พรุ่งนี้ 4 ส.ค. เงินเยียวยา ม.33 ทยอยเข้าพร้อมเพย์

ผู้ประกันตน ม.33 เช็กสิทธิ์ เตรียมพร้อมรับเงินเยียวยา ทยอยเข้าพร้อมเพย์ที่ผูกด้วยเลขบัตรประชาชน พรุ่งนี้ (4 ส.ค.) ประเดิม 9 กิจการ ใน 10 จังหวัด อีก 3 จังหวัด ได้เงิน 9 ส.ค.

กรณีการจ่ายเงินเยียวยากลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการ ตามมาตรการบรรเทาผลกระทบโควิด-19 ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สงขลา ใน 9 ประเภทกิจการ ได้แก่ กิจการก่อสร้าง กิจการที่พักแรมบริการด้านอาหาร กิจกรรมศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ กิจกรรมบริการด้านอื่นๆ สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า สาขาขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ สาขากิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน สาขากิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ สาขาข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร ซึ่งตามกำหนดจะมีการทยอยจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตน ตั้งแต่พรุ่งนี้ (4 ส.ค.64) วันละ 1 ล้านบัญชี ผ่านระบบพร้อมเพย์ เนื่องจากระบบสามารถดำเนินการได้วันละ 1 ล้านบัญชี และจะโอนครบทุกคนภายในวันที่ 6 ส.ค.64

ทั้งนี้ เงินที่ผู้ประกันตน ทั้งในส่วนของลูกจ้าง และนายจ้าง จะได้รับแบ่งเป็น

1.ผู้ประกันตน ม.33 รับเงินเยียวยา 2 ส่วน คือ เงินชดเชย 50% ของค่าจ้าง สูงสุด 7,500 บ. และเงินชดเชยเพิ่มเติมอีก 2,500 บ./คน ตั้งแต่วันที่ 4-6 ส.ค. 64 วันละ 1 ล้านราย ยกเว้น จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และอยุธยา จะได้รับเงินเยียวยาวันที่ 9 ส.ค. 64

2.นายจ้าง ม.33 รับเงินเยียวตามจำนวนลูกจ้าง หัวละ 3,000 บาท สูงสุด 200 คน ภายในวันที่ 6 ส.ค. 64 ยกเว้น จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และอยุธยา จะได้รับวันที่ 9 ส.ค. 64

ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถเช็กสิทธิ์ของตัวเองได้ที่ https://www.sso.go.th โดยการกรอกเลขที่บัตรประชาชน และกรอกรหัสให้ตรงกับรูปภาพที่กำหนดให้

และอย่างที่มีการกำหนดไว้ว่า การโอนเงินครั้งนี้จะโอนผ่านพร้อมเพย์ที่ผูกกับหมายเลขบัตรประชาชน ดังนั้น สำหรับผู้ประกันตนที่ได้สิทธิ์และมีบัญชีธนาคาร แต่ยังไม่ได้ผูกพร้อมเพย์กับหมายเลขบัตรประชาชน หรือเดิมผูกด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือ สามารถดำเนินการผูกบัญชี หรือเปลี่ยนพร้อมเพย์จากโทรศัพท์มือถือมาเป็นผูกกับหมายเลขบัตรประชาชนด้วยตนเอง ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารที่มีบัญชีอยู่ เช่น Mobile Application, Internet Banking และเครื่อง ATM ตามช่องทางที่แต่ละธนาคารให้บริการ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาธนาคาร 

ส่วนผู้ประกันตนที่ได้รับสิทธิ์ และยังไม่เคยมีบัญชีเงินฝาก สามารถใช้บริการเปิดบัญชีผ่านช่องทางออนไลน์ จากนั้นค่อยลงทะเบียนผูกพร้อมเพย์ด้วยหมายเลขบัตรประชาชน ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อขอรับสิทธิ์ตามมาตรการเยียวยาดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม วันนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบขยายขอบเขตมาตรการบรรเทาผลกระทบและให้ความช่วยเหลือกลุ่มแรงงาน ผู้ประกอบการ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 พร้อมขยายกรอบวงเงินการให้ความช่วยเหลือ เพิ่มเป็น 60,000 ล้านบาท จากเดิม 30,000 ล้านบาท เนื่องจากพื้นที่สีแดงเข้มมีการประกาศเพิ่มเติมจาก 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด

ซึ่งสาระสำคัญในที่ประชุม ได้เพิ่มระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือ กลุ่ม 13 จังหวัดเดิม เป็นเวลา 2 เดือน คือ ก.ค.-ส.ค. 64 และกลุ่ม 16 จังหวัดที่เพิ่มเติมเข้ามาใหม่ 1 เดือน คือ ส.ค. 64

ทั้งนี้ จะต้องรอความชัดเจนจากกระทรวงแรงงานอีกครั้ง ว่าจะมีการโอนเงินเยียวยาไปยังประชาชนผู้มีสิทธิ์ได้เมื่อไหร่.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เงินเยียวยา ม.33 เริ่มทยอยโอนเข้า "พร้อมเพย์" แล้ว อย่าลืมตรวจสอบสิทธิ์