เปิดประเทศไม่กักตัว ม.ค. 65 “พิพัฒน์” จ่อชง ศบค.รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

Money

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เปิดประเทศไม่กักตัว ม.ค. 65 “พิพัฒน์” จ่อชง ศบค.รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

Date Time: 6 ก.ย. 2564 05:55 น.

Summary

  • “พิพัฒน์” เตรียมชง ศบค.อนุมัติเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว เริ่มต้น 15 ม.ค.2565 รอหลังสิ้นปีเพื่อให้คนไทยทั้งประเทศจะได้รับวัคซีนครบ 70% เผยการเปิดกรุงเทพฯรับต่างชาติ

Latest

ทุ่มงบสร้างมอเตอร์เวย์ “M9” ครม.ไฟเขียวโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย”

“พิพัฒน์” เตรียมชง ศบค.อนุมัติเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว เริ่มต้น 15 ม.ค.2565 รอหลังสิ้นปีเพื่อให้คนไทยทั้งประเทศจะได้รับวัคซีนครบ 70% เผยการเปิดกรุงเทพฯรับต่างชาติต้องเลื่อนไปเป็นเดือน พ.ย. ขณะที่ “เราเที่ยวด้วยกัน-ทัวร์ทั่วไทย” จะเริ่ม ต.ค. ก่อนเปิดให้คนไทยเที่ยวอิสระทั่วประเทศ พ.ย.นี้ ด้านภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 2 เดือน ต่างชาติมา 26,400 คน สร้างรายได้ 1,634 ล้านบาท

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ประชุมกับผู้บริหารการ ท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย ถึงแผนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว กรณีของการเปิดแบบไม่กักตัวทั้งประเทศจะดำเนินการได้วันที่ 15 ม.ค.65 เพราะต้องรอให้การฉีดวัคซีนในประเทศครบ 70% ของประชากรในสิ้นปีนี้ก่อน ส่วนแผนการเปิด 5 จังหวัดเพิ่มในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ (อ.เมือง อ.แม่ริม อ.ดอยเต่า) ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) เพชรบุรี (ชะอำ) ชลบุรี (พัทยา อ.บางละมุง อ.สัตหีบ) ในกรณีของกรุงเทพมหานครจะต้องเลื่อนออกไปเดือน พ.ย. เพื่อให้ประชากรในกรุงเทพฯและปริมณฑล ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส ได้ถึง 70% ของประชากรภายในเดือน ต.ค.นี้ก่อน

ขณะเดียวกัน ได้วางแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่อยู่ในจังหวัดนำร่อง เช่น ภูเก็ต เกาะสมุย ครบ 7 วันแล้ว สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวต่อได้ในอีก 25 จังหวัด กำหนดเริ่มในวันที่ 15 ต.ค.เป็นต้นไป ประกอบด้วย ภาคเหนือ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย แพร่ น่าน ลำพูน สุโขทัย ภาค อีสาน ได้แก่ อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ อุบลราชธานี เลย (เชียงคาน) ภาคตะวันออก ได้แก่ ระยอง (เกาะเสม็ด) จันทบุรี ตราด (เกาะกูด เกาะช้าง) ภาคตะวันตก ได้แก่ ราชบุรี กาญจนบุรี ภาคใต้ ได้แก่ ระนอง ตรัง สตูล สงขลา นครศรีธรรมราช พัทลุง และภาคกลาง ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา

“กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะนำเสนอแผนดังกล่าวต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.ภายในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้อนุมัติให้เดินหน้า พร้อมกับเร่งกระจายวัคซีนลงไปยังพื้นที่ดังกล่าวเพื่อฉีดให้กับคนในพื้นที่ได้ครบ 70% ก่อนถึงกำหนดการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมกันนี้จะเสนอแผนช่วงที่ 4 กำหนดดำเนินการระหว่างวันที่ 1-15 ม.ค.เป็นการ Bubble หรือแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ ตามแนวชายแดน ได้แก่ กัมพูชา เมียนมา ลาวและมาเลเซีย ซึ่งที่ผ่านมามีรายได้จากการท่องเที่ยวส่วนนี้ถึงปีละ 200,000 ล้านบาท”

สำหรับแผนการเปิดให้คนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศ ที่มีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 ซึ่งรัฐสนับสนุนค่าโรงแรม 40% ให้คูปองอาหาร 600 บาทต่อคืน และสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% และโครงการทัวร์เที่ยวไทย ที่รัฐสนับสนุนวงเงิน 5,000 บาท เที่ยวผ่านบริษัททัวร์ซึ่งปัจจุบัน

ทั้งสองโครงการมีกรอบเงินกู้คงเหลือ 10,988 ล้านบาท จากเราเที่ยวด้วยกัน 5,958 ล้านบาทและทัวร์เที่ยวไทย ที่ยังไม่ได้เริ่มเลย 5,000 ล้านบาท กระทรวงการท่องเที่ยวฯจะเสนอ ศบค.ขอเริ่มให้คนไทยเที่ยวผ่าน 2 โครงการนี้ได้ในเดือน ต.ค. ต่อจากนั้นในเดือน พ.ย.จะเสนอให้คนไทยเที่ยวทั่วประเทศได้แบบไม่มีเงื่อนไข

รมว.การท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่า ด้านสถาน การณ์ท่องเที่ยว 2 เดือน ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (1 ก.ค.-31 ส.ค.2564) มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมา 26,400 คน และที่มีจำนวนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 3,482 คน สหราชอาณาจักร 3,351 คน อิสราเอล 2,909 คน เยอรมนี 2,092 คน และฝรั่งเศส 2,083 คน โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามามีการใช้จ่าย

ด้านการท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 1,634 ล้านบาท เป็นการใช้จ่ายด้านที่พัก 565 ล้านบาท การซื้อสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว 376 ล้านบาท การซื้ออาหารและเครื่องดื่ม 350 ล้านบาท ค่าบริการทางการแพทย์และสุขภาพ 229 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก 114 ล้านบาท โดยก่อให้เกิดเม็ดเงินที่หล่อเลี้ยงและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 3,818 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน 5,352 คน สร้างผลตอบแทนการจ้างงาน 416 ล้านบาท รัฐเก็บภาษีได้ 171 ล้านบาท.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ