นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการลงพื้นที่ตรวจสอบการ จำหน่ายน้ำมันปาล์มขวด ที่ย่านตลาดบางขุนศรี, ย่านปิ่นเกล้า ว่า ขอให้ประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนกว่าน้ำมันปาล์มจะขาดแคลน เพราะกระทรวงได้ดูแลอยู่ ยืนยันว่าน้ำมันปาล์มมีเพียงพอสำหรับบริโภค ที่สำคัญขณะนี้สถานการณ์ปาล์มเริ่มคลี่คลายในทางที่ดีแล้ว มีผลปาล์มสดออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ราคาทยอยลดลง เมื่อเทียบจากช่วงต้นเดือน ก.พ. ผลปาล์มสดเคยขึ้นไปถึงกิโลกรัม (กก.) ละ 7-8 บาท แต่ปัจจุบันลดเหลือ กก.ละ 6 บาท ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบลดลงจาก กก.ละ 40 บาท เหลือ กก.ละ 37 บาท ถือว่าราคาได้ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว หลังจากนี้มีแต่ราคาลดลง เห็นได้จากราคาปลายเดือน ก.พ.นี้ ที่เริ่มอ่อนตัวลงจากต้นเดือน ก.พ. และเดือน มี.ค.ก็จะถึงฤดูกาลที่ผลปาล์มออกมากขึ้น จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวลไปกักตุนของไว้ เพราะตนได้ประสานกับผู้ผลิตตลอดเวลา และมีของออกมาต่อเนื่อง
“ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด พบว่า ในห้างค้าปลีกสมัยใหม่วางขายเต็มชั้นวาง ไม่ได้ขาดแคลน และขายเฉลี่ยขวดละ 48-49 บาท กรมการค้าภายในได้หารือกับห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ห้างสรรพสินค้า เพื่อขอให้ดูแลราคาขายให้เหมาะสม ส่วนใหญ่ก็ให้ความร่วมมืออย่างดี บางรายขายโดยไม่เอากำไร เพราะถือเป็นการคืนกำไรให้ลูกค้า ส่วนการจำกัดการซื้อไม่เกินครัวเรือนละ 3 ขวด เป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยให้สินค้าไปยังผู้บริโภคได้ทั่วถึง”
สำหรับกรณีน้ำมันพืชถั่วเหลืองปรับราคาเพิ่มขึ้นจากขวดละ 48-49 บาท เป็นขวดละ 55 บาท เป็นการขึ้นราคาเพียงบางยี่ห้อ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันปาล์มที่สูงขึ้น และมีน้ำมันถั่วเหลืองอีกหลายยี่ห้อที่ยังขายราคาเดิม โดยตนมีหน้าที่ดูแลราคาสินค้าให้เหมาะสม ไม่ทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อน ขณะที่การตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าที่ร้านธงฟ้า ย่านตลาดบางขุนศรี ว่า ไม่มีสินค้ารายการใดปรับขึ้นราคา เพราะมาตรการเราชนะ และยังไม่พบพฤติกรรมการใช้สิทธิโครงการรัฐแลกเงินสดด้วย สำหรับภาพรวมราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะนี้ยังไม่มีการปรับราคา และตามห้างสรรพสินค้ามีการจัดโปรโมชันดูแล ค่าครองชีพประชาชนอยู่ เช่น หมูเนื้อแดง กก.ละ 123 บาท หมูบด กก.ละ 129 บาท อกไก่ กก.ละ 49 บาท ไข่ไก่เบอร์ 3 แผงละ 99 บาท.