ลงทะเบียน "เราชนะ" สำหรับ "กลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ" ลอตแรกที่ลงทะเบียนไว้ระหว่างวันที่ 15 – 21 ก.พ.นี้ เตรียมเช็กสิทธิ์รับเงินเยียวยาในวันที่ 4 มี.ค.นี้
น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดจุดรับลงทะเบียนโครงการเราชนะ (โครงการฯ) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่กลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ณ สาขาและจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานคลังจังหวัด สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ รวมถึงหน่วยรับลงทะเบียนเคลื่อนที่ของกระทรวงมหาดไทยทั่วประเทศ โดยขณะนี้ มีกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. 2564 จนถึงปัจจุบันแล้ว จำนวน 995,349 คน
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ที่ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 15 – 21 ก.พ. 2564 จะทราบผลการคัดกรองคุณสมบัติในวันที่ 4 มี.ค. 2564 และจะได้รับวงเงินสิทธิ์ครั้งแรกในวันที่ 5 มี.ค. 2564 และกลุ่มผู้ที่ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 22 ก.พ. – 5 มี.ค. 2564 จะทราบผลการคัดกรองคุณสมบัติในวันที่ 15 มี.ค. 2564 และจะได้รับวงเงินสิทธิ์ครั้งแรกในวันที่ 19 มี.ค. 2564
สำหรับข้อมูลความคืบหน้าของการเข้าร่วมโครงการฯ ณ วันที่ 22 ก.พ. 2564 มีดังนี้ ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 2564 เป็นต้นมา จำนวน 23,457.9 ล้านบาท สำหรับประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com เป็นผู้ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ จำนวนมากกว่า 15.1 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. 2564 เป็นต้นมา จำนวน 18,064.5 ล้านบาท รวมมีผู้ใช้สิทธิ์โครงการฯ จำนวน 28.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยไปแล้วมากกว่า 41,522.4 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จังหวัดที่มียอดการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สูงสุด 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, นครราชสีมา, อุบลราชธานี, ขอนแก่น และเชียงใหม่ ตามลำดับ ผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน "ถุงเงิน" ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการ/ร้านค้าและบริการรายย่อยที่เข้าร่วมโครงการฯที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนมากกว่า 1.08 ล้านกิจการ.