ชาวสวนบ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี โค่นต้นเงาะโรงเรียนอายุกว่า 30 ปีทิ้ง แล้วหันมาปลูกทุเรียนหมอนทองใส่ดินภูเขาไฟบำรุงจนได้ผลทุเรียนสวย โดยผลผลิตลอตแรกแม้จะออกน้อย แต่ขายได้ราคาไม่น้อยกว่า 180 บาท/กก.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนผลไม้ของนายประเสริฐ เพชรชิต พานักข่าวไปดูการเก็บทุเรียนหมอนทองภูเขาไฟ ภายในสวนของตนเอง พื้นที่อำเภอบ้านนาสาร แหล่งปลูกเงาะโรงเรียนนาสารแหล่งใหญ่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา ได้เริ่มปรับเปลี่ยนจากการปลูกเงาะโรงเรียนนาสาร มาเป็นทุเรียนหมอนทองพร้อมบำรุงด้วยดินภูเขาไฟ จนได้ทุเรียนที่ลูกสวย เนื้อนุ่มเม็ดเล็ก อร่อยกว่าปีที่ผ่านมา แม้ปีนี้จะให้ผลผลิตน้อย แต่ก็สร้างรายได้งามจากราคาที่สูง

...

นายประเสริฐ เพชรชิต อายุ 72 ปี เจ้าของสวน กล่าวว่า ตนมีที่ดินอยู่ประมาณ 10 ไร่ ทำสวนเงาะโรงเรียนนาสารมาไม่น้อยกว่า 30 ปี แต่เนื่องจากราคาของเงาะโรงเรียนในแต่ละปีไม่เสถียรหรือราคาไม่คงที่ บางปีก็ขายได้เพียงกิโลกรัมละประมาณ 10-15 บาท บางปีก็ได้ประมาณ 20-30 บาท เช่น ปีนี้เงาะโรงเรียนติดผลน้อยเนื่องจากสภาพอาการที่แล้ง ก็จะได้ราคาดีกว่าปกติ แต่ไม่รู้ว่าจะได้ราคาดีแบบนี้เมื่อไรอีก จึงตัดสินใจปรับเปลี่ยนจากเดิมที่เคยมีเงาะโรงเรียนกว่า 100 ต้น ปัจจุบันเหลือเพียง 20 ต้น พร้อมปลูกแซมด้วยทุเรียนหมอนทองมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันตนเองมีทุเรียนหมอนทองอยู่ 3 รุ่น อายุระหว่าง 4-7 ปี จำนวน 200 ต้น พร้อมใช้ดินภูเขาไฟมาปรับสภาพดิน เป็นธาตุอาหารให้กับต้นทุเรียน ทำให้ต้นแข็งแรง สามารถประหยัดต้นทุนจากการใช้สารเคมีได้อย่างมาก

นอกจากนี้ การนำดินภูเขาไฟมาใส่ยังทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากดินภูเขาไฟมีแร่ธาตุหลายตัวทำให้ทุเรียนที่ออกมารุ่นแรกมีความอร่อย เนื้อนุ่ม เมล็ดในเล็ก ปลอดภัยต่อผู้บริโภค แม้ในปีนี้จะแล้งมาก ทำให้ทุเรียนหมอนทองดินภูเขาไฟ ที่ให้ผลผลิตแล้วติดลูกน้อย ได้ผลผลิตประมาณตันกว่า ขายกิโลกรัมละไม่น้อยกว่า 180 บาท ดีกว่าทุเรียนหมอนทองทั่วไป และไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค คาดว่าในปีถัดไปสภาพอากาศจะอำนวยทำให้ทุเรียนให้ผลผลิตมากกว่าปีนี้.