นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยว และกีฬา เปิดเผยว่า วันที่ 24 ก.ย.2564 ผู้ที่สนใจใช้สิทธิ์ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 และ โครงการทัวร์เที่ยวไทย สามารถเข้าลงทะเบียนยืนยัน ตัวตนในเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ทั้งผู้ที่ยังไม่เคยลงทะเบียน และผู้ที่เคยใช้สิทธิ์แล้ว และหลังจากยืนยันสิทธิ์ 7 วัน ระบบจะดำเนินการพิสูจน์สิทธิ์ โดยสามารถใช้สิทธิ์ท่องเที่ยวได้ประมาณ 15 ต.ค. ยาวไปถึงต้นปี 2565 ซึ่งโครงการดังกล่าว ครม.เห็นชอบแล้ว แต่กระทรวงได้ขอชะลอไว้ ตั้งแต่เกิดการระบาดโควิด-19 ระลอกเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดย ททท.เตรียมหารือขยายสิทธิ์เที่ยวครอบคลุมไปถึงเดือน ก.พ.ปีหน้า ส่วนจะได้หรือไม่ต้องหารือกันก่อน
ทั้งนี้ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 เป็น โครงการที่ขยายสิทธิ์เพิ่มอีก 2 ล้านสิทธิ์ และใช้เงินส่วนที่เหลือจากเฟส 1 และเฟส 2 วงเงิน 5,988 ล้านบาท คุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิ์จะเหมือนกับ เฟส 1 และ 2 คือเป็นคนไทยอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป รัฐจะจ่ายค่าห้องให้ 40% ไม่เกิน 3,000 บาท/ ห้อง/คืน ช่วยค่าตั๋วเครื่องบิน 40% พร้อมคูปองอาหาร 600 บาท/วัน โดย ททท.จะร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวสุ่มตรวจตามโรงแรม หรือร้านค้าที่ใช้บริการเพื่อไม่ให้เกิดการทุจริต ซ้ำรอยเฟส 1 และเฟส 2 รวมทั้งกำหนดการป้องกันการสวมสิทธิ์ด้วยระบบสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้สิทธิ์ ขณะที่โครงการทัวร์เที่ยวไทยเป็นการเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ ผู้ที่มีคุณสมบัติเริ่มตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งรัฐจะสมทบเงินให้ 40% ของราคาแพ็กเกจท่องเที่ยว หรือไม่เกิน 5,000 บาทต่อคน หากแพ็กเกจ 12,500 บาท โดยให้สิทธิ์ 1 ล้านคน โครงการนี้คาดใช้เงินประมาณ 5,000 ล้านบาท
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.ได้รับแจ้งจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ว่าโครงการเราเที่ยวด้วยกันและทัวร์เที่ยวไทยจะเปิดให้ลงทะเบียนได้ในวันที่ 24 ก.ย.2564 จากนั้นวันที่ 8 ต.ค.สามารถจองห้องพักได้ และเริ่มเดินทางท่องเที่ยวได้วันที่ 15 ต.ค.นี้ ขณะที่ น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 จะเป็นโครงการต่อเนื่องจากเฟส 1 และเฟส 2 ที่ได้รับสิทธิ์จำนวน 15 ห้อง/คน หากในเฟส 1 และเฟส 2 ใช้สิทธิ์ไปแล้ว 5 สิทธิ์ ในเฟส 3 จะเหลือสิทธิ์ให้เที่ยวอีก 10 สิทธิ์ หรือหากใช้สิทธิ์ไปแล้ว 9 สิทธิ์ ก็จะเหลืออีก 6 สิทธิ์ ในเฟส 3.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง