บอร์ดสลากฯ เผยต้นตอสลากราคาแพง เหตุมีผู้ค้าหน้าใหม่เพิ่มขึ้นหลังเศรษฐกิจไม่ดีคนหันมาขายลอตเตอรี่กันมาก พร้อมสั่งสำนักงานสลากฯ กำหนดเกณฑ์ผู้ค้าสลากใหม่แก้ปัญหาคนนำสลากไปขายช่วง–รวมชุด โดยการเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชน เล็งพิมพ์สลากเกิน 100 ล้านฉบับ ถ้าหากประชาชนมีความต้องการสลากเพิ่ม
นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวหลังประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลนัดพิเศษ ว่า เนื่องจากเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องซื้อสลากราคาสูงในตลาด ซึ่งสาเหตุหลักมาจากตลาดขายส่งมีผู้ซื้อสลากหน้าใหม่เข้ามาแย่งชิงซื้อสลากเพื่อนำไปขายต่อจำนวนมาก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้บางคนหันมาประกอบอาชีพขายสลากหรือทำเป็นอาชีพเสริมมากขึ้น ประกอบกับประชาชนมีความต้องการสลากสูงขึ้น จึงส่งผลให้สลากในระบบราคาเพิ่มขึ้นตามความต้องการด้วย
ดังนั้น บอร์ดสลากฯ จึงสั่งให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พิจารณาการจัดระบบโควตาและระบบซื้อจองสลากจากธนาคารกรุงไทยใหม่ ซึ่งปัจจุบันแบ่งเป็น การซื้อจองผ่านธนาคารกรุงไทย 67 ล้านใบ และระบบโควตา 33 ล้านใบ รวมเป็น 100 ล้านฉบับ เพื่อดึงผู้ค้าหน้าใหม่ซึ่งเป็นผู้ค้าที่อยู่นอกระบบที่รับจองซื้อสลากเข้ามาอยู่ในระบบ ลดปัญหาการซื้อสลากจากตลาดขายส่ง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เมื่อสลากไปถึงมือประชาชนจึงมีราคาแพงขึ้นหลายเท่าตัว
รวมถึงให้สำนักงานสลากฯกำหนดเกณฑ์คุณสมบัติผู้ขายสลากในระบบให้ชัดเจน เพื่อดึงให้ผู้ที่ต้องการขายสลากตัวจริงเข้าสู่ระบบให้มากที่สุด ป้องกันการนำสลากไปขายต่อหรือขายช่วงให้กับผู้ค้ารายอื่น ซึ่งนำไปสู่การรวมชุดสลากและทำให้สลากราคาแพงอย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนก่อนว่าควรจะกำหนดเกณฑ์หรือจัดระบบอย่างไร ผ่านช่องทางต่างๆ
“ส่วนสลากที่สำนักงานสลากพิมพ์อยู่ในปัจจุบันจำนวน 100 ล้านฉบับนั้น บอร์ดสลากฯ เห็นว่ายังเป็นปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการซื้อของประชาชนอยู่ ในขณะที่ผู้ค้าสลากฯมีความ ต้องการสลากมากกว่า 100 ล้านฉบับเห็นได้จากระบบจองซื้อสลากที่เปิดจองเพียง 2 นาทีผู้ค้าสลากก็จองสลากหมดเกลี้ยง อย่างไรก็ตาม ถ้าในอนาคตมีข้อมูลว่าประชาชนมีความต้องการสลากเกิน 100 ล้านใบ บอร์ดสลากฯก็พร้อมพิจารณา แต่ต้องสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องที่ประชาชนมีความต้องการสลากเพิ่มขึ้นได้”
ส่วนการแก้ไขปัญหาสลากแพงในระยะยาวนั้น กฎหมายได้เปิดช่องให้สำนักงานสลากฯสามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้บอร์ดสลากฯ พบว่า มีประชาชนร้องขอมาโดยตลอดว่าอยากให้สำนักงานสลากฯออกผลิตภัณฑ์ใหม่นอกเหนือจากสลากใบที่มีอยู่เพื่อทำให้สามารถซื้อสลากใบในราคา 80 บาทได้ เพราะมีเกมใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งเรื่องนี้บอร์ดสลากฯได้เดินหน้าเต็มที่ โดยจะเร่งสรุปแนวทางและรายละเอียดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะออกมาให้เร็วที่สุด ก่อนเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และผู้ที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน
“การออกผลิตภัณฑ์ใหม่จะต้องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนผู้ซื้อสลากจำนวน 20 ล้านคน และผู้ค้าสลากในระบบและนอกระบบจำนวนกว่า 200,000 รายด้วย เพราะเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อคนหลายกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ค้าสลากเดิมที่อยู่ในระบบจองซื้อและโควตา รวมถึงสมาคมคนพิการที่จะมีรายได้ลดลงด้วย ดังนั้นเพื่อไม่ให้คนกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะออกมา สำนักงานสลากฯได้จัดจ้างที่ปรึกษาจากสถาบันการศึกษาเพื่อช่วยศึกษาผลิตภัณฑ์ใหม่และศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้ผู้ค้าสลากเกิดผลกระทบน้อยที่สุด และลดการเปลี่ยนมือของสลากใบในระบบให้มากที่สุด ซึ่งทำให้สลากในปัจจุบันราคาแพง”
ด้านนายบุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า จะเร่งสรุปรายละเอียดเรื่องต่างๆ ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ เพื่อนำเสนอบอร์ดต่อไป.