ชาวนาที่บ้านเต่านอ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น เร่งปลูกพืชใช้น้ำน้อยในช่วงหลังนาปี เพื่อทดแทนการทำนาปรังหลังภาครัฐประกาศของดทำนาปรัง ส่วนข้าวนาปียังเก็บไว้ในยุ้ง รอเดือน เม.ย. คาดราคาข้าวเปลือก ทะลุ กก.ละ 15-20 บาท
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจการทำนาปรัง ที่บริเวณที่นาด้านหลังพุทธมณฑลอีสาน ริมถนนเลี่ยงเมืองสายขอนแก่น-กาฬสินธุ์ บ้านเต่านอ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังพบว่าปีนี้ในเขตดังกล่าวจะไม่มีการปล่อยน้ำให้กับเกษตรกรทำนาปรังเนื่องจากต้องรักษาปริมาณน้ำเก็บกักของเขื่อนอุบลรัตน์ไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง ทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่ต้องปลูกพืชใช้น้ำน้อยในระยะนี้ แทนการทำนาปรังเพื่อมีรายได้มาใช้จ่ายในครอบครัว
นายบุญนาค เพ็งนารินทร์ อายุ 82 ปี ชาวบ้านเต่านอ ม.1 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า นาปีที่ผ่านมา ครอบครัวทำนาทั้งหมด 12 ไร่ แยกเป็นข้าวเหนียว 9 ไร่ ข้าวเจ้า 3 ไร่ โดยนาปีที่ผ่านมาได้ข้าวกว่า 300 กระสอบ หรือประมาณ 10 ตัน เนื่องจากน้ำดีและมีการบริหารจัดการพื้นที่และมีการเตรียมแปลงอย่างดี แต่มาถึงช่วงนาปรังปีนี้ทางการประกาศว่า จะไม่ปล่อยน้ำให้กับเกษตรกรเตรียมได้ทำนาปรัง จึงต้องวางแผนต่อว่าจะทำอย่างไรในระยะนี้
...
"ก็คงต้องปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทนเพื่อให้มีรายได้ เพราะนาปีเราได้เงินจากการขายข้าวนับแสนบาท และผลผลิตก็ดีตามหลักวิชาการแต่พอมาถึงนาปรังเมื่อทางการประกาศขอความร่วมมือเราในฐานะเกษตรกรก็ต้องทำตามจะฝืนปลูกก็ไม่ได้เพราะไม่มีน้ำ" ชาวนา บ้านเต่านอ จ.ขอนแก่น กล่าว
นายบุญนาค กล่าวต่ออีกว่า เพื่อให้มีรายจ่ายเพียงพอผ่านพ้นในช่วงนาปรัง จึงต้องเก็บผลผลิตข้าวนาปีปีนี้ ซึ่งขณะนี้ราคาข้าวเปลือกอยู่ที่ กก.ละ 10-12 ซึ่งถือเป็นราคาตลาดทั่วไป โดยรอช่วงเดือน เม.ย. ที่คาดว่าราคาข้าวจะขยับขึ้น กก.ละ 15-20 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่เกษตรกรพึงพอใจอย่างมาก ดังนั้นจึงทำการเก็บข้าวไว้ในยุ้งเพื่อรอจังหวะและราคาในช่วงดังกล่าว ซึ่งก็จะทำให้มีรายได้เสริมเพิ่มเติมเข้ามาด้วยทำให้ขณะนี้เกษตรกรในพื้นที่เริ่มไถกลบตอซังและราดน้ำ พด.2 ย่อยสลายตอซังให้กลายเป็นปุ๋ยกันอย่างต่อเนื่องแล้ว.