นายกเทศมนตรีสุไหงโก-ลก ชวนประชาชน และคอทุเรียนในพื้นที่ ร่วมกิจกรรม "บุฟเฟต์ทุเรียนบางนรา" (สายแร่ทองคำ) คิดเงินหัวละ 199 บาท มีให้ 300 ที่ วันละ 3 รอบ รอบละ 50 คน ระหว่าง 29-30 ก.ย. 66 ที่ถนนคนเดิน ฟู้ดเซ็นเตอร์ สุไหงโก-ลก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ร่วมกับเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก และ หจก.รุสกีผลไม้ เตรียมจัดงานบุฟเฟต์ทุเรียนบางนรา หรือ ทุเรียนสายแร่ทองคำ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐิจในพื้นที่ และสร้างรายได้แก่เกษตรกรชาวสวนทุเรียนในจังหวัดนราธิวาส ตลอดจนสร้างการรับรู้ให้คนไทยและชาวมาเลเซีย ได้ลิ้มรสทุเรียนบางนรารสอร่อย โดยกำหนดให้รับประทานทุเรียนได้ไม่อั้นในราคาหัวละ 199 บาท รอบละ 1 ชั่วโมง มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 กันยายน 2566 ณ ถนนคนเดิน ฟู้ดเซ็นเตอร์ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส โดยคูปองมีจำกัดเพียง 300 ใบ

นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก กล่าวเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมรับประทานบุฟเฟต์ด้วยกัน โดยเปิดเผยว่า ในห้วงนี้เป็นฤดูกาลของผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียน ซึ่งปัจจุบันจังหวัดนราธิวาสได้พัฒนาและยกระดับคุณภาพทุเรียนจากพื้นที่จังหวัดนราธิวาสภายใต้ชื่อทุเรียนบางนรา หรือ ทุเรียนสายแร่ทองคำ ขณะนี้อยู่ระหว่างการผลักดันให้เป็นทุเรียนเกรดพรีเมี่ยมที่จดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ประกอบกับประชาชนในพื้นที่และชาวมาเลเซียมีความสนใจบริโภคทุเรียน จึงมีการกำหนดจัดกิจกรรมบุฟเฟ่ต์ทุเรียนในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาสขึ้น ทั้งนี้เชื่อว่าพื้นที่สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นเมืองชายแดนจะสามารถตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวและผู้สนใจได้ 

...

สำหรับรูปแบบการจัดงาน จะจำหน่ายคูปองใบละ 199 บาทล่วงหน้า สามารถติดต่อซื้อคูปองได้ที่เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก โรงเเรมเก็นติ้ง และหากยังมีบัตรเหลือจะนำไปจำหน่ายหน้างานที่ตลาดฟู้ดเซ็นเตอร์ โดยขณะนี้มีผู้สนใจซื้อคูปองไปส่วนหนึ่งแล้ว สำหรับผลไม้ที่เปิดให้รับประทานไฮไลต์ คือ ทุเรียนบางนรา พันธุ์หมอนทอง ก้านยาว และชะนี ที่ปอกให้รับประทาน ข้าวเหนียวทุเรียนหวานมันกลมกล่อม รวมทั้งมังคุด และเงาะ สามารถรับประทานได้ไม่อั้น ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง

ทั้งนี้จะเปิดเป็น 3 รอบ รอบละ 50 ท่าน เริ่มกิจกรรมเวลา 12.00 น. และหลังจากที่ร่วมรับประทานบุฟเฟต์ผลไม้แล้ว สำหรับรอบวันที่ 29 กันยายน 2566 ยังสามารถเดินเล่นต่อ ณ ถนนคนเดิน ฟู้ดเซ็นเตอร์ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมถนนคนเดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งมีร้านเปิดบริการมากถึง 250 ร้าน จึงขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกของอำเภอสุไหงโก-ลก เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในพื้นที่.