าและบริการทั่วไป รวมทั้งการซื้อขายผ่านผู้ให้บริการระบบฟู้ดดีลิเวอรี ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวันอีก 1,500 บาทต่อคน โดยจะเพิ่มให้ในเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ เมื่อรวมทั้งโครงการจะได้รับเงินทั้งสิ้น 4,500 บาทต่อคน

4.เพิ่มวงเงินในโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ อีก 3,000 ล้านบาท จำนวนไม่เกิน 1 ล้านสิทธิโดยปรับเพิ่มหลักเกณฑ์ในการคำนวณการให้สิทธิสนับสนุน e-Voucher และเพิ่มวงเงินสนับสนุน e-Voucher จากเดิมไม่เกิน 7,000 บาท เป็น 10,000 บาทต่อคน ในเดือน พ.ย.-ธ.ค.2564 พร้อมให้เพิ่มยอดใช้จ่ายสูงสุดจาก 60,000 บาทเป็น 80,000 ต่อคน

5.โครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจเอสเอ็มอี ของกรมการจัดหางานกระทรวงแรงงาน โดยมีแนวทางในการช่วยเหลือภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม ตามฐานข้อมูลของประกันสังคมมาตรา 33 ที่มีลูกจ้างไม่เกิน 200 คน โดยมีสถานประกอบการเข้าโครงการ 394,621 แห่ง มีลูกจ้างสัญชาติไทย 4 ล้านคน โดยรัฐจะช่วยจ่ายค่าจ้าง 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน และส่งเสริมจ้างงานใหม่อีก 201,730 คน อัตรา 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นเวลา 2 เดือน

“ทุกมาตรการ ที่เกิดขึ้นเป็นไปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการให้ลุกขึ้นได้ โดยการอนุมัติงบของ ครม.ครั้งนั้น จะทำให้วงเงินกู้ตามพระราชกำหนด คงเหลือทั้งสิ้น 262,458 ล้านบาท”

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า การเติมเงินให้ในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามคำเรียกร้องของทุกฝ่ายที่ต้องการกระตุ้นการจับจ่ายช่วงเปิดประเทศ จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง เฉพาะ 4 โครงการ คือ คนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กลุ่มเปราะบาง รวมวงเงิน 54,000 ล้านบาท จะมีผลต่อการขยายตัวเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 1.3% โดยประชาชนที่ยังไม่ได้สมัครรับสิทธิคนละครึ่ง ก็สมัครรับสิทธิ์ได้ โดยขณะนี้ยังเหลือสิทธิอีก 200,000 สิทธิ์ หากสมัครหลัง 1 พ.ย.2564 จะได้รับเงินรวดเดียว 4,500 บาท แต่ต้องใช้ภายในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ และหลังจากนี้จะมีมาตรการเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ก็ต้องรอลุ้นเพราะอยู่ระหว่างพิจารณาอีกหลายมาตรการ

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จะเปิดให้ผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก หรือเอสเอ็มอี (SME) ลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือตามที่ ครม. มีมติเห็นชอบ โดยจะเปิดให้นายจ้างลงทะเบียนยืนยันการเข้าร่วมโครงการทางระบบออนไลน์ พร้อมแนบเอกสารที่กำหนดผ่านเว็บไซต์ www.ส่งเสริมการจ้างงานเอสเอ็มอี.doe.go.th ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.-30 พ.ย.2564 รัฐบาลจะจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่นายจ้างตามจำนวนลูกจ้างสัญชาติไทยไม่เกิน 200 คนที่อยู่ในฐานทะเบียนข้อมูลประกันสังคม ม.33 สถานะ Active ณ วันที่ 16 พ.ย.2564 ในอัตรา 3,000 บาทต่อลูกจ้างสัญชาติไทย 1 คนต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน (พ.ย.2564-ม.ค.2565) โดยจะจ่ายเงินอุดหนุนผ่านบัญชีธนาคารที่นายจ้างแจ้งไว้ ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน โดยมีเงื่อนไขกำหนดให้รักษาการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 95% ในระหว่างเข้าร่วมโครงการ.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ